‘อิทธิพล’ พร้อมนั่ง รมว.ดีอีเอส สานต่อปิดพอร์นฮับ จัดการไอโอ-คดี 112

“อิทธิพล” เผย พร้อมรับตำแหน่ง รมว.ดีอีเอส จ่อสานต่องานปิดพอร์นฮับ เหตุกระทบศีลธรรมอันดี-เยาวชนเสี่ยง

เมื่อเวลา 12.20 น.วันที่ 4 มีนาคม ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอิทธิพล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) กรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวที่จะถูกปรับจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ไปรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ว่า ไม่ทราบ แต่ขณะนี้ตนได้รักษาการรัฐมนตรีดีอีเอส ตามมติของคณะรัฐมนตรี (ครม.) ส่วนเรื่องการปรับ ครม.นั้น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้แจ้งใน ครม.แล้วว่าจะทำให้เร็วที่สุด อยู่ที่ว่า พล.อ.ประยุทธ์จะดำเนินการอย่างไร สำหรับตนไม่ได้มีนัยอะไร ขอทำหน้าที่รักษาการไปพลางก่อน ซึ่งข้อเท็จจริงจะกระจ่างอย่างไร อยู่ที่ พล.อ.ประยุทธ์จะพิจารณา แต่ตอนนี้ยังไม่มีการแจ้งใดๆ

เมื่อถามว่า ดูเหมือนว่าการที่ไปรักษาการที่ดีอีเอส เพื่อให้ไปชิมลางก่อน นายอิทธิพลกล่าวว่า ไม่ใช่เรื่องของการชิมลาง แต่เป็นการมอบหมายของ ครม.เท่านั้น ตอนนี้ก็ทำงานในหน้าที่ทั้ง 2 กระทรวงและภารกิจของงาน แต่ละหน้างานมีความเหมือนและแตกต่างกันอยู่ ความเหมือนก็คือ การพัฒนาเศรษฐกิจชีวภาพ-เศรษฐกิจหมุนเวียน-เศรษฐกิจสีเขียว (บีซีจี โมเดล) ตามวาระที่ พล.อ.ประยุทธ์ประกาศ รวมถึงงานที่ปัจจุบันที่จะต้องประสาน พัฒนาตามองค์รวม ยุทธศาสตร์เฉพาะเรื่องหรือแผนปฏิบัติการระดับ 3 และทางกระทรวง วธ.ก็มีแผนปฏิบัติการระดับ 3 อยู่ ซึ่งตอนนี้ พล.อ.ประยุทธ์อยากให้ขับเคลื่อนและเห็นเป็นรูปธรรม

เมื่อถามว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี หัวหน้าพรรค พปชร.ได้หารือให้เตรียมตัวเพิ่มเติมหรือไม่ นายอิทธิพลกล่าวว่า พล.อ.ประวิตรได้บอกในที่ประชุมกรรมการบริหารพรรค พปชร. เมื่อวันที่ 2 มีนาคมที่ผ่านมา ว่า พล.อ.ประวิตร ขอบคุณกรรมการทุกคนที่มอบอำนาจให้ดำเนินการ และหลังการประชุมไม่ได้มีการหารืออะไรเพิ่มเติม

เมื่อถามต่อว่า จากกระแสข่าวที่ออกมา มีรายชื่อของ น.ส.ตรีนุช เทียนทอง ส.ส.สระแก้ว พรรค พปชร.ความเป็นมาเป็นอย่างไร นายอิทธิพลกล่าวว่า ส่วนตัวไม่ทราบ แต่รู้จักเพราะเคยเป็น ส.ส.รุ่นเดียวกันมาตั้งแต่ปี 2544 มีความสนิท ครอบครัวก็รู้จักกันดี นอกรอบส่วนตัวก็ยังไม่มีชื่อ น.ส.ตรีนุช แต่จะเป็นไปได้อย่างไรก็ติดตามดูต่อไป

Advertisement

เมื่อถามถึงกรณีชื่อนายอิทธิพล อาจจะขยับไปเป็นรัฐมนตรีว่าการดีอีเอส นายอิทธิพลกล่าวว่า จากกระแสข่าวที่ทราบ คงต้องรอดู พล.อ.ประวิตร ส่งรายชื่อให้ พล.อ.ประยุทธ์ เพื่อพิจารณาในส่วนสุดท้าย เพราะฉะนั้นรายชื่อจะเป็นบุคคลใด เชื่อว่า พล.อ.ประวิตร และ พล.อ.ประยุทธ์จะพิจารณาอย่างถี่ถ้วนที่สุด ส่วนรายชื่อใดที่ได้รับการเสนอ ก็ถือว่า มีความเหมาะสมทุกคน

เมื่อถามต่อว่า การวางรัฐมนตรี เป็นการรองรับต่อการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นในครั้งต่อไปด้วย อย่างการที่ให้ น.ส.ตรีนุช เป็นการอาศัยบารมีใช่หรือไม่ นายอิทธิพลกล่าวว่า เรื่องตัวบุคคลและเหตุผลตนไม่สามารถทราบได้ แต่เรื่องของการทำงานปัจจุบัน พล.อ.ประยุทธ์พูดกับคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 2 มีนาคมที่ผ่านมา ขอให้ทุกคนตั้งใจทำงาน และตอนนี้ก็มีวาระเร่งด่วนอย่างเรื่องวัคซีนโควิด-19 และเรื่องวาระบีซีจี โมเดลที่ประกาศเป็นวาระแห่งชาติ ให้ทุกกระทรวงไปเชื่อมโยง เพราะประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพการประชุมเอเปค และในวันที่ 4 มีนาคมนี้ ก็จะหารือรายละเอียด ส่วนเรื่องตัวบุคคล ถือว่าเป็นเรื่องที่ พล.อ.ประยุทธ์ได้พิจารณา เพราะฉะนั้นตอนนี้ทุกคนต้องตั้งใจทำงานอย่างเต็มที่ โดยส่วนตัวตอนนี้ งานก็เพิ่มเป็นสองเท่าก็จะตั้งใจทำงานต่อไป และตอนนี้ก็พร้อมที่จะเข้ารับตำแหน่งตามที่ พล.อ.ประยุทธ์พิจารณา

เมื่อถามว่า ตั้งแต่ได้รับมอบหมายให้รักษาการรัฐมนตรีว่าการดีอีเอส ได้เข้าไปในกระทรวงแล้วหรือไม่ นายอิทธิพลกล่าวว่า ปัจจุบันยังไม่ได้เข้านั่งไปทำงานในกระทรวงดีอีเอส แต่ทำงานด้านเอกสาร อยู่ที่กระทรวง วธ. ส่วนการประชุมกับกระทรวงดีอีเอสก็ยังใช้วิธีการประชุมทางไกล และไม่มีวาระอะไรที่ชะลอไว้

Advertisement

เมื่อถามว่า ในช่วงรักษาการดีอีเอสสามารถไปจัดการเรื่องไอโอ ที่เกี่ยวกับด้านความมั่นคงได้หรือไม่ นายอิทธิพลกล่าวว่า กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ปอท.) ได้มอนิเตอร์ 24 ชั่วโมง และรวบรวมหลักฐานและส่งข้อมูลต่อมาทางดีอีเอสตามขั้นตอน ส่วนการดำเนินการเรื่อง มาตรา 112 ก็เป็นไปตามกฎหมายตามที่นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ อดีตรัฐมนตรีว่าการดีอีเอสทำไว้ เพราะเขาทำมาอยู่แล้ว

เมื่อถามว่า ได้คุยกับนายพุทธิพงษ์ และมีการฝากฝังเรื่องงานบ้างหรือไม่ นายอิทธิพลกล่าวว่า ไม่ได้พูดคุยเรื่องงาน แต่ที่ผ่านมาทำงานร่วมกัน และรู้จักกันมาก่อนอยู่แล้ว โดยไม่ได้ฝากฝังอะไรเป็นการเฉพาะ

ผู้สื่อข่าวถามว่า หากดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดีอีเอสแล้วจะสานงานต่อในกรณีปิดเว็บไซต์พอนฮับ ชื่อดังหรือไม่ นายอิทธิพลกล่าวว่า เว็บไซต์ดังกล่าวถือเป็นข้อมูลในเรื่องของความเหมาะสมหรือไม่เหมาะสม แต่ถือเป็นความเสี่ยงที่เยาวชนจะเข้าไปดู เพราะเข้าข่ายเรื่องกระทบต่อศีลธรรมอันดี อย่างไรก็ตามเรื่องของคอมพิวเตอร์มีข้อจำกัดเรื่องแพลตฟอร์ม เรื่องผู้ให้บริการ ถ้าเป็นกรณีอยู่ในต่างประเทศก็ต้องทำเรื่องแจ้งตัวแทนในประเทศไทยแล้วต้องแจ้งกลับไปยังต่างประเทศเช่นเดียวกับแพลตฟอร์มของอินตราแกรม ทวิตเตอร์ ซึ่งกว่าจะดำเนินการได้จะต้องมีหลายขั้นตอน ดังนั้น ในบางครั้งไม่ทันใจกับการที่ต้องสั่งระงับในเหตุการณ์นั้นๆ ซึ่งตนก็จะทำให้ต่อเนื่องไม่สะดุด

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image