เลขาฯรมว.ยธ.แฉไทม์ไลน์วงจรปิด มือเผาหน้าคุกคลองเปรม หลักฐานชัด ผิด 4 ข้อหา โทษหนัก

เลขาฯรมว.ยธ.แฉไทม์ไลน์วงจรปิด มือเผาหน้าคุกคลองเปรม หลักฐานชัด ผิด 4 ข้อหา โทษหนัก

เลขาฯรมว.ยุติธรรมเปิดไทม์ไลน์มือเผาเรือนจำคลองเปรม เผยตำรวจมีหลักฐานชัดเตรียมออกหมายจับผู้ก่อเหตุ ชี้มี 4 ข้อหาหนักถึงขั้นประหารชีวิต เตรียมขยายผลรวบคนบงการ ยันมีกลุ่มการเมืองอยู่เบื้องหลัง

เมื่อวันที่ 2 มีนาคม ว่าที่ ร.ต.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงกรณีการวางเพลิงเผาทรัพย์หน้าเรือนจำกลางคลองเปรม ว่าจากการสืบสวนของตำรวจร่วมกับกรมราชทัณฑ์ ตอนนี้ทราบว่ามีผู้ก่อเหตุ 3 ราย ชาย 2 หญิง 1 ใช้รถยนต์ในการก่อเหตุ ซึ่งตำรวจกำลังรวบรวมหลักฐานเพื่อขอหมายศาลออกหมายจับ รวมถึงการสั่งการของนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ที่เน้นการขยายผล การตรวจสอบเส้นทาง จนได้ทราบว่าเกี่ยวกับกลุ่มการเมือง

ว่าที่ ร.ต.ธนกฤตยังกล่าวว่า ตอนนี้หากเราสาวถึงใครเราดำเนินคดีหมด เพราะเป็นการกระทำที่ถือว่าเป็นสิ่งที่ทำลายความรู้สึกของคนไทย สิ่งที่ทำเป็นโทษที่ร้ายแรงมากเพราะเป็นการวางเพลิงเผาทรัพย์ มีโทษจำคุกตั้งแต่ 5-20 ปี หรือจำคุกตลอดชีวิต

และมีโทษหนักถึงประหารชีวิตเพราะเป็นโรงเรือนและสมบัติของทางราชการ และตรงนี้เป็นเรื่องที่มีความเป็นไปได้เกี่ยวกับการชุมนุม และการที่เจตนาเผาพระบรมฉายาลักษณ์เป็นเรื่องที่ผิดกฎหมายอย่างชัดเจน ตามมาตรา 112 มีโทษจำคุก 3-15 ปี รวมถึงการบุกรุกสถานที่ราชการ มีโทษจำคุก 5 ปี

Advertisement

และยังมีเรื่องของความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ เรื่องการแชร์ภาพอันมิบังควร มีโทษจำคุก 5 ปี รวมแล้วตอนนี้มี 4 ข้อหาหนัก ซึ่งโทษสูงสุดถึงประหารชีวิต ซึ่งทางนายสมศักดิ์ได้เร่งรัดให้นำตัวผู้กระทำความผิดมาลงโทษให้ได้ภายใน 7 วัน

ว่าที่ ร.ต.ธนกฤตกล่าวอีกว่า จากไทม์ไลน์ที่ทางตำรวจ สน.ทุ่งสองห้อง ได้สืบสวนและตรวจหลักฐานจากกล้องวงจรปิดในพื้นที่เกิดเหตุพบว่า จากการตรวจสอบของกล้องวงจรปิด กทม. เวลา 02.46 น. พบรถคนร้ายวิ่งผ่านร้านแกรนด์โฮม ใต้สะพานข้ามแยกพงษ์เพชร งามวงศ์วาน 35

Advertisement

จากนั้นเวลา 02.49 น. จากกล้องของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค สำนักงานใหญ่ พบรถคนร้ายวิ่งผ่านหน้าสำนักงาน ฝั่งถนนงามวงศ์วานขาออก วิ่งผ่านประตูเรือนจำกลางคลองเปรม และเวลา 02.50 น. จากกล้องมุมสูงของการไฟฟ้าฯ

พบรถคนร้ายจอดริมถนนเลยจุดเกิดเหตุประมาณ 50 เมตร เวลา 02.55 น. พบรถคนร้ายถอยกลับมาห่างจากจุดเกิดเหตุ 20 เมตร จนกระทั่งเวลา 03.08 น. พบว่าไฟเริ่มติดตรงจุดเกิดเหตุ และอีก 1 นาทีต่อมาคนร้ายได้ขับออกไปเพื่อหลบหนี

“เรื่องนี้เป็นการเตรียมการมาอย่างแน่นอน เพราะในที่เกิดเหตุพบไฟแช็ก น้ำมัน เตรียมมาจุดไฟเผา และใช้เวลาในช่วงเช้ามืดของวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2564 ใช้เวลาก่อเหตุประมาณ 10 นาที และหนีทันที และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทางกรมราชทัณฑ์ได้ทำรายงานถึงสำนักพระราชวัง เพราะเวลาที่เรานำพระบรมฉายาลักษณ์มาใช้เราต้องขออนุญาตจากทางราชวัง ซึ่งหากถูกเผาทำลายเราก็ต้องรายงานให้ทราบ

ทั้งนี้ ปกติภายในเรือนจำมีมาตรการรักษาความปลอดภัยอยู่แล้ว ซึ่งที่เกิดเหตุติดถนนที่ประชาชนใช้สัญจรไปมาตามปกติ ตอนนี้อธิบดีได้ใช้มาตรการเข้มข้นสูงสุด มีเวรยามตลอดเวลา และจุดใดที่มีความละเอียดอ่อนก็ได้สั่งให้ดูแลเข้มข้นขึ้นในทุกเรือนจำ” ว่าที่ ร.ต.ธนกฤตกล่าว

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image