‘ชวน’ จ่อเปิดสภา สมัยวิสามัญ ปิดจ๊อบ กม.ประชามติ
การเปิดให้ประชาชนลงประชามติเป็นเครื่องสำคัญเชื่อมโยงกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน แต่กลไกหลักอย่างร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติยังไม่สามารถพิจารณาวาระที่ 3 ได้ทันในระหว่างการประชุมรัฐสภาสมัยวิสามัญเมื่อวันที่ 18 มีนาคม ทำให้มีความพยายามผลักดันกฎหมายฉบับนี้ออกมาโดยเร็ว ซึ่งนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา ให้สัมภาษณ์เรื่องนี้เมื่อวันที่ 19 มีนาคม ว่าในร่าง พ.ร.บ.ประชามติจะต้องมีการทำความเชื่อมโยงระหว่างมาตรา 9 และมาตราอื่นๆ ให้เรียบร้อยก่อน ซึ่งคณะกรรมาธิการ (กมธ.)
ในส่วนกฤษฎีกาขอเวลา 7 วันในการทบทวนเนื้อหา หากเรียบร้อยแล้ว ก็จะนำเรียนรัฐบาลเพื่อขอเปิดประชุมสมัยวิสามัญเพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ประชามติที่ยังค้างอยู่ และแม้ร่าง พ.ร.บ.ประชามติจะมีเพียง 67 มาตรา แต่สมาชิกแปรญัตติทุกมาตราก็ต้องใช้เวลา จึงคิดว่าถ้าเปิดประชุมสมัยวิสามัญ 2 วันก็สามารถพิจารณาได้หมด ซึ่งได้พูดคุยกับนายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านแล้ว เวลาที่เหมาะสมในการเปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญน่าจะเป็นวันที่ 7-8 เมษายน หากเป็นไปได้ก็จะรีบแจ้งไปยังรัฐบาล เพราะหลังจากนั้นจะเป็นวันหยุดยาวช่วงสงกรานต์
อย่างไรก็ตามมีการแสดงความเป็นห่วง จากนายนิกร จำนง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) ว่า ตนเป็น 1 ใน 267 เสียงที่ลงมติสนับสนุนให้มาตรา 9 ของร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยการประชามติ แก้ไขปรับปรุงตามข้อเสนอของกรรมาธิการ (กมธ.) เสียงข้างน้อย คือมีเนื้อหาเปิดช่องให้รัฐสภา ประชาชน มีสิทธิเสนอเรื่องให้ทำประชามติ เพราะเห็นว่าควรเปิดกว้าง ไม่ใช่มีแค่จากฝั่งรัฐบาลเท่านั้น และเมื่อพิจารณาเรื่องที่สอดคล้องกัน คือการแก้ไขรัฐธรรมนูญ หากกฎหมายประชามติผ่าน รัฐสภาจะมีสิทธิเสนอให้ทำประชามติร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญได้ จุดนี้เชื่อว่าจะเป็นทางออกตามคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญได้ อย่างไรก็ตาม การเปิดช่องให้การทำประชามติไม่ถูกจำกัดเฉพาะจากฝ่ายบริหารนั้น ทำให้กังวลว่าร่าง พ.ร.บ.ประชามติอาจถูกคว่ำในวาระ 3 ได้
