ประกันสังคม จ่ายเงินผู้ประกันตนถูกเลิกจ้าง 15,224 คน กว่า 809 ล้านบาท
เมื่อวันที่ 18 มีนาคม นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า กรณีลูกจ้างซึ่งเป็นผู้ประกันตนถูกนายจ้างแจ้งการออกจากงานด้วยสาเหตุต่างๆ และได้ยื่นขอรับประโยชน์ทดแทนกรณีว่างงาน ณ สำนักงานประกันสังคมทั่วประเทศ ซึ่งจะต้องมีสิทธิได้รับเงินกรณีว่างงานทั้งสิ้นจำนวน 200 วัน ในอัตราร้อยละ 70 ของค่าจ้างตามกฎหมาย ทั้งนี้ ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ได้มอบนโยบายให้สำนักงานประกันสังคม (สปส.) หารือสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา กรณีนายจ้างแจ้งสาเหตุการออกจากงานของผู้ประกันตนว่ามีความผิดทำให้ผู้ประกันตนไม่ได้รับค่าชดเชยการออกจากงาน และประโยชน์ทดแทนกรณีว่างงาน โดยขั้นตอนการขอรับประโยชน์ทดแทนกรณีว่างงาน ผู้ประตนต้องร้องทุกข์ต่อเจ้าพนักงานตรวจแรงงาน หรือนำคดีสู่ศาลแรงงาน ทำให้ผู้ประกันตนที่ถูกออกจากงานดังกล่าว ได้รับความเดือดร้อนขณะว่างงาน
นายสุชาติ กล่าวว่า จากรายงานของ สปส. ซึ่งได้เร่งดำเนินการแก้ไขประกาศสำนักงานประกันสังคม เรื่อง หลักเกณฑ์การพิจารณาประโยชน์ทดแทนกรณีว่างงาน พ.ศ. 2564 (ฉบับที่ 3) และมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 20 มกราคม 2564 ทำให้ขั้นตอนการจ่ายเงินกรณีว่างงานให้ผู้ประกันตนอย่างรวดเร็วโดยไม่ต้องรอคำพิพากษาของศาลแรงงาน เพื่อเยียวยาความเดือดร้อนของผู้ประกันตนที่ขาดรายได้จากการว่างงาน โดยได้ออกหนังสือกำชับให้สำนักงานประกันสังคมทั่วประเทศ ดำเนินการพิจารณาวินิจฉัยเงินกรณีว่างงานกรณีดังกล่าว โดยเร่งด่วนและครบถ้วน ซึ่งขณะนี้ได้ดำเนินการจ่ายเงินให้กับผู้ประกันตนที่ถูกเลิกจ้างแล้วจำนวน 15,224 คน เป็นเงินจำนวน 809,916,800บาท โดยสำนักงานประกันสังคมจังหวัด/พื้นที่ที่มีผู้ประกันตนได้รับเงินกรณีว่างงานมากที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่ อันดับ 1 คือ นครราชสีมา รองลงมาคือ ปทุมธานี สำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานคร เขตพื้นที่ 10 สำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานคร เขตพื้นที่ 7 และ สมุทรสาคร ตามลำดับ
ทั้งนี้ นายอธิทัต เตวิภูษณะวงศ์ หนึ่งในลูกจ้างของบริษัทแห่งหนึ่งที่ได้รับเงินกรณีว่างงานดังกล่าว เปิดเผยว่า ได้รับประโยชน์ทดแทนกรณีว่างงาน จำนวน 60 วันแล้ว ซึ่งเจ้าหน้าที่แจ้งว่าจะได้รับเงินกรณีว่างงานทั้งสิ้น จำนวน 200 วัน ในอัตราร้อยละ 70 ของค่าจ้างตามกฎหมาย และต้องขอบคุณรัฐบาล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน และสำนักงานประกันสังคม ที่ทำให้ตนได้รับเงินกรณีว่างงาน เพราะเงินที่ได้รับ ได้นำมาใช้จ่ายในชีวิตประจำวันบรรเทาความเดือดร้อนของครอบครัวในขณะที่อยู่ระหว่างการหางานทำ
