‘บิ๊กตู่’ ขอบคุณ อสม. เสียสละสู้โควิด สวน ‘นักเลงคีย์บอร์ด’ ทำความดีอะไรบ้าง วอน สื่ออย่าขยายความ
เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 17 มีนาคม ที่ตึกสันติไมตรี (หลังใน) ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีมอบรางวัลเชิดชูเกียรติอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน ดีเด่นระดับชาติ เนื่องในวันอาสาสมัครสาธารณสุขแห่งชาติ ประจำปี 2564 โดยกล่าวว่า ขอขอบคุณไปยัง อสม.ทุกคนทุกพื้นที่ทุกจังหวัดที่มีจำนวนกว่า 1 ล้านคน ทุกคนเป็นผู้มีส่วนร่วมสร้างประวัติศาสตร์ประเทศของเราและร่วมมือเสียสละ ถือเป็นสิ่งที่ดีงามที่เกิดขึ้นในประเทศของเราที่ทุกคนได้ร่วมสร้างประวัติศาสตร์ ซึ่งเราต้องทำต่อไป เป็นสิ่งที่จะช่วยทำให้การรักษาสุขภาพและรักษาผู้ป่วยให้มีประสิทธิภาพ จึงขอบคุณทุกคนด้วยใจจริง ทุกคนทราบดีอยู่แล้วว่าประเทศไทยได้รับชื่อเสียงเรื่องการดูแลสุขภาพระดับโลกและจะดีขึ้นเรื่อยๆ โดยวันนี้นโยบายที่นายกรัฐมนตรี ให้ไปคือทำอย่างไรให้คนไม่ป่วยดีกว่าป่วยแล้วต้องรักษา เพื่อลดค่าใช้จ่ายเรื่องสุขภาพได้มากขึ้น และ อสม. ดูแลคนอื่น สุขภาพตัวเองต้องดีด้วยไม่เช่นนั้นดูแลคนอื่นไม่ไหว ทั้งนี้จากสถานการณ์โควิด-19 ได้เห็นความร่วมมือของทุกคน ถือเป็นการสืบสานรักษาต่อยอดตามพระราโชบายของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อทุกคนในประเทศของเรา ซึ่งประเทศชาติมีความสุขทุกคนก็จะมีความสุขไปด้วย
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า กฎหมายเป็นสิ่งเดียวทำทุกคนเท่าเทียม เพราะทุกคนต้องอยู่ภายใต้กฎหมาย ซึ่งตนเองก็อยู่ภายใต้กฎหมายเหมือนทุกคน อย่างไรก็ตาม กระทรวงที่มีส่วนใกล้ชิดชิดกับประชาชน ทั้งกระทรวงมหาดไทย ศึกษาธิการ และสาธารณสุข ช่วยให้ความรู้เรื่องกฎหมาย เรื่องอาชีพ และการลดความเหลื่อมล้ำ ต้องเรียนรู้ว่าประเทศเราเป็นอะไรมากกว่านี้หรือไม่ ทุกคนต้องช่วยตนคิด ช่วยทำและช่วยศึกษา ถ้าทำแบบดั้งเดิมไม่ได้แล้ว ขณะเดียวกันวันนี้ต้องเรียนรู้โซเชียล เฟซบุ๊ก กูเกิลมีอะไรอยากรู้ถามได้และต้องสนใจเรื่องต่างๆ ด้วยนี่คือความเป็นความตายของประเทศไม่ใช่เรื่องอื่น ทั้งเรื่องสุขภาพ ความสงบสุข ความปลอดภัยในชีวิตทรัพย์สิน ความมั่นคง ความมีเสถียรภาพ และการเคารพกฎหมายเท่านั้น ประเทศไทยเจริญแน่นอนไปไหนก์ได้ ดังนั้นอยู่ที่ทุกคนทำประเทศเดินหน้าอย่างไร
“วันนี้เรื่องวัคซีน วันนี้นำเข้ามาแล้วและผมก็ฉีดไปเมื่อวานนี้ เมื่อไหร่หมอให้ฉีดผมก็พร้อมฉีด ก็ดราม่าทุกอย่างนั่นแหละ มาวันแรกก็บอกนายกฯ ไม่กล้าฉีดเบี้ยวฉีดไม่ยอมฉีด ผมก็บอกว่าหมอก็ให้ฉีดเมื่อไหร่ก็เมื่อนั้น พอฉีดเสร็จก็บอกฉีดปลอมหรือเปล่า มียาหรือเปล่า ของจริงหรือเปล่าปัดโธ่! ไม่มีอะไรจะเล่นหรือไง บรรดาสื่อต่างๆ ผมก็ไม่เข้าใจ ผมก็ไม่อยากทะเลาะกับท่านอยู่แล้ว ขี้เกียจพูด นอกจากนี้หน้ากากที่ใสๆ หรือเฟซชิลด์ต้องไปดูว่ากันได้จริงหรือเปล่า บางทีมันก็เข้าไปได้มีโอกาสเข้าได้ถ้าจะใส่ บางคนกลัวไม่สวยกลัวแฟนไม่เห็นหน้า ซึ่งต้องปลอดภัยไว้ก่อนเพราะตัวเองต้องให้คนอื่นและก็เห็นดาราเขาใส่กันเฟซชิลด์ แต่เวลาพูดมันก็ออกไปพร้อมจะติดได้ ก็เตือนไว้ด้วยแล้วกันต้องใส่หน้ากากประกอบด้วย ไม่ใช่ไม่ไว้ใจแต่ต้องระวังตัวเอง” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า นอกจากนี้เรื่องการจัดกิจกรรมสงกรานต์ขอให้สนุกแต่พอเพียงพอสมควร ไม่ใช่เต็มที่คงไม่ได้ในช่วงนี้ ซึ่งรัฐบาลไม่ได้ต้องการไปปิดกั้นอะไรทั้งสิ้นซึ่งถือเป็นประเพณีอยู่แล้วก็อยากให้ทำแบบประเพณีก่อนๆ ไม่ใช่ครึกครื้นจนมีการแพร่ระบาดกลับมาอีก ต้องกลัวกันด้วยและต้องระมัดระวังตัวเอง ซึ่งประเพณีเก่าๆ ก็มี ทั้งการรดน้ำขอพรต่างๆ จะสนุกสนานรื่นเริงก็ต้องระมัดระวัง เพราะกินเหล้าแล้วก็ไม่กลัวอะไรทั้งสิ้นในโลก แต่พอหายเมาก็กลัวหมดว่าไปทำอะไรมาบ้าง ติดเชื้อมาบ้างหรือเปล่า จึงขอให้ภรรยาช่วยเตือนสามี และทุกคนเตือนครอบครัวตัวเองกันด้วย
เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่ระบุว่า มีดราม่าฉีดปลอม พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า “ผมพูดไปงั้นแหละ ก็มีการพูดเขียนในโซเชียล ท่านก็รู้อยู่ แล้วไปขยายความให้เขาทำไม ผมพูดเพราะต้องการให้คนเหล่านี้เลิกทำตัวแบบนี้สักที มันไม่เกิดประโยชน์ ไม่ได้สร้างสรรค์อะไรสักอย่าง ถ้าจะเขียนอย่างนั้นก็ไปดูว่าตัวเองทำความดีอะไรไปแล้วบ้าง โพสต์อะไรมามันไม่น่าฟัง ผมไม่โกรธ โกรธไม่ได้แต่ไม่ขยายให้ก็จบแล้ว”
