‘ไบรท์’ ลั่น ‘ศักราชใหม่ต่อสู้’ เผย ปมรุนแรงม็อบ 20 มีนา ‘ไหม’ ชี้ รัฐบาลเผด็จการ ทำ ‘ชีวิตแรงงาน’ ล่มสลาย
เมื่อวันที่ 24 มีนาคม ที่สี่แยกราชประสงค์ เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการชุมนุม “เพราะประเทศนี้เป็นของราษฎร” โดย แนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม
เวลา 18.04 น. นายชินวัตร จันทร์กระจ่าง หรือ ไบรท์ เครือข่ายคนรุ่นใหม่นนทบุรี กล่าวปราศรัยตอนหนึ่งถึงเหตุการณ์ความรุนแรงในการชุมนุมของกลุ่ม REDEM ที่ท้องสนามหลวง เมื่อวันที่ 20 มีนาคม ความว่า วันนั้นมีตำรวจระดับนายพล ขึ้นรถจีโน่ พูดเสียงดัง ข่มพี่น้องว่าให้สื่อได้ยินว่า ‘ผู้ชุมนุมอย่าใช้ความรุนแรง’ อย่าเข้ามาเขตพระราชฐาน ทั้งที่อยู่แค่ท้องสนามหลวง ตำรวจบอกอย่าเข้ามา พี่น้องไม่ได้เข้าไปทางนั้น ตำรวจยิงแก๊สน้ำตา ยิงกระสุนยางใส่ แบบนี้ใครใช้ความรุนแรง ฝากถึงพวกโลกสวยด้วย ที่บอกพวกเราใช้ความรุนแรง
“เราไม่ได้ชุมนุมแบบตั้งเวทีมานานแล้ว ตั้งแต่ต้นปี นี่คือวันเริ่มต้นศักราชใหม่แห่งการต่อสู้ ใครอยู่พรรคไหนอยู่ไป ผมสมัครพรรคก้าวล่วงไปเรียบร้อย กับหัวหน้าพรรค ครูใหญ่ อรรถพล บัวพัฒน์” นายชินวัตรกล่าว
เวลา 18.27 น. น.ส.ธนพร วิจันทร์ หรือ ไหม ตัวแทนเครือข่าย แรงงานเพื่อสิทธิประชาชน กล่าวปราศรัยตอนหนึ่งว่า กี่ปีแล้วที่รัฐบาลเผด็จการทหารทำให้ประเทศแย่ เป็นหนี้ ตกงาน ไม่มีเงินใช้หนี้ ด้วยความไม่จริงใจของ ประยุทธ์ จันทร์โอชา และองคาพยพ เราเห็นแล้วว่า รัฐสภาไม่สามารถตอบสนองการแก้ไขปัญหาประชาชนได้ แต่ประชาชนไม่ย่อท้อ จนกว่าเราจะเปลี่ยนประเทศให้เป็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริง
“เครือข่ายแรงงาน ได้ไปทวงถามพรรคการเมืองถึงนโยบายที่หาเสียงไว้ โดยเฉพาะกับแรงงาน บอกว่าจะปรับค่าแรงขั้นต่ำ 425 บาท ก็ไม่ทำ ประชาธิปไตย บอกจะประกันรายได้ ตอนนี้ตกงาน ตรงไหนที่บอกจะดูแลตามนโยบาย กลับเอาภาษีเราไปซื้ออาวุธ ทั้งที่ต้องเอามาช่วยเหลือประชาชนก่อน เพราะเราเจอโควิด-19 ได้รับผลกระทบทุกคน รัฐบาลมองไม่เห็น พี่น้องหาบเร่ เกษตรกรในต่างจังหวัด ชีวิตเราล่มสลายแล้ว เรามาทำงานในอุตสาหกรรม ต้องการส่งเงินไปเลี้ยงที่บ้าน แต่วันนี้สถานการณ์เราคือ ตกงาน ไม่มีเงิน ออกแต่โครงการเราชนะ ที่ประชาชนไม่เคยชนะ โครงการเรารักกัน ที่ทิ้งแรงงานข้ามขาติไว้ข้างหลัง หาว่าเขาไม่มีบัตรประชาชน แต่ไม่ว่าเขาจะเป็นคนชาติไหนก็คือแรงงานในไทย”
