นพ.สสจ ชี้ ‘บุรีรัมย์’ คือเมืองหลวง ‘กัญชา’ แย้ม ‘มหกรรม 360 องศาฯ’ สาระเพียบ ยอดลงทะเบียน ทะลุหมื่น
เมื่อวันที่ 4 มีนาคม ที่ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จังหวัดบุรีรัมย์ ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศ การเตรียมจัดงาน “มหกรรมกัญชากัญชง 360 องศา เพื่อประชาชน” งานใหญ่ประจำปีของประเทศไทย โดยสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา(อย.) กรมการแพทย์แผนไทยและแพทย์ทางเลือก สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดบุรีรัมย์ (สสจ.) และ สถาบันการศึกษา ตลอดจนภาคเอกชนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 5-7 มีนาคมนี้ เพื่อขานรับนโยบายปลดล็อกกัญชา-กัญชง ให้สามารถนำไปใช้ประโยชน์ในอุตสาหกรรมการทางการแพทย์ และผลิตภัณฑ์อื่นๆ ตลอดจนใช้ในการประกอบอาหาร เป็นการสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจและสร้างรายได้ให้กับประชาชน
โดยเมื่อเวลา 12.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทีมงานทั้งภาครัฐและภาคเอกชน ได้ทำการติดตั้งบูธกิจกรรม และเตรียมความพร้อมด้านสถานที่อย่างแข็งขัน ทั้ง ห้องสัมมนาห้องหลักและห้องย่อย ไปจนถึงห้องให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการยื่นคำขอรับอนุญาตกัญชากัญชง เพื่อต้อนรับประชาชนที่จะมาร่วมกิจกรรมให้ได้รับทั้งสาระ และความสะดวกมากที่สุด ภายใต้มาตรการป้องกันโรคโควิด-19
ทั้งนี้ นพ.วิทิต สฤษฏีชัยกุล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดบุรีรัมย์ (นพ.สสจ.) ในฐานะผู้รับผิดชอบการดำเนินการจัดงาน ก็ได้เดินทางมาดูแลสถานที่และเตรียมความพร้อมการจัดมหกรรมครั้งนี้ด้วยตัวเอง
นพ.วิทิต กล่าวว่า มหกรรมกัญชากัญชง ที่จัดขึ้นได้รับความสนใจจากประชาชนอย่างมาก เป็นงานใหญ่ที่ให้ประชาชนเข้าร่วมงานได้ฟรี ขณะนี้มีผู้ลงทะเบียนผ่านระบบออนไลน์มากกว่า 10,000 คน เพื่อเข้าร่วมการทำเวิร์คช็อป และเข้าร่วมกิจกรรมในนิทรรศการ อีกทั้งยังมีผู้ลงทะเบียนรักษาในคลินิกกัญชาทางการแพทย์อีกกว่า 1,500 คน แสดงให้เห็นความตื่นตัวของประชาชน ทางผู้จัดงานจึงได้เตรียมการรองรับสำหรับประชาชนที่จะวอล์คอินเข้ามาร่วมงานด้วย เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชนทุกคนที่เข้ามาร่วมในงานนี้
“เรามีเวทีสัมมนาทั้งใหญ่และย่อย เป็นการพูดคุยให้ความรู้ประชาชน แลกเปลี่ยนประสบการณ์ มหกรรมครั้งนี้เปรียบเสมือนแม่เหล็กที่ดึงดูดผู้มีศาสตร์ด้านกัญชากัญชงทั่วประเทศ มารวมไว้ในงาน เราจึงมั่นใจได้ว่าผู้ที่เข้ามาร่วมในงานนี้จะได้ความรู้และประโยชน์กลับไปอย่างแน่นอน” นพ.วิทิตกล่าว
นพ.วิทิตกล่าวว่า ไฮไลต์ในงานที่คาดว่าคนจะให้ความสนใจเป็นอย่างมากคือ คลินิกกัญชาทางการแพทย์ ที่เปิดให้บริการผู้ป่วยทุกรูปแบบ ทั้งแพทย์แผนปัจจุบัน แพทย์ทางเลือก และการแพทย์แผนไทย ซึ่งจะพิจารณาการสนับสนุนการจ่ายน้ำมันกัญชา โดยมีบุคลากรทางการแพทย์ แผนปัจจุบัน 8 ท่าน และ แพทย์ทางเลือกอีก 8 ท่าน คอยให้บริการ โดยสามารถรองรับผู้ป่วยได้มากกว่าวันละ 500 คน นอกจากนี้ ยังมีช่องทางพิเศษสำหรับผู้ป่วยที่เคลื่อนไหวไม่สะดวกและผู้ป่วยที่ใช้น้ำมันกัญชาอยู่แล้ว เพื่อลดความแออัดและการรอคอยอีกด้วย
นพ.วิทิตกล่าวต่อว่า สำหรับโรงแรมใน จ.บุรีรัมย์ สามารถรองรับผู้เดินทางมาร่วมงานได้มากกว่า 3,000 ห้องพัก ขณะนี้ที่พักยังพอมีเหลือบ้าง แต่หากผู้ที่สนใจเข้าร่วมงานมีความติดขัดหรือไม่สะดวกเรื่องที่พักสามารถประสานงานมาที่ สสจ.บุรีรัมย์ รวมถึงหน่วยงานจังหวัดทุกภาคส่วน ในการอำนวยความสะดวก เพื่อให้ทุกคนมีสิทธิเข้าถึงงานมหกรรมครั้งนี้ได้
“มั่นใจว่าประชาชนที่เข้ามาร่วมงานจะได้ประโยชน์ทั้ง การปลูก สกัด ใช้กัญชากัญชง เช่น การใช้กัญชงเพื่อเศรษฐกิจ และใช้กัญชาทางการแพทย์ ทั้งนี้ สธ. ประกาศปลดล็อกส่วนประกอบของพืชกัญชากัญชงเพื่อเศรษฐกิจ เพื่อการนำ ใบ ราก ลำต้น กิ่ง ก้านและอื่นๆ ยกเว้นช่อดอก มาใช้ประโยชน์ทั้งประกอบอาหาร เครื่องสำอางและอื่นๆ ซึ่งภายในงานนี้ อย. ก็มาเปิดบูธให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการขออนุญาตปลูกรวมถึงขออนุญาตใช้ด้วย” นพ.วิทิตกล่าว
สำหรับมาตรการป้องกันโควิด-19 นพ.วิทิตเปิดเผยว่า จ.บุรีรัมย์ เข้มงวดเฉพาะผู้ที่เดินทางมาจาก จ.สมุทรสาคร ส่วนจังหวัดอื่นๆ สามารถเดินทางได้ตามปกติ และมาถึงแล้วจะต้องปฏิบัติตัวตามมาตรการของจังหวัดอย่างเข้มงวด ด้วยการคัดกรองความเสี่ยง สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา เตรียมเจลแอลกอฮอล์ล้างมือส่วนตัว เว้นระยะห่างระหว่างบุคคล ติดตั้งแอพพลิเคชั่นหมอชนะ/ไทยชนะ และขอความร่วมมือประชาชนขณะเข้าร่วมมหกรรมฯ ให้ปฏิบัติตามมาตรการของ สธ. อย่างเคร่งครัด
“บุรีรัมย์เป็นเมืองของกัญชา มีผู้ขออนุญาตปลูกในรูปแบบของวิสาหกิจชุมชนร่วมกับหน่วยงานของรัฐ มีโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) ร่วมกับวิสาหกิจชุมชนในการปลูกกัญชามากที่สุดในประเทศ สามารถเปิดคลินิกกัญชาในทุกโรงพยาบาลของจังหวัด และยังมีผู้ประกอบการสนใจเกี่ยวกับกัญชง ติดอันดับต้นๆ ของประเทศ หรือเรียกได้ว่า บุรีรัมย์เป็นเมืองหลวงกัญชา” นพ.วิทิตกล่าว
สำหรับงาน “มหกรรมกัญชากัญชง 360 องศา เพื่อประชาชน” กำหนดจัดขึ้น ระหว่างวันที่ 5-7 มีนาคมนี้ ณ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต อำเภอเมือง จังหวัดบุรีรัมย์ สำหรับผู้สนใจสามารถลงทะเบียนเข้าร่วมงานได้ฟรี
