09.00 INDEX 250 ส.ว. กับ 122 พลังประชารัฐ มุมมอง แจ่มชัด “ประชาธิปัตย์”
ไม่ว่าผลการวินิจฉัยของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญต่ออำนาจของรัฐสภาในการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญโดยผ่านกระบวนการจัดตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ(สสร.)จะออกมาอย่างไร
สายตาที่มองไปยังบทบาทของ 250 ส.ว. สายตาที่มองไปยัง 122 ส.ส.พรรคพลังประชารัฐก็เต็มไปด้วยความคลางแคลงใจ
เพราะการเคลื่อนไหวนี้สะท้อนออกอย่างเด่นชัดที่ต้องการเตะถ่วง บิดเบือน เบี่ยงเบน กระบวนการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญให้เพิ่มความสลับ ซับซ้อน ยอกย้อนและวกวน
และยิ่งเป็นกระบวนการที่สลับซับซ้อน ยอกย้อนวกวนมากเพียงใด ยิ่งตอกซ้ำให้นำไปสู่บทสรุปที่ว่า ไม่ว่าจะเป็น 250 ส.ว.ไม่ว่าจะเป็น 122 ส.ส.พรรคพลังประชารัฐล้วนไม่ต้องการแก้ไขเพิ่มเติม
เว้นก็แต่ในเนื้อหาที่จะเป็นประโยชน์ในการสืบทอดอำนาจของตนให้อยู่ยั้งยืนยงเท่านั้น
สายตาที่มองและสรุปเช่นนี้สำหรับพรรคร่วมฝ่ายค้านมิได้เป็นเรื่องแปลก แต่สำหรับพรรคร่วมรัฐบาลบางพรรคก็อาจกลายเป็นปัญหาขึ้นได้ในกาลข้างหน้า
อย่าลืมเป็นอันขาดว่าพรรคการเมืองทุกพรรคยกเว้นพรรคพลังประชารัฐ ยกเว้น 250 ส.ว. ล้วนมีความต้องการและประกาศเจตจำนงที่จะต้องแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญทั้งสิ้น
บางพรรคการเมืองอย่างพรรคภูมิใจไทย พรรคชาติไทยพัฒนาแม้มิได้ตั้งเงื่อนไขในการเข้าร่วมรัฐบาลแต่ก็มีความต้องการลึกๆ
พรรคประชาธิปัตย์อาจเป็นพรรคที่พัฒนาต่อเนื่องมาตั้งแต่เมื่อเดือนเมษายน 2489 จึงจำเป็นต้องตั้งเงื่อนไขในการเข้าร่วมรัฐบาลว่าจะต้องมีการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐบาล
กระทั่งพรรคพลังประชารัฐจำเป็นต้องยอมรับเพื่อต้องการ 52 มือและเสียงขานชื่อรับรองการเป็นนายกรัฐมนตรีของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
การยอมรับของพรรคพลังประชารัฐโดยบรรจุเป็น 1 ในนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาลนี้เองคือพันธะสัญญาที่พรรคประชาธิปัตย์จะต้องให้ความสำคัญ
บทบาทของ 250 ส.ว.กับบทบาทของ 122 ส.ส.พรรคพลังประชารัฐจึงเด่นชัดว่าเนื้อแท้แล้วต้องการอะไรในทางการเมือง
นั่นคือ ไม่ต้องการแก้ เว้นแต่เพื่อสนองประโยชน์ให้กับตน
