ผู้เขียน | เดินหน้าชน |
---|
เห็นใจภาคเอกชนหลายภาคส่วน ออกมาเรียกร้องให้รัฐบาลสร้างความชัดเจนโดยเร็ว เพื่อคลายล็อกมาตรการต่างๆ รวมทั้งความชัดเจนเกี่ยวกับวัคซีน
แต่ก็ยังไม่มีเสียงตอบรับจากทางรัฐบาลแต่อย่างใด
นายกลินท์ สารสิน ประธานคณะกรรมการหอการค้าไทย ออกมาเรียกร้องถึงรัฐบาลอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เร่งจัดประชุม ศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) (ศบศ.) ที่มีภาคเอกชนเข้าร่วม
เพื่อเสนอความเห็นในแง่มุมต่างๆ เร่งบรรเทาผลกระทบจากการระบาดของโควิด จากการประชุมครั้งล่าสุดเมื่อเดือนธันวาคม 2563 ปีที่แล้ว
ภาคธุรกิจอยากให้รัฐบาลรับฟังมากกว่านี้ ไม่ใช่ให้เอกชนเข้าไปเสนอความเห็นต่อมาตรการของรัฐบาลในการประชุมแต่ละครั้งเพียงอย่างเดียว แต่ควรรับฟังข้อเสนอของภาคเอกชนบ้าง
ขณะนี้ภาคเอกชนอยู่ระหว่างรวบรวมความต้องการวัคซีน เพื่อจัดทำเป็นข้อเสนอให้รัฐบาลจัดหาวัคซีนมาให้กับภาคธุรกิจโดยเร็ว เพราะเชื่อว่าจะเป็นหนทางเดียวที่ทำให้ฟื้นตัวจากวิกฤตครั้งนี้ได้เร็วที่สุด
เอกชนมองว่ารัฐบาลล่าช้ามาหลายเรื่องแล้ว สถานการณ์ขณะนี้รัฐบาลต้องเร่งสปีดการทำงาน การฉีดวัคซีน และการประกาศคลายล็อกต่างๆ ให้เร็วกว่านี้
เพื่อให้วางแผนล่วงหน้าก่อนถึงเทศกาลสงกรานต์ เพื่อเตรียมสินค้าในการทำธุรกิจในช่วงที่กำลังย่ำแย่ บางรายหายใจรวยริน บางรายต้องล้มเลิกธุรกิจไปแล้ว
ขณะเดียวกันก็คงต้องเห็นใจและเข้าใจทางภาครัฐด้วย เพราะในเมื่อตัวเลขผู้ติดเชื้อยังมีคลัสเตอร์ใหม่ได้ตลอด อย่างล่าสุดคลัสเตอร์บางแค มีผู้ติดเชื้อครั้งละจำนวนมากๆ กระจายไปทั่ว
ขณะที่การฉีดวัคซีนก็ดูเหมือนยังคงล่าช้า ไม่ค่อยทันอกทันใจภาคธุรกิจเท่าใดนัก เพราะต่างประเทศหลายแห่ง ฉีดไปไกลกว่าประเทศไทย
แต่หากจะให้คลายล็อกแบบทันอกทันใจ ถ้าเกิดระบาดครั้งใหม่ จะกลายเป็นถอยกลับไปเริ่มต้นใหม่ เหมือนเล่นเกมงูตกบันได
ดังนั้นจึงเข้าใจดีว่า บรรดาคุณหมอจากทางกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) คงพยายามทำทุกอย่างให้สอดคล้องกันไปอย่างเหมาะสมที่สุด
การคลายล็อกจะต้องเป็นไปอย่างเป็นขั้นเป็นตอน ทีละสเต็ป ทำคู่ไปกับการตรวจหาเชื้อเชิงรุก และการฉีดวัคซีนให้ทั่วถึงตามแผน
แต่สิ่งสำคัญตอนนี้ ภาคเอกชนหวังเพียงให้รัฐบาลควรจะปรับการทำงาน ปรับการบริหารจัดการ โดยคำนึงถึงผลกระทบกับประชาชนในแง่เศรษฐกิจให้เข้มข้นกว่านี้
อย่ากังวลกับการแพร่ระบาดจนทำให้เกิดความล่าช้าในการตัดสินใจด้านเศรษฐกิจ
การคลายล็อกมาตรการบางอย่างบางเรื่อง สามารถเร่งประกาศโดยไม่ต้องรอให้มีการประชุม คณะกรรมการศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) ได้หรือไม่
เพราะจนถึงวันนี้ เราได้เรียนรู้การรับมือกับโควิดมาในระดับหนึ่ง มีองค์ความรู้เกี่ยวกับการติดเชื้อ ความรุนแรง การป้องกัน มาในระดับหนึ่งแล้ว
ดังนั้น จึงไม่ควรใช้วิธีบริหารจัดการแบบเดิมๆ เหมือนในอดีตเมื่อครั้งตอนระบาดใหม่ๆ
ควรปรับการทำงาน รับฟังภาคธุรกิจให้ทั่วถึงและจริงจังมากขึ้น ไม่ใช่แค่ฟังแต่หมอ
เพราะเรื่องปาก เรื่องท้อง เรื่องความหิว รอไม่ได้ และไม่เคยปรานีใคร
ในช่วงรอยต่อของการเปลี่ยนแปลงตอนนี้ วัคซีนเริ่มทยอยมา ยอดติดเชื้อโควิดแนวโน้มทยอยลดลง
เชื่อว่าอีกไม่นานหลายประเทศทั่วโลกจะเริ่มเปิดประเทศ
รัฐบาลคงไม่จำเป็นต้องรอให้ประเทศอื่นเปิดก่อน เพื่อรอดูสถานการณ์ให้เนิ่นนานไปกว่านี้
แต่ควรเร่งสปีดเต็มสูบ เพื่อตั้งวงถกกับภาคเอกชน หามาตรการเปิดให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาเที่ยวได้อย่างปลอดภัย ให้เร็วที่สุด
เอาง่ายๆ เริ่มจากเทศกาลสงกรานต์นี้ก่อน จะให้จัดอย่างไรก็รีบว่ามา
เพื่อให้เครื่องจักรเศรษฐกิจของประเทศ คือภาคท่องเที่ยวเริ่มเดินเครื่องได้บ้าง เพื่อต่อลมหายใจให้กับธุรกิจท่องเที่ยวและบริการ และอีกหลายๆ ธุรกิจ รอดตายได้อีกจำนวนมาก
หลายชีวิตกำลังรอการตัดสินใจของเหล่าบรรดาผู้มีอำนาจอยู่ขณะนี้
สุรพล สุประดิษฐ์ ณ อยุธยา