‘ยิ่งชีพ’ อ่านจบ 3 หน้า คำร้อง ‘ไพบูลย์’ ปมยื่นศาลรธน.ตีความ เบรกตั้ง ส.ส.ร. ยัน ไร้เหตุผลรองรับ

‘ยิ่งชีพ ไอลอว์’ อ่านจบ 3 หน้า คำร้อง ‘ไพบูลย์’ ปมยื่นศาลรธน.ตีความ เบรกตั้ง ส.ส.ร. ยัน ไร้เหตุผลรองรับ

เมื่อเวลา 19.00 น. วันที่ 2 มีนาคม ที่อุทยานการเรียนรู้ป๋วย 100 ปี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต เครือข่ายนักวิชาการเพื่อสิทธิพลเมือง (คนส.) , คณะกรรมการนักศึกษาวิทยาลัยพัฒนศาสตร์ ป๋วย อึ๊งภากรณ์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, เครือข่ายรณรงค์รัฐธรรมนูญ และโครงการอินเทอร์เนตเพื่อกฎหมายประชาชน หรือ ไอลอว์ ร่วมกันจัดกิจกรรม ‘อภิปรายไม่ไว้วางใจระบอบคสช.’ เพื่อต้อนรับกลุ่มผู้ทำกิจกรรม ‘เดินทะลุฟ้า’ ซึ่งเดินทางมาจากจังหวัดนครราชสีมาเป็นวันที่ 14 โดยมาถึง มธ.ศูนย์รังสิตในช่วงเย็นวันนี้ และจะค้างคืน 1 คืน โดยพักการเดินเท้า 1 วัน แล้วเริ่มเดินอีกครั้งในวันที่ 4 มีนาคม เริ่มต้นที่หน้าวัดคุณหญิงส้มจีน สู่นวนคร

ในช่วงท้ายของกิจกรรม นายยิ่งชีพ อัชฌานนท์ ผู้จัดการอินเทอร์เนตเพื่อกฎหมายประชาชน หรือ ไอลอว์ กล่าวปราศรัยตอนหนึ่งว่า คสช.เขียนรัฐธรรมนูญให้แก้ไม่ได้ เพื่อให้ตัวเองได้อยู่นานๆ กลไกในรัฐธรรมนูญมีมากมาย 279 มาตรา การจะรื้อระบอบประยุทธ์ สร้างหนทางประชาธิปไตย จะสร้างอนาคต ต้องเขียนรัฐธรรมนูญใหม่ทุกหมวด ทุกมาตรา และปาฏิหารย์ก็เกิดขึ้น แม้ก่อนหน้านี้สภาโหวตตีตกร่างรัฐธรรมนูญฉบับที่ประชาชนเข้าชื่อกว่าแสนราย โดยรัฐบาลบอกว่าจะเสนอฉบับของตัวเอง

“รัฐบาลแกล้งทำเป็นยอมเขียนรัฐธรรมนูญใหม่ เพราะถ้าไม่ยอม ไม่รู้จะอ้างเหตุผลอะไร ความคืบหน้าปัจจุบันที่เสนอให้เขียนรัฐธรรมนูญใหม่ ได้เดินทางมาถึงช่วงใกล้โค้งสุดท้ายแล้ว คือผ่านวาระ 2 เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา คือในวันที่ 24-25 กุมภาพันธ์ ตอนนี้ร่างฉบับล่าสุดปัจจุบันมีสาระสำคัญ 3 ประการ ได้แก่ 1. หลังจากนี้ถ้าจะแก้รัฐธรรมนูญไม่ต้องใช้เสียงพิเศษของ ส.ว. และฝ่ายค้านไม่มีอำนาจในการบล็อคแต่ต้องใช้เสียง 3 ใน 5 ของสภา คือราว 450 คน ส.ส.พรรคพลังประชารัฐรวมกับ ส.ว. ก็ถึงแล้ว 2. ส.ส.ร.มาจากการเลือกตั้ง 100 เปอร์เซนต์ ซึ่งเกือบดีแล้ว แต่ใช้ระบบเลือกตั้งแบบแบ่งเขตย่อย 200 เขต เช่น กทม.อาจแบ่งเป็น 18 เขต ใครได้คะแนนสูงสุดในเขตนั้น ได้ไป 1 ที่ เขตละ 1 คน รวม 200 คน 3. ส.ส.ร.ชุดนี้ไม่มีอำนาจแก้ไขหมวด 1 และ หมวด 2

Advertisement

อีก 2 สัปดาห์คือ วันที่ 17 มีนาคม รัฐสภาจะเปิดพิจารณาและลงมติในวาระ 3 ซึ่งถือว่าเร็วมาก อาจผ่านหรือไม่ผ่านก็ได้ ถ้าผ่าน เดือนมิถุนายน จะมีการทำประชามติ เพื่อให้ประชาชนตอบว่าจะรับหรือไม่รับ ถ้าคนส่วนใหญ่รับ เดือนกันยายนต้องมีการเลือกตั้ง ส.ส.ร. ถ้าไม่เตรียมพร้อมตั้งแต่วันนี้ วันนั้นอาจได้ใครก็ไม่รู้ บอกเลย ขอเตือนไว้ก่อน ทุกอย่างกำลังจะมาแล้ว ฟังดูมีความหวังหรือไม่ ถ้าใครมีความหวัง จะขอเล่าสิ่งต่อไปนี้ คือมีคน 2 คน คือ นายไพบูลย์ นิติตะวัน และนายสมชาย แสวงการ บอกว่ารัฐสภาไม่มีอำนาจตั้ง ส.ส.ร.มาเขียนรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับได้ และส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ซึ่ง ส.ว. ก็เป็นคนเลือกมา ผมไม่ทราบว่าจะใช้เวลาตัดสินนานเท่าไหร่ แต่ที่อ่านคำร้องของนายไพบูลย์ยาว 3 หน้า อ่านจบแล้วผมตัดสินได้เลยว่าไม่มีเหตุผลรองรับ” นายยิ่งชีพกล่าว

นายยิ่งชีพกล่าวอีกว่า สำหรับสิ่งเลวร้ายที่อาจเกิดขึ้นได้คือ ผ่านวาระ 3 ไปก่อนในวันที่ 17 มีนาคม แล้วศาลรัฐธรรมนูญไปคว่ำโอกาสในการตั้ง ส.ส.ร. เพื่อเขียนรัฐธรรมนูญในอนาคต หากเป็นเช่นนั้น คือการปิดตายประตูในอนาคตประเทศชาติ ไม่ว่าอีก 100-200 ปี จะมีรัฐธรรมนูญแบบไหนก็ตาม สภาแบบไหนก็ตาม การเมืองแบบไหนก็ตาม เราจะไม่มีทางเขียนรัฐธรรมนูญใหม่ในระบอบปกติได้ เว้นแต่การรัฐประหาร

“เรากำลังจะเข้าสู่โค้งสุดท้ายที่อันตรายมาก ถ้าทุกคนพร้อม เข้าใจ มาร่วมส่งเสียงดังๆถึงศาลรัฐธรรมนูญว่าอย่าขัดขวางกระบวนการเขียนรัฐธรรมนูญใหม่” นายยิ่งชีพกล่าว จากนั้น ชวนให้ผู้ฟังชู 3 นิ้ว กล่าวพร้อมกัน 3 ครั้งว่า ‘เขียนรัฐธรรมนูญใหม่’ โดยผู้ร่วมกิจกรรมพากันตะโกนอย่างกึกก้อง ก่อนจบกิจกรรม โดยนักศึกษาวิทยาลัยพัฒนศาสตร์ ป๋วย อึ๊งภากรณ์มอบของที่ระลึกแด่วิทยากร แล้วแยกย้ายอย่างสงบเรียบร้อย

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image