ไม่ว่า 1 เรื่องการเลือกตั้งซ่อม เขต 3 นครศรีธรรมราช ไม่ว่า 1 เส้นทางของรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 ไม่ว่า 1 เรื่องของการปรับครม. ล้วนมีความสัมพันธ์
แม้ว่าจะเป็นความสัมพันธ์ในแบบ ”คนละเรื่องเดียวกัน” แต่ก็ดำเนินไปอย่างแนบแน่น มีผลสะเทือนต่อกันและกัน
คล้ายกับกรณีการเลือกตั้งซ่อม เขต 3 นครศรีธรรมราช จะเป็นการปะทะและแย่งชิงระหว่างพรรคพลังประชารัฐกับพรรคประชาธิ ปัตย์ แต่อย่าลืมตัวแปรสำคัญอันไม่ควรมองข้าม
1 ตัวแปรจากปัจจัยของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา 1 ตัวแปรจากปัจจัยของพรรคภูมิใจไทย และ 1 ตัวแปรจากปัจจัยของพรรคการเมืองอื่นที่ส่งคนลงชิง
แนวโน้มมีความเอนเอียงไปในเส้นทางที่เกิดลักษณะ ”สหบาทา” ในทางการเมืองโดยมีพรรคประชาธิปัตย์เป็น ”เหยื่อ” แม้จะดำรงอยู่ในฐานะพรรคร่วมรัฐบาลพรรคหนึ่ง
ตรงนี้แหละจะมีผลไปยัง 1 ชะตากรรมและเส้นทางของรัฐธรรมนูญ และ 1 กระบวนการปรับครม.
อย่าลืมเป็นอันขาดว่า ”เงื่อนไข” สำคัญของพรรคประชาธิปัตย์ก่อนปลงใจที่จะขานชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี เมื่อเดือนมิถุนายน 2562 คือเรื่องของ ”รัฐธรรมนูญ”
กระทั่ง รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้บรรจุการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญเป็น ”นโยบายเร่งด่วน”
แต่แล้วท่าทีของพรรคพลังประชารัฐ แต่แล้วท่าทีของ 250 ส.ว. อันมีความแนบแน่นอย่างยิ่งกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ กับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เด่นชัดว่าไม่ต้องการแก้ไข
หากไม่มีกระแสกดดันอย่างต่อเนื่องจาก ”เยาวชนปลดแอก” ตั้งแต่เมื่อเดือนกรกฎาคม 2563 นโยบาย ”เร่งด่วน” ในเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญก็จะอืดเหมือนกับเรือเกลือ
ยิ่งกว่านั้น เมื่อเสนอเข้ารัฐสภาแล้วก็มากไปด้วยเงื่อนแง่งอุบาย
หากว่าทิศทางของ ”รัฐธรรมนูญ” จะเป็นทิศทางที่ลงเอยด้วยการไม่แก้หรือแก้อย่างแกนๆย่อมสะเทือนถึงพรรคประชาธิปัตย์แน่
การเมืองเรื่องเลือกตั้งซ่อม เขต 3 นครศรีธรรมราช ในวันอาทิตย์ที่ 7 มีนาคม จึงสัมพันธ์อย่างลึกซึ้งไปยังเส้นทางของรัฐธรรมนูญ เส้นทางของการปรับครม.
นี่คือแต่ละเปลาะแต่ละปล้องก่อนจะถึงปลายเดือนมีนาคมหรือต้นเดือนเมษายนที่จะต้องมีการเสียดทานตลอด 2 รายทาง
