ร้อง ‘นักสู้ธุลีดิน’ มอบผู้สูญสิ้นอิสรภาพ เยาวชน พ้อ วัยเด็กที่สดใส ควรได้ใช้ตามวัย ไม่ใช่ ‘เดินสายรับทราบข้อหา’
เมื่อวันที่ 11 มีนาคม ที่ สถานีรถไฟฟ้า BTS อโศก แยกอโศกมนตรี ถนนสุขุมวิท เขตคลองเตย กรุงเทพฯ ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการนัดหมายชุมนุม นำโดย นายพีรพล ระเวกโสม หรือ ฟิวส์ ประธานภาคีนักเรียนแห่งประเทศไทย เพื่อส่งเสียงเรียกร้อง ให้ 1.พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ลาออกจากการเป็นนายกรัฐมนตรี 2.แก้ไขรัฐธรรมนูญ และ 3.ยกเลิกกฎหมายอาญา มาตรา 112
เวลา 17.30 น. ผู้จัดกิจกรรมเดินทางมาถึง อาทิ นายพีรพล หรือ ฟิวส์ น.ส.วรรณวลี ธรรมสัตยา หรือ ตี้ พะเยา “ปูน ธนพัฒน์” และ บอมเบย์ เยาวชน โดยมีการเปิดเพลงปลุกใจ และยืนชู 3 นิ้ว หน้าสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน สุขุมวิท
เวลา 17.48 น. ผู้ชุมนุมเคลื่อนย้ายไปจัดกิจกรรมบริเวณเกาะกลางถนน แยกอโศกมนตรี โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ลุมพินี คอยดูแลการจราจร ด้านพ่อค้าแม่ขายบางส่วนก็ได้เดินทางมาตั้งร้านบริเวณริมทางเท้า นำสินค้า อาทิ ขนมไทย และเป็ดเหลือง มาวางขาย ก่อนมีการผลัดเปลี่ยนปราศรัยอย่างต่อเนื่อง
เวลา 21.10 น. “ปูน ธนพัฒน์” เยาวชน กล่าวปราศรัยตอนหนึ่งว่า เป็นรัฐบาลหรือไม่ ที่แทรกแซงอำนาจของตำรวจ แต่แสดงออกไม่ได้ เพราะอำนาจรัฐบาล ประยุทธ์ที่พยายามทำให้ เรา กับ ตำรวจ ทหาร แตกแยกกัน คือประยุทธ์ หรือไม่ ที่ทำให้ประชาชนแตกแยกกัน
“พล.อ.ประวิตรบอกว่า ถ้าช็อกตายจะทำอย่างไร ช็อกไปเลย เรายินดี ถึงวันนั้นเราจะใส่เสื้อสีสันสดใสสวยงามออกมาประกาศให้รู้ว่า คนไม่ดีในประเทศนี้ได้ตายไปแล้ว ป้าบางคนที่ออกมาด่า พอได้คุยก็รู้ว่าเขามีความรู้ เข้าไปนั่งในสภา น่าจะมีประโยชน์กว่าประยุทธ์ จันทร์โอชา อีกไม่นานเกินรอ พล.อ.ประยุทธ์ จะทนความเลวทรามและหน้าทนไม่ไหว จนต้องยุบสภา ลาออก แต่ภาวนาอย่างเดียว อย่าให้เกินเดือนนี้-อาทิตย์นี้ เราไม่สามารถรอได้แล้ว เราทนมา 7 ปี มากกว่าครึ่งของ 88 ปี ที่อยู่ใต้การบริหารประเทศโดยทหาร และถ้าทหารดีจริง ป่านนี้ประเทศไทยเจริญไปแล้ว
“ใช้อำนาจ กดขี่ เอะอะเรียกไปปรับทัศนคติอย่างเดียว สิ่งที่ควรทำ คือทำให้เศรษฐกิจขับเคลื่อน ไม่ใช่แจ้ง พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เราคือคนไทย มีศักดิ์ศรีเท่ากัน เรามาเรียกร้องเพื่อประชาธิปไตย เพื่อชีวิตที่ดีขึ้น ไม่ได้มายุยง ปลุกปั่น เหมือนที่รัฐบาลให้หมายเรา แต่กลับใช้กฎหมายปิดปาก คนที่พูดความจริงมากมายเท่าไหร่ ที่ถูกติดคุก ถูกจับ ตายในต่างแดน ตายโดยเป็นผู้บริสุทธิ์
“ปูน ธนพัฒน์” กล่าวต่อว่า ในวันที่เราชนะ คนเหล่่านี้จะกลับมา เราจะโอบกอดเขาด้วยอุดมการณ์ ด้วยสองแขน เพียงเพราะเขาเสียสละให้เรา ในวันไหนที่เราล้ม เราต้องลุกให้ได้ วันที่รัฐบาลพยายามผลัก เราต้องลุกขึ้นสู้ ประชาชนไม่มีวันตาย อุดมการณ์ไม่มีวันตาย ไม่มีใครสูงไปกว่าใคร ทุกคนกินข้าว ทุกคนหายใจเหมือนกัน และทุกคนต้องการมีชีวิตที่ดีขึ้น ตนพูดแต่สิ่งที่ถูกต้อง แต่อาจจะขัดหูรัฐบาล จนพยายามยัดเยียดจข้อหาให้พวกเรา ในวันนี้ที่เราไม่อยู่ โดนขัง ขอให้พึงระลึกไว้ว่า เขาทำได้แค่นี้ จึงต้องใช้กฎหมายเล่นงาน เขากลัวความจริง กลัวคนกล้า จึงต้องขังเรา ถ้าเก่งจริง ทุกคนจะได้รับการปล่อยตัว
“เหนื่อยจริงๆ ที่เกิดมา 18 ปี ยังไม่มีอะไรดีๆ ในชีวิต ผมควรจะใช้ชีวิตวัยเด็กที่สดใส ไปกับเพื่อนๆ ไปตามวัย ไม่ใช่ออกมาเรียกร้อง ไม่ใช่เดินสายรับทราบข้อกล่าวหา หมายที่ท่านแจ้งมา อาจทำทำให้สูญเสียอิสระได้ กัักขังดวงดาวได้ แต่ไม่อาจขังแสงดาวได้ สู้ให้รู้ว่าเราไม่เคยยอมแพ้ สู้ให้รู้ว่าราษฎรเป็นใหญ่ในแผ่นดิน” ปูน ธนพัฒน์ กล่าว
เวลา 21.23 น. ประชาชนชาย กล่าวว่า วันนี้ศาลรัฐธรรมนูญได้ตัดสินการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ของสภา ว่าให้ทำประชาพิจารณ์ก่อน ถึงสามารถแก้ไขได้ถ้าประชาชนเห็นชอบ หลังแก้ไขเสร็จแล้ว ต้องทำประชาพิจารณ์อีกครั้ง ฟังเหมือนดี ฟังเหมือนเข้าใจในกระบวนการ เห็นหัวประชาชน แต่นี่คือเกมยื้อเวลาชัดๆ ประชาพิจารณ์ ต้องทำครั้งหนึ่ง 90 วัน จากนั้น ตั้ง ส.ส.ร. ยื้อไปอีก 1 ปี ทำอีก 90 วัน จึงจะผ่านวาระในสภา นั่นหมายความว่า อีก 3 ปี ถึงจะแก้ได้ ซึ่งนั่นหมายความว่า ประยุทธ์ และ ส.ว.อยู่อีกสมัย นี่คือเกมยื้อเวลาของเผด็จการ ที่บอกว่า จะไม่คืนอำนาจประชาชน ไม่สนใจข้อเรียกร้องประชาชน
วันนี้เรารอไม่ได้ เพราะการบริหารงานที่ล้มเหลวของรัฐบาลประยุทธ์ จันทร์โอชา เพราะการบริหารงานที่ผิดพลาด ด้วยสมอง 84,000 เซลล์ ลุแก่อำนาจ ไม่เห็นหัวประชาขนอย่างทุกวันนี้ มีนายกที่ไหนที่เอาแอลกอฮอล์ไปฉีดใส่ตานักข่าว ถ้าเป็นนายกจากการเลือกตั้งคงโดนไปแล้ว แต่เป็นนายกเผด็จการ ยอมอย่างเดียว นายกล้อเล่น ต่อให้ตาบอด นายกก็ล้อเล่น
แต่สิ่งที่ทนไม่ได้ เป็นปัญหาที่ต้องบอก คือ #ประยุทธ์ขายชาติ ฝากติดแฮชแท็กนี้
“เรารอไม่ได้ ต้องไล่รัฐบาลก่อน เพื่อเปิดโอกาสให้คนที่มาจากการเลือกตั้ง เพราะเขาย่อมเห็นหัวประชาชน ยุบสภาไป ใครชนะก็เป็นนายก ถ้าประยุทธ์แน่จริง อย่าเอา ส.ว. 250 มาใช้ กล้าๆ หน่อยลูกผู้ชาย นายทหารอย่างประยุทธ์ จันทร์โอชา กล้าๆ หน่อย
ส่วนสิ่งที่เราต้องเรียกร้องต่อไป คือ เอารัฐธรรมนูญ 40 กลับมา ประชาชนจะล้มกี่ครั้งก็ตาม ผมเชื่อเหลือเกินว่าประชาชนไม่มีวันแพ้พ่าย เพราะไม่ว่าล้มกี่ครั้ง ก็จะลุกขึ้นใหม่ ประชาชนไม่มีวันตาย เกิดใหม่ทุกวัน เพราะแผ่นดินนี้เป็นของประชาชน
จากนั้น เวลา 21.34 น. ผู้ร่วมชุมนุม ชู 3 นิ้ว ร้องเพลงเพื่อมวลชน และ นักสู้ธุลีดิน
น.ส.วรรณวลี หรือ ตี้ พะเยา กล่าวว่า ขอให้เพลงนี้แก่บุคคลที่สูญสิ้นอิสระภาพ
จากนั้น อ่านรายชื่อผู้ที่ถูกปลิดชีพ และถูกอุ้มหาย จากการต่อสู้ทางการเมืองเพื่อประชาธิปไตย โดยระบุว่า เขาสู้เพื่อชีวิตที่ดีกว่านี้ สู้เพื่อให้คนเท่ากับคน ขอให้ระลึกถึงบุคคลเหล่านั้น ก่อนประกาศยุติการชุมนุมในเวลา 21.43 น.
โดยนัดหมายชุมนุมวันที่ 12 มีนาคมนี้ ที่ อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ
