เรียงคนมาเป็นข่าว-ภาพข่าวสังคม
⦁…หลัง “ประชาธิปัตย์” พ่าย “พลังประชารัฐ” ในการเลือกซ่อม ส.ส.นครศรีธรรมราช ใครที่คิดว่าจะมีปัญหาใน “พรรคร่วมรัฐบาล” น่าจะคิดผิด ด้วยไม่ว่าจะเป็นเจ้าของพื้นที่อย่าง เทพไท เสนพงศ์ และ จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ล้วนแค่ออกมา “ขอบคุณประชาชนคนที่ยังเลือกประชาธิปัตย์” ไม่มีคำที่ทำให้ “สะเทือนความรู้สึกของพรรคคู่ต่อสู้” เหมือนที่เคยเป็นมาก่อนหน้านั้น ดูทุกอย่างจะเป็นไปตาม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ชี้ทางไว้ คือ “เป็นเรื่องประชาธิปไตย ไม่มีการโกรธกัน”
⦁…ที่เสียหายต่อ “ประชาธิปัตย์” ไม่ใช่ความรู้สึกของ “คนที่เป็นรัฐมนตรี” ซึ่งต้องยึดเก้าอี้ไว้แน่นอยู่แล้ว แต่เป็น “สมาชิกระดับผู้สมัครของพรรค” สภาวะ “คะแนนนิยมถดถอย” แบบ “ผู้บริหารรับสภาพ” โดยไม่มีปฏิกิริยา ไม่ว่าใครคงอดหวั่นไหวไม่ได้ ด้วยเมื่อลงสมัครย่อมหวังในชัยชนะ เมื่อ “พื้นที่ชัวร์ๆกลายเป็นไม่ใช่” การต่อสู้ย่อมเข้มข้นขึ้นแน่ เพราะพิสูจน์แล้วว่า “ทุกพรรคมีโอกาส ด้วยไม่ใช่พื้นที่ผูกขาดของพรรคไหนอีกแล้ว”
⦁…หลัง พิภพ ธงชัย คนสำคัญของ “ผู้นำม็อบพิฆาตนักการเมืองจากการเลือกตั้ง” ออกมาตัดพ้อ “ถูกหักหลัง” ด้วยที่ได้ดิบได้ดีคือ “ผู้นำรัฐประหาร” ที่ “ม็อบทลายห้างเปิดทางให้เข้าสู่อำนาจ” เหมือนจะสายเกินไป เพราะ “กลไกสืบทอดอำนาจถูกจัดสร้างไว้แข็งแกร่งทุกด้าน” ทว่า “คุกตะราง” ที่เปิดกว้างรอรับทุกกลุ่มที่ “ไม่ได้รับนิรโทษกรรม” แม้มีอยู่บ้างที่เคยหวังว่า “ยืนอยู่ข้างยุติธรรม” ถึงวันนี้ที่ชัดแล้วว่า “ยืนบนเส้นด้าย” ผลจะเป็นอย่างไรขึ้นอยู่กับ “ความกรุณา” ซึ่งเป็น “หลักประกัน” อะไรไม่ได้ อาจบางที “ความหวาดระแวง” และ “ผิดหวัง” จะเป็นบทเรียนให้รู้ว่า “จะต้องทำอย่างไรต่อไป”
⦁…เริ่มต้นเข้ามาบริหารประเทศด้วยการประกาศกร้าวจะ “ปฏิรูปการเมือง” เพราะทนไม่ได้กับ “คุณภาพและจิตสำนึกนักการเมือง” ถึงวันนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มีภาระต้องรับผิดชอบ “ปรับ ครม.” ท่ามกลางเสียงเรียกร้องแต่งตั้งคนคุณภาพ มีความรู้ความสามารถมาทำหน้าที่ ในฐานะ “นายกรัฐมนตรี” กลับขอประชาชนด้วยคำว่า “หัวหน้าพรรคจะส่งโผ ครม.มาให้ อย่าไปรังเกียจรังงอนเขาเลย ปรับแล้ววันหน้าปรับอีกได้” โธ่ถัง!
⦁…เป็นธรรมดาของประชาชนที่จะต้องรับชะตากรรม หากการบริหารประเทศ “ห่วยแตก” เพราะ “รัฐมนตรีไม่มีคุณภาพ ขาดจิตสำนึก” เหตุที่เรียกหา “ปฏิรูปการเมือง” ก็ด้วยเบื่อจะทนกับ “รัฐบาลเป็ดง่อย รัฐมนตรีไม่มีสำนึก” หากยิ่งอยู่ “การเมืองยิ่งดีขึ้นไม่ได้” ปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปตามยถากรรม เหมือน “เลือกอะไรที่ดีกว่านี้ไม่ได้” การเห็นดีเห็นงามให้ “สืบทอดอำนาจ” จะได้อะไรขึ้นมา เพราะก็แค่ “เปลี่ยนคนกลุ่มใหม่เข้ากุมอำนาจโดยหวังไม่ได้ในคุณภาพ” หนักกว่าเดิม
⦁…การต่อสู้ของ “เยาวชนคนรุ่นใหม่” ที่แก่นแกนอยู่ที่การเรียกหาอนาคตที่ดีกว่า แม้ดูเหมือนว่า “จำนวนผู้เข้าร่วมจะถดถอยไปบ้าง” แต่ท่าทียิ่งเพิ่มความแข็งกร้าว และ “หัวจิตหัวใจที่ไม่ยอมจำนน” มากขึ้น เมื่อเผชิญกับการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มข้น ทำให้ “การเมืองร้อนฉ่า” แม้ “เยาวชน” นับวันยิ่งเคลื่อนได้ลำบาก แต่กลับเป็นว่า “ภาครัฐ” ยิ่งควบคุมให้สยบยอมไม่สำเร็จเช่นกัน
⦁…ที่น่าพิจารณาคือการเมืองโลกที่เปลี่ยนไป หลัง โจ ไบเดน เป็น “ผู้นำสหรัฐ” แทน โดนัลด์ ทรัมป์ เกมอำนาจเปลี่ยนไปสู่ “การขยายบทบาทของมหาอำนาจในกรอบผู้สนับสนุนประชาธิปไตยจะมีมากขึ้น” ท่ามกลางสถานการณ์เศรษฐกิจที่ต้องฟื้นฟูด้วย “ความช่วยเหลือของนานาชาติ” หากอ่านเกม “ประชาธิปไตย” ไม่ขาด อาจจะเห็นเพื่อนบ้านพัฒนาประเทศล้ำไปต่อหน้าต่อตา
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่