“อนุทิน” เล็งเจรจานำเข้าวัคซีนยี่ห้ออื่น รองรับสถานการณ์แพร่ระบาดโควิดเฉพาะหน้า

“อนุทิน” เล็งเจรจานำเข้าวัคซีนยี่ห้ออื่น รองรับสถานการณ์แพร่ระบาดโควิดเฉพาะหน้า

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 17 มีนาคม ที่ทำเนียบรัฐบาล ถึงความคืบหน้าการฉีดวัคซีนป้องกันการแพร่เชื้อไวรัสโควิด-19 ให้กับประชาชน โดยเฉพาะการเน้นกระจายให้กับกลุ่มเสี่ยง ว่า เป็นไปตามแนวทางและแผนที่กระทรวงสาธารณสุขตั้งใจไว้ ส่วนการแพร่ระบาดที่ตลาดย่านบางแค จะไม่กระทบกับยอดวัคซีนเดิมที่มีการจัดสรรเอาไว้ ในวันที่ 20 มีนาคมนี้ วัคซีนจะมาถึงอีก 8 แสนโดส ใช้เวลา 3-4 วันในการเตรียมตรวจมาตรฐานและเอกสารทั้งหมด ก่อนนำมาใช้ได้ ทั้งนี้ในช่วงเดือนเมษายนจะมาถึงอีกประมาณ 1 ล้านโดส

ขณะนี้ปลัดกระทรวงสาธารณสุขกำลังเจรจานำเข้าวัคซีนยี่ห้ออื่นเข้ามาอีก เพื่อรองรับสถานการณ์ ช่วงนี้ถือว่าเราอยู่ในสภาวะที่มีเครดิตดี พอเราจัดซื้อและนำมาใช้จริงแล้วได้ผลก็จะทำให้มีอำนาจในการเจรจาต่อรองดีขึ้น

นายอนุทิน กล่าวว่า หากบริษัทแอสตร้าเซนเนกา ระบุว่าขั้นตอนการผลิต การทดสอบคุณภาพและมาตรฐานวัคซีนที่ผลิตโดยบริษัทสยามไบโอไซแอนซ์ได้มาตรฐานดี ก็จะทยอยส่งให้ไทยได้ภายในเดือนมิถุนายนนี้ตามข้อตกลง เพื่อฉีดให้ประชาชนทั่วไปได้

เมื่อถามว่า จะมีการเจรจาบริษัทวัคซีนอื่นเพื่อนำเข้าเพิ่มเติมหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ขณะนี้เจรจาได้บริษัทเดียวเพราะมีความพร้อมมากที่สุดในการส่งวัคซีนได้ในระยะเวลาที่เราต้องการ และในเดือนมิถุนายนก็จะได้จากบริษัทแอสตร้าเซนเนกา ดังนั้นการจัดซื้อในช่วงนี้ไปจนถึงเดือนมิถุนายนจึงเป็นไปเพื่อนำมาใช้รองรับสถานการณ์การแพร่ระบาดเฉพาะหน้า

Advertisement

ผู้สื่อถามถึงคลัสตอร์บางแค สามารถขีดวงจำกัดได้แล้วหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า พยายามจะไม่ให้แพร่ออกไป แต่อาจจะมีบ้างที่เล็ดลอดออกไปบ้าง เพราะพบว่ามีหลุดไปที่จ.ศรีสะเกษ 1 คน แต่ก็ติดตามตัวได้แล้ว เป็นไปตามหลักการสาธารณสุข แต่ในปีนี้เรามีประสบการณ์ มียาและความพร้อมของระบบมากขึ้น ก็น่าจะดูแลสถานการณ์ได้ เมื่อมีวัคซีนมาก็ถือว่าเป็นปัจจัยบวกที่จะควบคุมได้ แต่สิ่งที่จะช่วยได้มากที่สุดคือความร่วมมือของประชาชน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image