ไทยติดเชื้อเพิ่ม 100 ราย ตาย 1 ราย ศบค. ต่อ พ.ร.ก.ฉุกเฉินถึงสิ้นเดือน พ.ค. ปรับสมุทรสาครเป็นพื้นที่สีส้ม 1 เม.ย.ลดระยะเวลากักตัวเหลือ 10 วัน
เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 19 มีนาคม ที่ทำเนียบรัฐบาล พญ.พรรณประภา ยงค์ตระกูล ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. แถลงสถานการณ์ประจำวัน ว่า มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 100 ราย เป็นการติดเชื้อในประเทศ 96 ราย ในจำนวนนี้มาจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ 55 ราย มาจากการค้นหาเชิงรุกในชุมชน 41 ราย นอกจากนี้ เป็นผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ 4 ราย ทำให้มีผู้ติดเชื้อสะสม 27,594 ราย หายป่วยสะสม 26,450 ราย อยู่ระหว่างรักษา 1,054 ราย เสียชีวิตเพิ่มเติม 1 ราย เป็นหญิงไทย อายุ 53 ปี ชาว จ.สมุทรสาคร อาชีพพนักงานบริษัท มีโรคประจำตัวเบาหวาน กล้ามเนื้อหัวใจตาย ปอดอักเสบ
พญ.พรรณประภากล่าวว่า สำหรับผู้เสียชีวิตนั้น วันที่ 28 มกราคม มีอาการไอ เจ็บคอ หายใจเร็ว จมูกไม่ได้กลิ่น ลิ้นไม่ได้รับรส จากนั้นวันที่ 2 กุมภาพันธ์ ตรวจพบเชื้อโควิด-19 วันที่ 3 กุมภาพันธ์ เข้ามารักษาตัวที่โรงพยาบาลใน กทม. ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ โดย 1 สัปดาห์ก่อนเสียชีวิต พบว่ามีเกล็ดเลือดต่ำ มีเลือดออกทางสมอง ติดเชื้อในกระแสเลือด วันที่ 17 มีนาคม อาการแย่ลง ไม่ตอบสนองต่อการรักษา และเสียชีวิตในเวลาต่อมา ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตสะสมอยู่ที่ 90 ราย ขณะที่สถานการณ์โลก มีผู้ติดเชื้อสะสม 122,366,215 ราย เสียชีวิตสะสม 2,703,176 ราย
ด้าน นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษก ศบค. แถลงภายหลังการประชุม ศบค.ชุดใหญ่ ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะ ผอ.ศบค.เป็นประธานว่า ที่ประชุมเห็นชอบการปรับเขตพื้นที่สถานการณ์ของ จ.สมุทรสาคร จากพื้นที่ควบคุมสูงสุด (สีแดง) เป็นพื้นที่ควบคุม (สีส้ม) ทำให้ขณะนี้มี พื้นที่ควบคุม รวมเป็น 9 จังหวัด ได้แก่ สมุทรสาคร กทม. สมุทรปราการ สมุทรสงคราม นนทบุรี นครปฐม ปทุมธานี ตาก และราชบุรี
นพ.ทวีศิลป์กล่าวว่า ส่วน พื้นที่เฝ้าระวังสูง มี 14 จังหวัด ได้แก่ กาญจนบุรี สุพรรณบุรี พระนครศรีอยุธยา สระบุรี นครนายก ฉะเชิงเทรา เพชรบุรี ระยอง ชลบุรี ระนอง ชุมพร สงขลา ยะลา และนราธิวาส สำหรับมาตรการผ่อนคลายในพื้นที่สีส้มกับสีเหลืองมีความใกล้เคียงกัน โดยพื้นที่ สีส้ม ร้านอาหาร สถานบันเทิง ผับ บาร์ ให้เปิดถึง 23.00 น. แต่พื้นที่เฝ้าระวังสูง (สีเหลือง) ให้เปิดถึง 00.00 น. ส่วนกิจกรรมอื่นให้เปิดบริการตามปกติ
นพ.ทวีศิลป์กล่าวว่า ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ได้รายงานให้ที่ประชุมรับทราบถึงแผนการจัดการหาวัคซีนในประเทศไทย โดย วันที่ 24 กุมภาพันธ์ ไทยได้วัคซีนจากซิโนแวคมาแล้ว 2 แสนโดส เดือนมีนาคมจะได้อีก 8 แสนโดส เดือนเมษายนจะได้มาอีก 1 ล้านโดส ส่วนวัคซีนแอสตร้าเซนเนกา ภายในเดือน มิถุนายนจะได้ 6 ล้านโดส จากนั้นเดือนกรกฎาคม-พฤศจิกายน จะได้เดือนละ 10 ล้านโดส และเดือนธันวาคม จะได้มาอีก 5 ล้านโดส รวมทั้งสิ้น 63 ล้านโดส
สำหรับแผนการฉีดนั้น นพ.ทวีศิลป์กล่าวว่า แบ่งเป็น 2 ระยะ ระยะที่หนึ่ง ช่วงเดือน มีนาคม-พฤษภาคม กลุ่มเป้าหมายคือ บุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขด่านหน้าทั้งรัฐและเอกชน, บุคคลที่มีโรคประจำตัว, บุคคลที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป, เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับการควบคุมโควิด-19 โดยตั้งแต่วันที่ 28 กุมภาพันธ์ มีตัวเลขผู้ที่ได้รับวัคซีนแล้ว 62,941 คน และวันที่ 20 มีนาคม ไทยจะได้วัคซีนซิโนแวคมาเพิ่มอีก 8 แสนโดส จะกระจายให้กลุ่มเป้าหมายใน 18 จังหวัด
นพ.ทวีศิลป์กล่าวว่า ส่วนระยะที่ 2 ช่วงเดือน มิถุนายน-ธันวาคม ที่มีวัคซีนมากขึ้นและเพียงพอ จะกระจายไปยังกลุ่มเป้าหมายในระยะที่หนึ่ง บุคลากรทางการแพทย์ที่อยู่นอกเหนือด่านหน้า, ผู้ประกอบการภาคท่องเที่ยว, ผู้เดินทางระหว่างประเทศ, ประชาชนทั่วไป ซึ่งนายกฯให้แนวคิดว่ากลุ่มนี้ให้ตีความไปถึงกลุ่มผู้ใช้แรงงาน ประชาชนผู้มีรายได้น้อย ผู้บริหารภาคราชการที่ต้องเดินทาง พระ ผู้นำศาสนา นักการทูต เจ้าหน้าที่องค์กรระหว่างประเทศ นักธุรกิจต่างชาติ ชาวต่างชาติที่อยู่ระยะยาว รวมถึงแรงงานในภาคอุตสาหกรรม ภาคบริการ
นพ.ทวีศิลป์กล่าวต่อว่า สำหรับมาตรการการกักตัวนั้น เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ได้รายงานว่ารัฐบาลต้องใช้งบประมาณในส่วนนี้จำนวนมาก บางคนมีการเข้าออกประเทศถึง 7 ครั้งต่อปี ดังนั้น จะมีการปรับรูปแบบโดยให้ผู้ที่เดินทางเข้ามาออกค่าใช้จ่าย โดยตั้งแต่วันที่ 1 เมษายนเป็นต้นไปจะปรับสถานที่กักตัวให้เหลือเท่าที่จำเป็นและเหมาะสม และตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคมเป็นต้นไป ที่คาดว่าจะมีการกระจายวัคซีนแล้วจะปรับรูปแบบเป็นสถานที่คุมไว้สังเกต
นพ.ทวีศิลป์กล่าวว่า ผู้ที่จะเดินทางเข้ามา จากเดิมที่ต้องมีใบรับรองการบิน (FIT TO FLY) กับผลการตรวจโควิด-19 จะเหลือเพียงผลการตรวจโควิด-19 เพียงอย่างเดียว และตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน-30 มิถุนายนจะให้ผู้ที่เข้าสถานที่กักตัวของรัฐสามารถทำกิจกรรมต่างๆ ได้มากขึ้น จำนวน 5 กิจกรรม ได้แก่ ใช้ห้องฟิตเนสได้ ออกกำลังกายกลางแจ้งได้ ใช้สระว่ายน้ำได้ ปั่นจักรยานในพื้นที่ปิดได้ และซื้อสินค้าและอาหารจากภายนอกได้ จากนั้นวันที่ 1 กรกฎาคม-30 กันยายน สามารถรับประทานอาหารในห้องอาหารของโรงแรมได้ รวมถึงใช้บริการนวดเพื่อสุขภาพได้ และตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม จะกำหนดให้มีการกักตัวเฉพาะบุคคลที่เดินทางมาจากพื้นที่ที่คณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติกำหนด
“นอกจากนี้ ยังเห็นชอบการปรับลดระยะเวลากักตัวสำหรับผู้ที่ฉีดวัคซีนแล้ว และยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีน โดยตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.เป็นต้นไป ให้ลดระยะเวลากักตัวจาก 14 วัน เหลือ 10 วัน เว้นแต่กรณีผู้ที่เดินทางมาจากประเทศที่มีเชื้อโควิด-19 กลายพันธุ์ที่กระทรวงสาธารณสุขยังกำหนดว่าต้องกักตัว 14 วัน
“ที่ประชุม ศบค.ชุดใหญ่ ยังได้เห็นชอบแนวทางการจัดกิจกรรมในเทศสงกรานต์ โดยกิจกรรมที่จัดได้ ได้แก่ สรงน้ำพระ กิจกรรมอื่นๆ ทางศาสนา การจัดพิธีรดน้ำดำหัวขอพรผู้ใหญ่ตามประเพณีนิยม หรือรูปแบบที่กระทรวงวัฒนธรรมกำหนด อนุญาตให้เดินทางข้ามจังหวัดเพื่อไปท่องเที่ยวต่างจังหวัดได้ทุกท้องที่ แต่งดจัดกิจกรรมที่มีการรวมกลุ่มคนจำนวนมาก ประกอบด้วย งดรวมกลุ่มเล่นสาดน้ำ งดการจัดคอนเสิร์ต งดการจัดกิจกรรมที่มีการสัมผัสกันใกล้ชิดคือ งดประแป้ง และงดการเล่นปาร์ตี้โฟม
“ส่วนกิจกรรมอื่นๆ นอกเหนือจากนี้ให้อยู่ในดุลพินิจของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด ดังนั้น ภาพการสาดน้ำจะไม่เกิดขึ้นในเทศกาลสงกรานต์นี้ แต่เป็นการย้อนกลับไปจัดงานแบบวิถีไทยดั้งเดิม ซึ่งไม่ได้มีการพูดเรื่องกฎหมาย หรือว่าจะไปบังคับ แต่เป็นการขอความร่วมมือประชาชน นอกจากนี้ ที่ประชุมยังเห็นชอบขยายระยะเวลาการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดโควิด-19 ออกไป 2 เดือน ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน-31 พฤษภาคม” นพ.ทวีศิลป์กล่าว
นพ.ทวีศิลป์กล่าวตอนท้ายว่า ในที่ประชุม นายกฯได้มีข้อห่วงใยโดยเน้นย้ำว่า ในช่วงนี้ขอให้ผู้ที่ประกอบกิจการกิจกรรมทั้งหลายได้พิจารณาขอบเขตของอาณาบริเวณพื้นที่ที่จะใช้จัดกิจกรรม กิจการให้ชัดเจน โดยเฉพาะในช่วงนี้ตลาดเป็นเรื่องที่น่ากังวล และให้ความห่วงใยมากคือช่องทางเข้าออกจะต้องมีการ ใช้เพียงช่องทางเดียว โดยได้บอกไปยังรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และปลัดกระทรวงมหาดไทยเพื่อเน้นย้ำไปหลายครั้ง รวมไปถึงเรื่องความเหมาะสมขนาดของกิจการกิจกรรม สวมหน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัยอยู่เสมอ เว้นระยะห่าง มีจุดวัดอุณหภูมิ มีที่ให้บริการล้างมือ และใช้แอพพลิเคชั่น หมอชนะ ไทยชนะ
“และที่สำคัญที่สุดช่วงวันหยุดยาวของเทศกาลในครั้งนี้คือ การดื่ม การขาดสติจากการดื่มสุรานายกรัฐมนตรีก็บอกด้วยว่า ขอด้วยก็แล้วกันในครั้งนี้ถึงแม้จะผ่อนคลายขึ้นมามาก แต่สติที่เรายังดีอยู่จะช่วยให้ทำงานด้านนี้ได้ง่ายขึ้น และไม่ต้องการเห็นภาพของผู้บาดเจ็บ หรือเสียชีวิต ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่เราจะต้องมารายงานกัน
“เมื่อปีก่อนได้ขอความร่วมมือทางจังหวัดในช่วงของเทศกาลสงกรานต์ ซึ่งผมได้มาแถลงว่าแต่ละจังหวัดจะงดการขายสุราขึ้นมาเองซึ่งจะทำให้ตัวเลขของการเสียชีวิตต่ำที่สุดในช่วงเวลาที่เราเคยมีมา ดังนั้น เมื่อการงดดื่มหรืองดจำหน่ายสุรารวมกับตัวเลขจากโควิด-19 แล้ว ไม่ทำให้เกิดตัวเลขการเสียชีวิตได้ ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับ แต่ละจังหวัดว่าจะประกาศใช้อย่างไร ประชาชนจะให้ความร่วมมือกันอย่างไร เพราะถ้าทุกคนร่วมมือกันเราก็จะปลอดโควิด-19 และการบาดเจ็บและการเสียชีวิต จากการเกิดอุบัติเหตุเนื่องจากการดื่มสุราก็จะลดน้อยลงไปด้วย” นพ.ทวีศิลป์กล่าว