09.00 INDEX จากเลือกตั้งซ่อม ถึง รัฐธรรมนูญ ประชาธิปัตย์ กับ อำนาจ ต่อรอง
เหมือนกับกรณีพิพาทซึ่งทวีความรุนแรงแข็งกร้าวเป็นลำดับระหว่าง คนของพรรคพลังประชารัฐ กับ คนของพรรคประชาธิปัตย์ จะมีจุดเริ่มต้นมาจากการเลือกตั้งซ่อม เขต 3 นครศรีธรรมราช
อาจเป็นเช่นนั้น แต่ถ้าพิจารณาทั่วทั้ง “กระบวนการ” มองลึกเข้าไปภายใต้ “โครงสร้าง” แห่งระบอบก็จะได้ “คำตอบ”
แท้จริงแล้ว มีรากฐานมาจาก “ผลประโยชน์” ทางการเมือง
เพราะพรรคประชาธิปัตย์ตระหนักว่าพื้นที่เขต 3 นครศรีธรรม ราช ซึ่งเป็นของ นายเทพไท เสนพงศ์ เดิมนั้นเป็นพื้นที่ของพรรคประชาธิปัตย์ จึงชอบที่จะเป็นของพรรคประชาธิปัตย์ต่อไป
ขณะเดียวกัน พรรคพลังประชารัฐประเมินว่าคนของตนพ่ายแพ้ นายเทพไท เสนพงศ์ เมื่อเดือนมกราคม 2562 เพียงไม่กี่พันคะแนนจึงชอบที่จะเข้าไปแย่งยึดและช่วงชิงชัยชนะได้ ไม่ผิดกติกาใดๆ
การแข่งขันทางการเมืองระหว่างคนของพรรคพลังประชารัฐกับคนของพรรคประชาธิปัตย์จึงเป็นเรื่องของ”ผลประโยชน์”ล้วนๆ
เมื่อมี “ผลประโยชน์”มาเป็นเป้าหมาย พรรคพลังประชารัฐกับพรรคประชาธิปัตย์จึงเข้าตลุมบอนแม้จะอยู่ร่วมรัฐบาลเดียวกัน
แท้จริงแล้ว การเข้าร่วมรัฐบาลของพรรคประชาธิปัตย์เป็นความร่วม มือที่ดำเนินไปในลักษณะต่อรองทางการเมืองอันแหลมคมตั้งแต่ภายหลังการเลือกตั้งเมื่อเดือนมีนาคม 2562 มาแล้ว
การที่ นายชวน หลีกภัย ได้ตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร ก็มาจากการเจรจาและต่อรอง
เช่นเดียวกับการที่พรรคประชาธิปัตย์ยินยอมที่จะขานชื่อ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรีในเดือนมิถุนายน 2562 ก็มาจากการเจรจาและต่อรอง
เจรจาและต่อรองพร้อมกับเสนอเงื่อนไขอันจะเอื้ออวยให้กับผล ประโยชน์ในทางการเมืองของตนเอง โดยเฉพาะในประเด็นว่าด้วยการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญเข้าไปเป็น “นโยบายเร่งด่วน”
ตั้งแต่เริ่มต้นจนถึง ณ บัดนี้จึงล้วนเป็นเรื่อง “ผลประโยชน์”
เพียงแต่การเลือกตั้งซ่อมที่เขต 3 นครศรีธรรมราช ทำให้”ผล ประโยชน์”มีความเด่นชัดอย่างอึกทึกครึกโครมเท่านั้น
คำถามของประชาชนต่อพรรคประชาธิปัตย์ก็คือ พรรคประชาธิปัตย์ จะเอาผลประโยชน์ของพรรค และผลประโยชน์ของประชาชนไปต่อรองอีกยาวนานเพียงใด
โดยเฉพาะเมื่อประสบเข้ากับการสกัดและขัดขวางในประเด็นว่าด้วย “รัฐธรรมนูญ” พรรคประชาธิปัตย์จะมีท่าทีเช่นใดให้เด่นชัด