สมพงษ์นำ ส.ส.เพื่อไทย นำร่องสัมมนาเชียงใหม่ ดึงเยาวชน ยกระดับอาชีพสู่นักการเมือง

สมพงษ์นำ ส.ส.เพื่อไทย นำร่องสัมมนาเชียงใหม่ ดึงเยาวชน ยกระดับอาชีพสู่นักการเมือง ลั่นถอดบทเรียน-ระมัดระวังตัว หลังถูกยุบพรรค 2 ครั้งแล้ว

เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ ที่ภัตตาคารตูลู่ ถ.นันทาราม ต.หายยา อ.เมืองจ.เชียงใหม่ นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) เป็นประธานเปิดกิจกรรมสัมมนา The Change Maker โดย THINK คิด เพื่อไทยที่ จ.เชียงใหม่ เป็นจังหวัดแรกเพื่อยกระดับอาชีพสู่นักการเมือง

มีนายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองหัวหน้า พท. น.ส.ทัศนีย์ บูรณุปกรณ์ ส.ส.เชียงใหม่ เขต 1 นายนพคุณ รัฐผไท ส.ส.เชียงใหม่ เขต 2 นายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม ส.ส.เชียงใหม่ เขต 3 นายวิทยา ทรงคำ ส.ส.เชียงใหม่ เขต 4 นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ เขต 6 และตัวแทนนายศรีเรศ โกฎคำลือ ส.ส.เชียงใหม่ เขต 9

รวมทั้ง นายคณาพจน์ โจมฤทธิ์ ผู้อำนวยการโครงการฯ น.ส.ชนิกา วงศ์นภาจันทร์ ผู้บริหารโครงการฯ พร้อมนักศึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ และผู้สนใจทั่วไป เข้าร่วมกว่า 100 คน ก่อนตัวแทนได้ยื่นหนังสือการพัฒนาเชิงนโยบายแก่นายสมพงษ์ เพื่อให้พรรคพิจารณาตามลำดับ โดยใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมง

ทั้งนี้กิจกรรมดังกล่าว ได้แบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 3 คน เพื่อระดมความคิดเห็นและนำเสนอแผนโครงการพัฒนาท้องถิ่นหรือชุมชน อาทิ การพัฒนาระบบขนส่งมวลชนเมืองเชียงใหม่ ติดตั้งโซลาร์เซลล์เพื่อการเกษตร ปรับภูมิทัศน์นำระบบไฟฟ้าลงใต้ดิน สร้างพื้นที่สีเขียวและสันทนาการ แก้ปัญหาไฟป่าหมอกควัน ฝุ่น PM2.5 เพื่อฟื้นฟูและอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม โดยให้นำเสนอกลุ่มละ 5-10 นาที ก่อนสรุปความคิดเห็น เพื่อจำลองจัดทำเป็นนโยบายเชิงพัฒนาพื้นที่และระดับชาติตามลำดับ

Advertisement

นายสมพงษ์กล่าวว่า การพัฒนาและยกระดับพรรคการเมือง ไม่ใช่ชนะเลือกตั้งแล้วมี ส.ส.ในสภาเท่านั้น ต้องมองถึงอนาคต ดังนั้นโครงการดังกล่าว เพื่อพัฒนาเยาวชนเข้าสู่อาชีพนักการเมืองตั้งแต่เริ่มต้น เพื่อพัฒนาและทำประโยชน์ให้ประชาชนมากที่สุด อยากเชิญชวนผู้สนใจเข้าร่วมโครงการดังกล่าว

เพราะการเมืองค่อนข้างยุ่งยากและซับซ้อนพอสมควร ซึ่งการจัดทำนโยบายเพื่อสนองตอบประชาชนนั้น ถือเป็นจุดเริ่มต้นเท่านั้น ซึ่ง พท.เป็นพรรคที่มีประสบการณ์และองค์ความรู้การเมือง แต่ยังไม่พอต้องคัดเลือกและสรรหาคนรุ่นใหม่ เพื่อถ่ายทอดประสบการณ์และองค์ความรู้ดังกล่าวไปสู่คนรุ่นใหม่ เพื่อขยายผลและต่อยอดการพัฒนาและยกระดับพรรคสู่มาตรฐานสากลและยั่งยืนต่อไป

Advertisement

“พรรคเริ่มตั้งแต่พรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชน และมาสู่เพื่อไทย ทำให้ผู้มีอำนาจหรือผู้บริหารพรรค ต้องมองจุดอ่อนและสิ่งผิดพลาดที่ผ่านมา เพื่อถอดบทเรียนแก้ปัญหาและหาทางออกให้เกิดประสิทธิภาพมากที่สุด เพราะถูกยุบพรรคมาแล้ว 2 ครั้ง และมีผู้พยายามยุบ พท.อีกครั้ง แต่พวกเราระมัดระวังตัว ไม่อยากทำอะไรให้เกิดปัญหาและยุบพรรคได้

ซึ่งพรรคได้ก้าวมา 3 รุ่นแล้ว ต้องสร้างนักการเมืองรุ่นที่ 4 โดยถ่ายทอดองค์ความรู้ประสบการณ์สู่เยาวชนที่มีความสนใจเป็นนักการเมือง เพื่อนำไปสู่การแก้ไขปัญหาบ้านเมืองต่อไป” นายสมพงษ์กล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image