‘นิกร’ หนุน แก้ม. 9 ร่างพ.ร.บ.ประชามติ แย้ม หารือ 3 พรรค ร่วมแก้รธน.ม.258 สมัยประชุมหน้า
เมื่อวันที่ 19 มีนาคม นายนิกร จำนง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวยอมรับว่า ตนเป็น 1 ใน 267 เสียง ที่ลงมติสนับสนุนให้ มาตรา 9 ของร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ว่าด้วยการประชามติ แก้ไขปรับปรุงตามข้อเสนอของกรรมาธิการ (กมธ.) เสียงข้างน้อย ซึ่งเนื้อหาได้เปิดช่องให้รัฐสภา, ประชาชน มีสิทธิเสนอเรื่องให้ทำประชามติ เพราะเห็นว่าควรเปิดกว้างการเสนอให้ทำประชามติที่ไม่ควรมีแค่จากฝั่งรัฐบาลเท่านั้น
และเมื่อพิจารณาเรื่องที่สอดคล้องกัน คือการแก้ไขรัฐธรรมนูญ หากกฎหมายประชามติผ่าน รัฐสภาจะมีสิทธิ์เสนอให้ทำประชามติร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญได้ หากร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญไม่ตกไป จุดนี้เชื่อว่าจะเป็นทางออกตามคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญได้ อย่างไรก็ตามการเปิดช่องให้การทำประชามติไม่ถูกจำกัดเฉพาะดุลยพินิจของฝ่ายบริหารนั้น ตนกังวลว่าร่างพ.ร.บ.ประชามติอาจถูกคว่ำในวาระ 3 ได้
นายนิกร กล่าวด้วยว่าสำหรับการแก้ไขรัฐธรรมนูญจุดยืนของพรรคชาติไทยพัฒนา คือ จะเดินหน้าแก้ไขต่อ เบื้องต้นตนได้คุยกับ นายบัญญัติ บรรทัดฐาน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์, นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ และ นายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจ ฐานะเป็นกมธ.แก้รัฐธรรมนูญ มีความเห็นร่วมกันว่าในการเปิดสมัยประชุมสภาฯ เดือนพฤษภาคม จะพิจารณาเสนอญัตติขอแก้รัฐธรรมนูญ ในประเด็นที่สามารถเดินหน้าร่วมกันได้ คือ มาตรา 256 ที่รัฐสภา ได้ผ่านการรพิจารณาและเห็นพ้องกันในวาระสอง คือ ปรับเงื่อนไขการใช้เสียงรับหลักการวาระแรก และเสียงเห็นชอบวาระสาม โดยเสียง 3 ใน 5 โดยตัดเกณฑ์เสียงส.ว. 1 ใน 3 และเสียงพรรคฝ่ายค้านร้อยละ 20 ออก
“การลงมติในวาระ 3 ทำให้เห็นแล้วว่า เสียงของส.ว.ที่เห็นชอบ 2 เสียง ไม่มีทางจะให้รัฐธรรมนูญแก้ไขได้ เพราะถือเกณฑ์ 84 เสียง เท่ากับว่าให้สิทธิ์ 84 เสียงหักกับอีก 500 เสียง ซึ่งไม่ถูกหลัก นอกจากนั้นยังมีประเด็นที่เห็นว่าควรเสนอแก้ไข
เช่น สิทธิของประชาชน การกระจายยอำนาจ การเลือกตั้ง ที่ต้องแก้ไขวิธีนับคะแนนและระบบไพรมารี่โหวต แต่ต้องไม่แตะหมวด 1 บททั่วไป และหมวด 2 พระมหากษัตริย์ ” นายนิกร กล่าว
เมื่อถามถีงการเคลื่อนไหวของภาคประชาชนต่อการแก้ไขรัฐธรรมนูญ 3 ประเด็นใหญ่ คือ ยุบส.ว., ปฏิรูปศาลรัฐธรรมนูญ และเลิกยุทธศาสตร์ชาติ นายนิกร กล่าวว่า ประชาชนสามารถเคลื่อนไหวได้ ในประเด็นที่นำเสนอมาจากแกนนำประชาชนนั้น ไม่ทราบว่าประชาชนจะเอาด้วยแค่ไหน ส่วนตัวมองว่าหากชู 3 ประเด็นดังกล่าวจะยาก เพราะเท่ากับล้มศาลรัฐธรรมนูญ อีกทั้งต้องนำไปทำประชามติตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 256(8)