‘สมัชชาคนจน’ ประณามสลายหมู่บ้านทะลุฟ้า ชี้รัฐ ‘ลุแก่อำนาจ’ เติมเชื้อไฟความขัดแย้ง

‘สมัชชาคนจน’ ประณามสลายหมู่บ้านทะลุฟ้า ชี้รัฐ ‘ลุแก่อำนาจ’ เติมเชื้อไฟความขัดแย้ง

เมื่อวันที่ 28 มีนาคม สืบเนื่องกรณี เมื่อเวลาประมาณ 05.50 น. ของวันที่ 28 มีนาคม พล.ต.ต.ปราศรัย จิตตสนธิ ผบก.น.1 พร้อม พล.ต.ต.มานพ สุคนธ์ธนพัฒน์ ผบก.อคฝ.นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการอารักขาและควบคุมฝูงชน (บก.อคฝ.) รวม 4 กองร้อย ขอคืนพื้นที่คืนบริเวณซอยพระราม 5 เลียบคลองผดุงกรุงเกษม ใกล้สะพานชมัยมรุเชฐข้างทำเนียบรัฐบาล ซึ่งเป็นพื้นที่ปักหลักการชุมนุมของกลุ่มผู้ชุมนุมกลุ่มเดินทะลุฟ้า ที่ชุมนุมค้างคืนมาตั้งแต่วันที่ 13 มีนาคมที่ผ่านมา

ล่าสุด เมื่อเวลาประมาณ 13.00 น. สมัชชาคนจนออกแถลงการณ์ประณามการใช้กำลังเข้าสลายการชุมนุมหมู่บ้านทะลุฟ้า

ความว่า

ตามที่สื่อมวลรายงานข่าวว่า ในวันนี้ (28 มีนาคม 2564) เวลาประมาณ 05.50 น. มีการใช้กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการอารักขาและควบคุมฝูงชน ประมาณ 4 กองร้อย เข้าปิดล้อมและสลายการชุมนุมหมู่บ้านทะลุฟ้า บริเวณซอยพระราม 5 เลียบคลองเปรมประชากร เชิงสะพานชมัยมรุเชฐ ข้างทำเนียบรัฐบาล โดยอ้างเหตุผลว่า ผู้ชุมนุมฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน พร้อมทั้งสั่งให้ผู้ชุมนุมหยุดการถ่ายทอดสด และให้เวลาเก็บของออกจากพื้นที่ภายใน 3 นาที ซึ่งต่อมาเจ้าหน้าที่เข้าจับกุมตัวผู้ชุมนุมที่นั่งอยู่ในบริเวณหมู่บ้านทะลุฟ้า จำนวน 64 คน ในข้อหาความผิดต่อ พ.ร.บ.โรคติดต่อ และฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน นั้น

Advertisement

สมัชชาคนจนเห็นว่า การชุมนุมของหมู่บ้านทะลุฟ้า เริ่มต้นมาตั้งแต่วันที่ 13 มีนาคม 2564 โดยมีข้อเรียกร้อง 4 ข้อ ได้แก่ 1.ปล่อยเพื่อนเรา 2.เขียนรัฐธรรมนูญใหม่ 3.ประยุทธ์ออกไป 4.ยกเลิก 112 เป็นการใช้สิทธิ เสรีภาพ ในชุมนุมโดยสงบปราศจากอาวุธ พร้อมทั้งมีการจัดให้ลงทะเบียนและคัดกรองโรคโคโรน่าไวรัสหรือโควิด-19 ตามมาตรการของรัฐบาล และไม่เคยปรากฏว่า ผู้ชุมนุมในพื้นที่ดังกล่าวมีพฤติกรรมในการใช้ความรุนแรงหรือใช้อาวุธในพื้นที่การชุมนุม ตลอดจนไม่เคยมีข้อเท็จจริงใดที่ระบุว่า มีผู้ติดโรคโคโรน่าไวรัส หรือโควิด-19 จากพื้นที่ชุมนุมดังกล่าว

ดังนั้นการใช้กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการอารักขาและควบคุมฝูงชน เข้าสลายการชุมนุมของหมู่บ้านทะลุฟ้าเวลาเช้ามืด โดยอ้างว่ามีความผิดต่อ พ.ร.บ.โรคติดต่อ และฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ก็คือการใช้กฎหมายเป็นเครื่องมือในการกำจัดผู้เห็นต่างทางการเมืองเท่านั้น เพราะตลอดระยะเวลา 1 ปี ที่ผ่านมาของการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน รัฐบาลไม่สามารถใช้กฎหมายนี้ แก้ไขปัญหาโรคระบาดได้เลย ดังที่ปรากฎข้อเท็จจริงตามสื่อต่างๆ แต่กลับใช้เป็นเครื่องมือในการจับกุมผู้ที่ออกมาเคลื่อนไหวทางเมืองเป็นจำนวนมาก การใช้กฎหมายปิดปากคนเห็นต่างอย่างที่ทำอยู่ในปัจจุบันของรัฐบาล ไม่ได้ทำให้ความขัดแย้งทางการเมืองหายไปหรือดีขึ้น แต่เป็นเติมเชื้อไฟให้ความขัดแย้งลุกลาม และรุนแรงมากยิ่งขึ้น

สมัชชาคนจน ขอประณามการใช้กำลังอันป่าเถื่อน ลุแก่อำนาจ เข้าสลายการชุมนุมหมู่บ้านทะลุฟ้า และจับกุมผู้ชุมนุมครั้งนี้ และขอให้ปล่อยตัวผู้ชุมนุมที่ถูกจับกุมโดยทันที

Advertisement

ประชาธิปไตยที่กินได้ การเมืองที่เห็นหัวคนจน

สมัชชาคนจน
28 มีนาคม 2564

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image