09.00 INDEX มรสุม โลหิต ในการปรับครม. กับบทบาท อนุทิน ภูมิใจไทย
เพียงเห็นข่าว 80 ส.ส.พรรคพลังประชารัฐผนึกตัวเรียกร้องผ่าน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ไปยัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มิให้ดึง เอา “คนนอก” มาดำรงตำแหน่งในการปรับครม.
ก็สัมผัสได้ในความร้อนแรงที่จะตามมาและยากจะลงตัวได้อย่างง่ายดายในทางการเมือง
คำถามที่เกิดขึ้นก็คือ อำนาจในการปรับครม.ยังคงอยู่ในกำมือของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ซึ่งเรียกขานกันว่า “กลุ่ม 3 ป.” จริงหรือไม่
การเคลื่อนไหวล่าสุดของ 80 ส.ส.พรรคพลังประชารัฐไม่เพียงตั้งเป้าหมายเพื่อยืนยันว่า กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงดิจิทัลเพื่อ เศรษฐกิจและสังคมเป็นโควต้าของพรรคพลังประชารัฐเท่านั้น
หากยังเป็นการเตือนด้วยว่าพลังอย่างแท้จริงนับแต่สถานการณ์เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ และเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์อยู่ในมือของใคร
นี่เป็นคำถามโดยตรงไปถึงอำนาจที่เคยมีอยู่ในมือของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อย่างมีนัยสำคัญ
หากฟังจากถ้อยแถลงล่าสุดจากปากอันมากด้วยความรู้สึกของ พล. อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ คล้ายกับยังมอบอำนาจและการตัดสินใจให้ กับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เหมือนเดิม
นั่นก็คือ ยืนยันสัดส่วนการดำรงตำแหน่งในครม.ยังดำเนินไปเหมือนกับที่เคยตกลงกันเมื่อเดือนมิถุนายน 2562
แต่ความเป็นจริงที่มิอาจปฏิเสธได้ก็คือ สถานการณ์และความเป็นจริงในการลงมติไว้วางใจในวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2564 แสดงออกอย่างเด่นชัดถึงการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ
1 บ่งบอกปัญหาอันดำรงอยู่ภายในพรรคพลังประชารัฐ 1 ปัญหาอันเป็นความขัดแย้งระหว่างพรรคพลังประชารัฐกับพรรคภูมิใจไทย 1 ปัญหาอันดำรงอยู่ภายในพรรคประชาธิปัตย์
นี่คือ โจทย์ทางการเมืองที่มิอาจมองข้ามได้อย่างเด็ดขาด
เหมือนกับเป็นโจทย์ของพรรคพลังประชารัฐ พรรคภูมิใจไทย พรรคประชาธิปัตย์ แต่สะเทือนถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
แม้ว่าจะมีความเกี่ยวพันกับตำแหน่งของ 3 รัฐมนตรีที่ต้องพ้นไปเนื่องจากคำพิพากษาของศาล แม้ว่าไม่มีตำแหน่งใดที่พรรคภูมิใจ ไทยจักต้องมาเกี่ยวข้อง
กระนั้น หากดูการเคลื่อนไหวที่รวมศูนย์ไปยัง นายอนุทิน ชาญ วีรกูล ก็เด่นชัดยิ่งว่าพรรคภูมิใจไทยมีความสำคัญอย่างไร