ผบ.ทสส.สั่งแจงปม ‘หมอทหาร’ หลอกขายวัคซีนทหารช่างไทยใน ‘เซาท์ซูดาน’ เจ้าตัวไม่มาทำงานแล้ว

แฟ้มภาพ

ผบ.ทสส. สั่งแจงปม ‘หมอทหาร’ หลอกขายวัคซีนทหารช่างไทยใน ‘เซาท์ซูดาน’ ช่วงโควิดระบาด

เมื่อวันที่ 2 มีนาคม พล.อ.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.ทสส.) กล่าวถึงกรณีที่สื่อสังคมออนไลน์ได้เผยแพร่เอกสารกองทัพในช่วงเดือนเมษายน 2563 ส่งถึงเลขาธิการแพทยสภาให้พิจารณาเพิกถอนใบอนุญาตผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมแพทย์ทหารไปปฏิบัติหน้าที่ยังกองร้อยทหารช่างเฉพาะกิจไทย/เซาท์ซูดาน เรียกเก็บเงินทหารที่ไปปฏิบัติหน้าที่เป็นค่าวัคซีนไข้หวัดใหญ่ในช่วงการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา ว่า ในช่วงประมาณต้นปี 2563 เริ่มมีการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา แพทย์ทหารจากกองทัพบกที่เดินทางไปกับกองร้อยทหารช่างเฉพาะกิจไทยในเซาท์ซูดาน ไปดำเนินการฉีดวัคซีนให้กำลังพลโดยพลการ ซึ่งการฉีดวัคซีนดังกล่าวก็มีการเก็บเงินจากกำลังพลประมาณ 20 ดอลลาร์ต่อคน รวมประมาณ 5 พันดอลลาร์

พล.อ.เฉลิมพลกล่าวว่า หลังจากนั้นมีการร้องเรียนจากกำลังพลที่กองร้อยทหารช่างฯ ต่อผู้บังคับกองร้อยให้ดำเนินการตรวจสอบ ทางผู้บังคับกองร้อยฯก็ให้ดำเนินการสอบสวน และแจ้งผลกลับมาทางกองบัญชาการกองทัพไทย ในฐานะที่เป็นส่วนอำนวยการซึ่งเราได้จัดเจ้าหน้าที่ฝ่ายเสนาธิการเข้าไปเพื่อประสานระหว่างกองกำลังกับส่วนของยูเอ็น ทางกองทัพไทยจึงได้แจ้งเรื่องไปยังกองทัพบก

พล.อ.เฉลิมพลกล่าวอีกว่า ขณะนั้นผู้แทนสายงานแพทย์ของสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ทราบเรื่องด้วย จึงบอกว่าการดำเนินการฉีดวัคซีนจะไปทำโดยพลการไม่ได้ เพราะการดูแลกำลังพลต้องเป็นไปตามมาตรฐาน กองทัพไทยต้องพิจารณาจัดการด้วย จึงได้มีการสอบสวนต่อ และพบว่ามีการกระทำจริง จึงให้ส่งตัวนายแพทย์ดังกล่าวกลับมาที่ไทย ทางกองทัพไทยก็แจ้งเรื่องให้กองทัพบกสอบสวนเพราะต้นสังกัดอยู่กองทัพบก ปรากฏว่า บุคคลดังกล่าวขาดราชการ และไม่มาทำงานเลย แต่กลับไปร้องเรียนในหลายที่ หลายองค์กร รวมถึงบิดาของแพทย์คนดังกล่าวร้องเรียนด้วย เข้าใจว่าทาง ทบ.ได้ดำเนินการปลดออกจากราชการแล้ว

พล.อ.เฉลิมพลกล่าวว่า รวมถึงดำเนินการในการยื่นข้อมูลต่อแพทยสภาให้พิจารณาเพิกถอนใบอนุญาตผู้ประกอบวิชาเวชกรรม ในเบื้องต้นกำลังพลที่ได้รับการฉีดวัคซีนดังกล่าวไม่มีใครได้รับอันตรายใดๆ แต่ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไรต้องดูจากรายละเอียดที่จากกองทัพบกสอบสวน

ADVERTISMENT

“ในวันนี้ ผมได้ให้ทีมโฆษกและศูนย์ปฏิบัติการเพื่อสันติภาพ กรมยุทธการทหาร ไปรวบรวมข้อมูล และมารายงานผมก่อนแถลงข่าวให้รับทราบ และยืนยันว่า เรื่องดังกล่าวไม่ส่งผลกระทบต่อกองทัพไทย เพราะหากพิจารณาผลงานของกองร้อยทหารช่างเซาท์ซูดานผลัดที่ 1 ถือว่าทำผลงานมาดีและสร้างชื่อเสียงให้ประเทศไทย

“กองทัพไทยเชื่อว่าทางยูเอ็นจะเข้าใจเป็นความผิดส่วนบุคคล ไม่เกี่ยวข้องกับภาพรวม และที่ผ่านมากองทัพไทยได้แจ้งความคืบหน้าการดำเนินการกับแพทย์คนดังกล่าวให้กับยูเอ็นทราบมาโดยตลอด” ผบ.ทสส.กล่าว