เดินทะลุฟ้า แวะค่ายอดิศร ส่งใจทหารผู้น้อย อัดประโยชน์ ‘ยุทโธปกรณ์’ ไว้รปห. ปล้นอำนาจ ปชช.

‘เดินทะลุฟ้า’ วันที่ 11 ปักหมุด 17 กม. แวะ ‘ค่ายอดิศร’ ยื่นแผ่นพับ-ส่งใจทหารผู้น้อย อัดประโยชน์ ‘ยุทโธปกรณ์’ ไว้รัฐประหาร ปล้นอำนาจ ปชช.

เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า กิจกรรม “เดินทะลุฟ้า” คืนอำนาจประชาชน ของ กลุ่มราษฎร และ People Go Network ซึ่งจัดขึ้นในรูปแบบเดินเท้า จากจังหวัดนครราชสีมา ถึงกรุงเทพมหานคร รวมระยะทาง 247.5 กิโลเมตร เพื่อขับไล่รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา พร้อมเรียกร้องให้ปล่อย 4 แกนนำ ที่ถูกควบคุมตัวอยู่ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพ

สำหรับการเดินในวันที่ 11 กำหนดระยะทาง รวม 17 กิโลเมตร จากจุดเริ่มต้น สะพานลอย รพ.เกษมราษฎร์ จ.สระบุรี

จุดพักที่ 1 โรงพยาบาลมิตรภาพเมโมเรียล สระบุรี ระยะทาง 2.4 กม.
จุดพักที่ 2 ปตท. ค่ายอดิศร ระยะทาง 3.4 กม.
จุดพักที่ 3 ปั๊ม ปตท. สามชาย กม.100 ระยะทาง 3.5 กม.
จุดพักที่ 4 พักกลางวัน ปั๊มPTT สระบุรี ระยะทาง 2.8 กม.
จุดพักที่ 5 ธนาคารกรุงไทย สาขาหินกอง ระยะทาง 4 กม.
จุดสิ้นสุด ส.ทล.2 ตำรวจทางหลวงสระบุรี ระยะทาง 1.7 กม.

โดยทางกลุ่มระบุว่า วันนี้จะเดินเป็นระยะทางมากกว่าทุกวัน เพื่อชดเชยวันที่ 26 กุมภาพันธ์ ซึ่งเดินได้น้อยเพราะอากาศร้อนและถนนเดินลำบาก

Advertisement

เวลา 09.00 น. มวลชนออกเดินขบวน จาก สถานีบริการน้ำมัน ปตท. ก่อนถึงโรงพยาบาลเกษมราษฎร์ จ.สระบุรี มุ่งหน้าไปยังจุดพักที่ 2 เข้าสู่กิโลเมตรที่ 157.8 โดยในช่วงเช้ามีประชาชน และวินมอเตอร์ไซค์รับจ้าง ร่วมส่งกำลังใจตลอดสองข้างทาง ขณะที่ขบวนถึง ตลาดสระบุรี

เวลา 10.30 น. ขบวนเดินทะลุฟ้า ถึงหน้าศูนย์การทหารม้า ค่ายอดิศร โดยมีการแจกแผ่นพับ “Free speech for all การพูดไม่ใช่อาชญากรรม คุณค่าไม่อาจทำลายเพียงการวิจารณ์ แต่จะพัฒนาให้ล้ำค่ามากกว่าเดิม” ให้กับเจ้าหน้าที่ที่ยืนประจำการณ์หน้าค่ายอดิศร พร้อมทั้งโพสต์ภาพพร้อมข้อความผ่านทางแฟนเพจ “UNME of Anarchy” ด้วยว่า “พบรถถังเป็นจำนวนมากที่มาจากภาษีประชาชน
ประโยชน์ของอาวุธยุทโธปกรณ์ของทหาร เห็นแต่เอาไว้ทำรัฐประหาร ปล้นอำนาจประชาชนก็เท่านั้น
เราเห็นใจทหารชั้นผู้น้อย ที่มีหน้าที่รับใช้นายทหารยศสูง และระบบศักดินา ไม่ได้รับใช้ ‘ประชาชนผู้จ่ายภาษี’ และเป็นเจ้าของอธิปไตยอย่างแท้จริง”

Advertisement

ต่อมา เวลา 11.10 น. มวลชนเคลื่อนขบวนจากจุดพักที่ 2 ไปยังจุดพักที่ 3 ปั๊ม ปตท. สามชาย เข้าสู่กิโลเมตรที่ 161.3

เวลา 12.17 น. ขบวนเดินทะลุฟ้า ออกเดินจากจุดพักที่ 3 ไปยังจุดที่ 4 เข้าสู่กิโลเมตรที่ 164.1 เพื่อพักกลางวัน ณ ปั๊ม PTT สระบุรี โดยตัวแทนเครือข่ายแรงงานเพื่อสิทธิประชาชน ก็ได้มาร่วมขบวนด้วย

โดยทุกค่ำคืนของการเดินทะลุฟ้า จะมีรายการศิลปะเสวนา เพื่อสนับสนุนการใช้เสรีภาพเพื่อพูด ฟัง และแสดงออก
สำหรับคืนนี้มีรายการพิเศษ “ราษฎร Weekend สุดสัปดาห์ประชาชน” เวลา 19.00 น. ณ วัดมุจลินทสราราม หนองแค สระบุรี กิจกรรม อาทิ
เสวนา Ep.9 รัฐสวัสดิการทะลุฟ้า
แรปทะลุฟ้า Rap Against Dictatorship (R.A.D)
เขย่าโสตประสาท พิฆาตเผด็จการ
สนุกคิด พิชิตเผด็จการ สร้างรัฐสวัสดิการถ้วนหน้า
ชวนเล่น ชวนคุย Poor Game ทะลุความเหลื่อมล้ำ ความจน และ แนวคิดการจัดระบบรัฐสวัสดิการ
ชวนสนทนา รัฐสวัสดิการ/บำนาญแห่งชาติเกิดขึ้นได้ #ถ้าการเมืองดี
โดย เดชรัต สุขกำเนิด นักวิชาการเศรษฐศาสตร์, นิมิตร์ เทียนอุดม, แสงศิริ ตรีมรรคา เครือข่ายประชาชนเพื่อรัฐสวัสดิการ, นิติรัตน์ ทรัพย์สมบูรณ์ เครือข่าย We Fair

“ทนายเมย์” จากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ได้เดินทางมาร่วมเดินทะลุฟ้ากับราษฎร และ เครือข่าย People Go Network โดยกล่าวถึงการเคลื่อนไหวทางการเมือง นับแต่ 18 มกราคม 2563 เป็นต้นมา ว่ามีความเงียบจากสถานการณ์โควิด-19 ทั้งนี้ จาก 18 กรกฎาคม 2563 ที่มีการชุมนุม ก็เริ่มมีการดำเนินคดีช่วงต้นเดือนสิงหาคม มีคนถูกดำเนินคดีไปแล้ว 291 คน ใน 183 คดี รวมแล้วจนถึงเดือนกุมภาพันธ์นี้อาจจะทะลุ 300 คน

ในส่วนเฉพาะมาตรา 112 มีคนถูกดำเนินคดีไปแล้ว 60 คน ใน 47 คดี ส่วนคดีที่โดนมากที่สุด คือ ฝ่าฝืน พรก.ฉุกเฉิน จำนวน 222 คน ถือว่ามากที่สุดเป็นประวัติการ ซึ่งส่วนตัวคิดว่าสัมพันธ์กับสถานการณ์ทางการเมือง

“ต้องบอกก่อนว่า ด้วยสถานการณ์ทางการเมืองของเรา ไม่เคยมีเยาวชนที่ออกมาเคลื่อนไหวมากขนาดนี้มาก่อน ปลายปีที่ผ่านมาก็มีการเรียกร้องเรื่องโบว์ขาว เรื่องการศึกษา และเรื่องที่เชื่อมกับภาพใหญ่ ทำให้พวกเขาถูกดำเนินคดีจริงๆ ประมาณ 8 คนแล้ว ซึ่งถูกดำเนินคดีมาตรา 112 ด้วย ถือเป็นข้อหาที่ร้ายแรง และเราก็พบว่าเมื่อไม่กี่วันมานี้ มีน้องนักเรียนถูกคุกคาม ซึ่งเด็กสุดก็คือ ม.2 เป็นเรื่องที่กังวลเพราะเยาวชนก็เป็นอนาคตของชาติ การที่เขาออกมาเคลื่อนไหว เพราะเขาคาดหวังถึงสังคมที่ดีกว่านี้ แต่ปัญหากับถูกจัดการด้วยการดำเนินคดีกับประชาชน ซึ่งความจริงเราไม่ควรดำเนินคดีกับเด็ก รวมถึงประชาชนด้วย เพราะว่าเขามาใช้เสรีภาพในการแสดงออก อย่างที่เรามาเดิน หรือปราศรัย ก็คือการแสดงออกทางการชุมนุมอย่างสันติ” ทนายเมย์กล่าว

ด้าน “เอลก้า” นักศึกษาคณะนิเทศศาสตร์ ม.กรุงเทพ กล่าวว่า 3 ข้อเรียกร้องของการเดินครั้งนี้ ก็คือ 1.ให้ปล่อยเพื่อนเรา 2. เขียนรัฐธรรมนูญใหม่ 3.ยกเลิก 112
“พูดตรงๆ ว่าทั้งหมดคือเรื่องเดียวกัน แล้วตอนนี้ก็มีเพื่อนเราที่ก็โดนจับขังไปแล้ว เพื่อนเราอยู่ในคุกแล้ว ซึ่งความจริงเขาไม่สมควรที่จะอยู่ในนั้นตั้งแต่แรก เลยรู้สึกว่า ถ้าการมาทำอะไรซักอย่างให้มันเป็นการกระทำ แอกชั่นให้ชัดเจน ยังไงมันก็ส่งผลให้เกิดอะไรซักอย่าง อย่างน้อยให้คนรู้ว่าเพื่อนเราอยู่ในคุก แล้วก็ช่วยจับตาเฝ้าระวัง ดีที่สุดคือต้องปล่อยเพื่อนเรา” เอลก้ากล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image