แอมเนสตี้แถลงเด็กมีสิทธิในการชุมนุมและสิทธินี้จะต้องได้รับการคุ้มครองจากรัฐ

(Photo by Mladen ANTONOV / AFP)

แอมเนสตี้แถลงเด็กมีสิทธิในการชุมนุมและสิทธินี้จะต้องได้รับการคุ้มครองจากรัฐ

สืบเนื่องจากการจับกุมและดำเนินคดีเด็กเจ็ดคนเมื่อเร็วๆ นี้ ในระหว่างการชุมนุมของกลุ่มรีเด็ม (REDEM) เมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2564 ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมฝูงชนได้ใช้กำลังเกินขอบเขตและไม่ชอบด้วยเหตุผลในการจับกุมและทำให้เด็ก ผู้สื่อข่าว และผู้ชุมนุมคนอื่นได้รับบาดเจ็บ

นางปิยนุช โคตรสาร ผู้อำนวยการแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย กล่าวว่า การจับกุมและทำร้ายเด็กระหว่างการชุมนุมเช่นนี้เป็นสัญญาณที่ชัดเจนว่ารัฐบาลไทยไม่เคารพศักดิ์ศรีของประชาชน โดยเฉพาะของเด็ก เด็กมีสิทธิแสดงความเห็นเท่าเทียมกับบุคคลอื่นในสังคม และสิทธินี้ต้องได้รับการคุ้มครองจากสังคมและรัฐบาล แทนที่ผู้บังคับใช้กฎหมายจะคุ้มครองเด็ก แต่สำนักงานตำรวจแห่งชาติกลับทำให้เด็กได้รับอันตรายเสียเอง

“การจับกุมเด็กในที่ชุมนุมเป็นเรื่องที่รับไม่ได้และไม่ชอบด้วยกฎหมาย ทั้งตามมาตรฐานในประเทศและระหว่างประเทศ การปฏิบัติอย่างไร้เมตตาธรรมต่อผู้ชุมนุมจะยิ่งสร้างความแปลกแยกในสังคม

“การปฏิบัติที่โหดร้ายต่อเด็กระหว่างการควบคุมตัวที่กองบังคับการตำรวจตระเวนชายแดน ภาค 1 และการที่ศาลเยาวชนไม่ไต่สวนอย่างรอบด้านต่อการจับกุมเช่นนี้ ทำให้เกิดข้อกังวลขั้นพื้นฐานต่อสิทธิที่จะได้รับการพิจารณาอย่างเป็นธรรมและอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก”

Advertisement

ข้อมูลพื้นฐาน

ในวันที่ 20 มีนาคม 2564 ผู้ประท้วง 32 คน รวมทั้งเด็กเจ็ดคนถูกจับกุมและดำเนินคดีจากการชุมนุมที่สนามหลวงและบริเวณใกล้เคียง

สองในเจ็ดคนถูกตั้งข้อหาตามมาตรา 112 มาตรา 215-216 และมาตรา 217 ของประมวลกฎหมายอาญา จากการมั่วสุมชุมนุมอย่างผิดกฎหมาย และการวางเพลิงเผาทรัพย์ การฝ่าฝืนพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินฯ และการฝ่าฝืนพระราชบัญญัติโรคติดต่อฯ เด็กอีกสองคนยังถูกดำเนินคดีข้อหาตามมาตรา 215-216 และมาตรา 138 ของประมวลกฎหมายอาญา จากการมั่วสุมชุมนุมอย่างผิดกฎหมาย ขัดขืนคำสั่งของเจ้าพนักงาน และทำร้ายเจ้าหน้าที่ระหว่างปฏิบัติหน้าที่ รวมทั้งฝ่าฝืนพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินฯ และพระราชบัญญัติโรคติดต่อฯ เด็กกลุ่มสุดท้ายสามคนยังถูกดำเนินคดีในข้อหาตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก

นับแต่การชุมนุมการชุมนุมในปี 2563 มีเด็กอย่างน้อย 24 คน ที่ถูกดำเนินคดีด้วยข้อหาหนัก รวมทั้งมาตรา 112 (หมิ่นพระบรมเดชานุภาพ) มาตรา 116 (ยุยงปลุกปั่น) เพียงเพราะการแสดงความเห็นและใช้เสรีภาพด้านการแสดงออกและเสรีภาพในการชุมนุม เด็กหกคนถูกดำเนินคดีในข้อหาตามมาตรา 112 โดยเด็กอายุน้อยสุดมีอายุเพียง 14 ปี นับแต่เดือนตุลาคม 2563 ตำรวจได้ปฏิบัติการหนักหน่วงขึ้นอย่างชัดเจนต่อเด็ก มีทั้งการจับกุมอย่างไม่เลือกหน้าในที่ประท้วง ไม่มีการกำหนดเป้าหมายที่ชัดเจน และมีการใช้กำลังทางกาย นอกจากนั้น ตำรวจยังควบคุมตัวผู้ประท้วงที่ถูกจับที่กองบังคับการตำรวจตระเวนชายแดน ภาค 1 ซึ่งมีการปิดกั้นอย่างมากต่อการเข้าถึงของทนายความและครอบครัว

ศาลเยาวชนมักไม่เข้ามาไต่สวนในกรณีเช่นนี้ และไม่ได้ปฏิบัติตามแนวปฏิบัติเพื่อประโยชน์สูงสุดของเด็ก และสิทธิที่จะคุ้มครองให้ปลอดพ้นจากอันตราย นอกจากนั้น ศาลยังไม่เข้ามาไต่สวนการจับกุมที่มีการใช้กำลัง

แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย สนับสนุนอย่างเต็มที่ต่อแนวปฏิบัติของคณะกรรมการว่าด้วยสิทธิเด็กและความเห็นทั่วไปที่ 37 ซึ่งเน้นถึงสิทธิที่จะมีเสรีภาพด้านการแสดงออกและเสรีภาพในการชุมนุม และสิทธิที่จะได้แสดงความเห็น โดยเฉพาะผู้ที่เข้าร่วมในการชุมนุม เรายังคงเรียกร้องให้หน่วยงานบังคับใช้กฎหมายและรัฐปฏิบัติตามพันธกรณีเชิงบวก โดยจะต้องปฏิบัติหน้าที่ด้วยความตระหนักอย่างแท้จริงว่ามีเด็กเข้าร่วมในการชุมนุม

แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย จึงเรียกร้องให้ยกเลิกการดำเนินคดีทุกข้อหากับเด็กและผู้เข้าร่วมการชุมนุมและใช้สิทธิของตน ทั้งยังเรียกร้องให้มีการสอบสวนอย่างรอบด้านต่อการใช้กำลังจนเกินกว่าเหตุ และการปฏิบัติที่โหดร้าย สิทธิที่จะได้รับการเยียวยาและประโยชน์สูงสุดของเด็ก ควรเป็นปัจจัยสำคัญที่เป็นส่วนหนึ่งของแนวปฏิบัติขั้นพื้นฐานในกระบวนการยุติธรรมด้วย

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image