“บิ๊กป้อม” ทราบเหตุระเบิดที่ปัตตานีแล้ว ยังไม่ฟันธงเกิดจากสาเหตุใด ขอดูเหตุการณ์ก่อน สั่งทุกฝ่ายลงพื้นที่แล้ว ชี้จะเจรจาชายแดนใต้ ความสงบต้องมาก่อน เชื่อไม่โยงระเบิด 7 จังหวัดใต้ – ตั้งแต่แม่ทัพภาค 4 คนใหม่
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 24 สิงหาคม ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงเหตุระเบิด 3 จุด ในพื้นที่จ.ปัตตานีเมื่อช่วงดึกของวันที่ 23 สิงหาคมที่ผ่านมาว่า ได้รับรายงานเหตุระเบิดจากแม่ทัพภาค 4 แล้ว ซึ่งตนได้ส่งเจ้าหน้าที่ทหาร รวมถึงผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ลงพื้นที่ดังกล่าวแล้วในช่วงเช้า ซึ่งเมื่อคืนวันที่ 23 สิงหาคมที่ผ่านมามีระเบิด 2 ลูกใกล้สถานบันเทิงแต่ไม่มีผู้เสียชีวิต เหมือนเป็นการดึงความสนใจ ก่อนนำรถคาร์บอมบ์มาจอดและทำการระเบิดภายใน 10 นาทีซึ่งครั้งที่สองมีผู้เสียชีวิต 1 คน บาดเจ็บ 29 คน
เมื่อถามถึงเรื่องการพูดคุยสันติสุขชายแดนใต้มีความก้าวหน้าหรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ตนไม่ทราบ ต้องถามพล.อ.อักษรา เกิดผล หัวหน้าคณะพูดคุยสันติสุขชายแดนใต้อีกครั้ง อย่างไรก็ตามมองว่าถ้าจะเจรจาอีกครั้ง ทุกอย่างควรเงียบสงบก่อนทั้งในรอบและนอกรอบซึ่งเราพยายามทำทุกอย่างเพื่อป้องกันการเกิดเหตุ และได้ให้แนวคิดกับแม่ทัพภาค 4 แล้วว่าจะทำอย่างไร ความจริงแล้วทางโต๊ะอิหม่ามทั้งหลายก็ดีกับเราทุกอย่าง แต่เมื่อมีเหตุการณ์เกิดขึ้นต้องไปดูว่าเป็นฝ่ายไหน
พล.อ.ประวิตร กล่าวต่อว่า ส่วนเหตุระเบิดจะเป็นการกดดันทีมเจรจาของฝ่ายไทยหรือไม่นั้น ตนไม่ทราบเพราะที่พบกับพล.อ.อักษรา ยังไม่ได้หารือเรื่องนี้ ส่วนเกิดเหตุแล้วจะต้องยุติการเจรจาสันติสุขในเดือนก.ย.หรือไม่นั้น ตนขอพูดคุยกับพล.อ.อักษราอีกครั้งว่าจะหารืออย่างไร ยืนยันว่าขณะนี้ไม่มีทีโออาร์ ไม่มีการกำหนดอะไร หากจะทำ ทุกอย่างต้องสงบเสียก่อน และมองว่าเรื่องดังกล่าวไม่น่าโยงกับเหตุระเบิดใน 7 จังหวัดภาคใต้ แต่เวลานี้เราได้ข้อมูลต่างๆ จากเหตุระเบิด 7 จังหวัดมามากแล้ว โดยสั่งการให้ทุกฝ่ายลงไปดำเนินการและให้พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผบ.ตร. เป็นผู้บูรณาการ ซึ่งมีความก้าวหน้ามาก มีการออกหมายจับเพิ่มขึ้นเพราะเกิดความชัดเจนจากกล้องวงจรปิด เราพยายามทำงานทุกอย่าง เจ้าหน้าที่ทุกคนก็พยายามดำเนินการ ขอสื่ออย่ากดดันมาก ถามทุกวัน ทุกเวลา ไม่ต้องทำอะไรพอดี อย่างไรก็ตามมองว่าเหตุระเบิดที่ปัตตานีไม่น่าเกี่ยวกับการแต่งตั้งแม่ทัพภาค 4 ที่มีแคนดิเดตหลายคน
ด้านพล.อ.อักษรากล่าวว่า การพูดคุยต้องเป็นไปตามแนวทางสันติวิธีซึ่งเป็นไปตามหลักสากล เมื่อยังมีความไม่สงบเกิดขึ้นก็คงจะต้องนำไปพิจารณาก่อน
