‘ที่นี่มีคนตาย’ ลั่นราชประสงค์ ‘แหวน’ ปลุกวิญญาณเสื้อแดง ปกป้อง น.ศ. ‘เบนจา’ ชี้ ความหวังคือเปลวเพลิง เชื่อ ใต้ความมืด คนจะลุกขึ้นสู้ เพื่อ ‘เปลี่ยนแปลง’
เมื่อวันที่ 24 มีนาคม ที่สี่แยกราชประสงค์ เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการชุมนุม “เพราะประเทศนี้เป็นของราษฎร” โดย แนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม
เวลา 20.43 น. น.ส.ณัฏฐธิดา มีวังปลา หรือ แหวน พยาบาลอาสา กล่าวปราศรัยว่า ที่ตรงนี้ต้องไม่มีคนตาย ที่นี่น้องๆ ออกมาเรียกร้องให้คนเสื้อแดง พี่น้อง 99 วิญญาณตรงนี้จงลุกขึ้นมาปกป้องน้องๆ ลุกขึ้นมาปกป้องนักศึกษา เสื้อแดงทุกคนต้องลุกขึ้นมาปกป้องนักศึกษา เราไม่รู้ชะตาของเด็กๆ แต่ทั้ง 13 คน แต่พวกเขาหาได้กลัวไม่ ขอเสียงปรบมือดังๆ ให้พวกเขา
จากนั้น ผู้ชุมนุมปรบมือให้เยาวชน ที่จะไปรายงานตัวตามหมาย ม.112 ในวันที่ 25 มีนาคมนี้ จากการชุมนุมหน้าสถานทูตเยอรมนี
น.ส.ณัฏฐธิดา กล่าวต่อว่า เด็กเพียงเรียกร้องสิทธิที่พึงมี และอนาคตที่ดีกว่านี้ ไม่ว่าอะไรจะเกิด เราจะก้าวเดินต่อไป อยู่เคียงข้างลูกหลาน ขอให้พี่น้องทุกคนจงยึดมั่น จงศรัทธา ขอทุกคนอย่างลืมอานนท์เมื่อถึงเส้นชัย ทนายน้อยๆ ที่เรียกร้องสิทธิเสรีภาพตั้งแต่เป็นนักศึกษา จนทำงาน จนตอนนี้อยู่ในเรือนจำ ทำไมบางกลุ่มถึงได้ประกันตัว ทั้งที่เป็นคนบงการ ฆ่าเสื้อแดง 99 ศพ และพยาบาลอาสา 6 ศพในวัดปทุมวนาราม
“ได้รับข่าวมาว่า วันนี้มีกลุ่มบุคคลที่กำลังเคลื่อนตัวเข้ามาโดยรอบเพื่อดักทำร้ายเรา จงหยุด จะต้องให้ใครตายฟรีอีกเท่าไหร่ ผืนดินไทย ไม่ควรมีใครต้องตายเพราะมาชุมนุม ตามมาตรา 4 ทุกคนมีสิทธิตามรัฐธรรมนูญ และการสั่งฆ่าประชาชนใช้สิทธิข้อไหน ที่แห่งนี้ไม่ควรมีคนตาย ขอให้ร่วมกันระลึกถึง ไม่ว่านักศึกษาไปที่ไหน รายงานตัว สน.ใด ขอความช่วยเหลือ ไปร่วมให้กำลังใจ เราจะไปศาลอาญา รัชดา ขอให้ไปร่วมกัน และขอรำลึกถึงพี่น้องเราที่นี่
จากนั้น ผู้ชุมนุมตะโกน “ที่นี่มีคนตาย”
“ใครสั่งฆ่าขอให้มีอันเป็นไป เราจะไปถามทุกม็อบ ขอให้วิญญาณทุกคน มาเคียงข้างนักศึกษาประชาชน” น.ส.ณัฏฐธิดากล่าว
เวลา 20.52 น. ผู้ชุมนุมชู 3 นิ้ว ตะโกน “ปล่อยเพื่อนเรา ยกเลิก 112”
นายธัชพงศ์ แกดำ หรือ บอย กล่าวว่า ฝากถึง ผบ.ตร คุณรู้ว่ามีกลุ่มปกป้องสถาบันจ้องจะทำร้ายเรา ตำรวจที่ตั้งด่านกลับถอนกำลังออก ถ้ามีเหตุอะไร เราจะไปแจ้งความ ฐานละเลยการปฏิบัติหน้าที่ ขอร่วมไปเป็นกำลังใจ ขอช่วงจับตาและดูแล ขอให้เซฟทหารที่มาพูดวันนี้ด้วย และ ขอให้ ปปส.ไปตรวจสอบยาเสพติดในค่ายชายแดนด้วย
เวลา 20.55 น. น.ส.เบนจา อะปัญ แนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม อ่านแถลงการณ์ จากราษฎรผู้ต้องการเห็นประชาธิไตยในเวลานี้ โดยมีข้อความกล่าวถึงการต่อสู้ของราษฎรในปีที่ผ่านมา ด้วย 3 ข้อเรียกร้อง คือ
1.ประยุทธ์และองคาพยพต้องลาออก
2.ร่างรัฐธรรมนูญประชาชน
3.ปฏิรูปสถาบัน
“อย่างไรก็ตาม การเรียกร้องภายใต้ข้อเสนอเหล่านี้ กลับพบการปราบปรามจากรัฐ ยิ่งชุมนุมสันติ ยิ่งใช้กำลัง โดยไม่คำนึงว่าเป็นคำสั่งที่ไม่ชอบธรรมอย่างยิ่ง
ในช่วงที่ผ่านมา เราผ่านความเหน็ดเหนื่อย พี่น้องเราถูกทำร้ายอย่างไร้เมตตา ทั้งยังใช้กฎหมายกำกวม ดำเนินคดีกับคนที่พูดความจริง นี่คือช่วงเวลาที่มืดมิดที่สุดในกระบวนการประชาธิปไตย แต่กระนั้น ไม่ได้หมายความว่าการต่อสู้จะจบสิ้น การต่อสู้เรายังคงดำเนินต่อไป จะยังคงมุ่งถึงชัยชนะอย่างถึงที่สุด
เราเชื่อว่า ภายใต้ความมืดมิด ผู้คนในประเทศที่โหยหาสังคมไร้เผด็จการ จะลุกขึ้นต่อสู้เพื่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลง หนทางข้างหน้าต้องพึ่งพาความมานะและอดทน
ความหวังเป็นสิ่งที่ไม่มีวันดับ พลังประชาจะไม่มีวันมอดไหม้ หากแต่เป็นเปลวเพลิง ล้างประเทศให้กลับสู่ครรลองประชาธิปไตยอีกครั้งหนึ่ง”
น.ส.เบนจากล่าวต่อว่า นี่ไม่ใช่ครั้งสุดท้าย และเราจะไม่ยอมแพ้ ขอบคุณทุกคนมากๆ ที่ไม่ว่าสู้ตรงนี้หรือที่ไหน ขอบคุณที่ยังไม่ยอมแพ้ ตราบใดที่เรายังไม่ยอมแพ้ เผด็จการก็ไม่มีวันชนะ เราไม่อาจรู้ได้ว่าวันแห่งชัยจะมาถึงเมื่อไหร่ แต่เรา ณ ที่แห่งนี้จะสู้ต่อ
ไม่เคยเสียดายที่ออกมาเคลื่อนไหว ต่อให้พรุ่งนี้จะเกิดอะไรขึ้น หรือต่อให้วันนี้เป็นวันสุดท้าย แต่ไม่เคยเสียใจที่ออกมาเป็นส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนแปลง ทุกคนมีพลัง มีศักยภาพ ออกมาเถิด ออกมาให้ถึงพัน ถึงหมื่น ถึงแสน และเราจะออกมาบนถนนให้ถึงล้าน นี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นศักราชใหม่ 2564 เราจะสู้ต่อ แม้จะมี หรือไม่มีแกนนำก็ตาม เพื่อเป้าหมายเดียวกัน คือ ประชาธิปไตย ขอบคุณแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม ที่ทำให้หลายสิ่งเกิดขึ้น เราจะไม่หยุด แนวร่วมธรรมศาสตร์จะยืนยันสู้ต่อ ขอฝากบทเพลงหนึ่ง ให้เราร้องร่วมกัน บทเพลงแห่งสามัญชน
จากนั้น ผู้ชุมนุมร่วมร้องเพลง “บทเพลงของสามัญชน” ก่อนยุติกิจกรรมในเวลา 21.04 น.
โดยนายธัชพงศ์ ขอให้ผู้ชุมนุมดินทางกลับทางชิดลม และประตูน้ำเท่านั้น เนื่องจากหวั่นการดักทำร้าย
