‘กุ๊ก เครือข่ายราม’ หดหู่ สลายหมู่บ้านทะลุฟ้า ชี้ควรเผาตำรา กม. ยันถ้าไทยมี รธน.ดี เสื้อแดงคงไม่ถูกยิงตาย
สืบเนื่องจากกรณีสลายการชุมนุมหมู่บ้านทะลุฟ้า บริเวณซอยพระราม 5 เลียบคลองผดุงกรุงเกษม ใกล้สะพานชมัยมรุเชฐ ข้างทำเนียบรัฐบาล เมื่อช่วงเช้าตรู่ ของวันที่ 28 มีนาคมที่ผ่านมา โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมผู้ชุมนุมรวม 99 ราย มีพระภิกษุสงฆ์ที่พาไปสึก ณ วัดเบญจมบพิตร ก่อนส่ง บก.ตชด.ภ.1 ในข้อหาชุมนุมมั่วสุมผิดกฎหมายตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ประกอบ พ.ร.บ.ควบคุมโรค ชุมนุมมั่วสุมเสี่ยงต่อการควบคุมโรค นั้น
เมื่อวันที่ 29 มีนาคม ที่ สกายวอล์ก MBK บริเวณสี่แยกปทุมวัน กรุงเทพฯ ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศนัดหมายชุมนุม “เด็กหลงทาง” ของ หมู่บ้านทะลุฟ้า
เวลา 18.32 น. นายนันทพงศ์ ปานมาศ หรือ กุ๊ก แกนนำเครือข่ายรามคำแหงเพื่อประชาธิปไตย กล่าวในการปราศรัยว่า เพื่อนเราทั้ง 90 กว่าคนยังไม่ได้รับการปล่อยตัว หลวงพี่ที่โดนจับสึกท่านเป็นลม เพราะไม่มีการเปิดแอร์ให้ในรถตำรวจที่จับขึ้นไป มีอากาศหายใจไม่เพียงพอ
“การสลายการชุมนุมของรัฐ ผมไม่เข้าใจว่ารัฐทำเพื่ออะไร ในขณะที่เรามีสิทธิชุมนุมอย่างสันติ วันที่โดนสลายการชุมนุม นักศึกษาก็นั่งร่วมชุมอย่างสันติ แต่กลับถูกสลายการชุมนุม วันนี้ผมรู้สึกหดหู่อยู่ในใจ ด้วยตัวผม ที่เรียนจบนิติศาสตร์มา รู้สึกว่ามันไม่ตรงกับที่ผมเรียนมา ผมมองว่าควรเผาตำราทิ้งให้หมด มันถึงเวลาแล้วที่เราต้องปฏิรูปประเทศไทย
ถึงวันนี้ สรุปได้แล้วว่า รัฐบาลประยุทธ์ ก็คือรัฐบาลเผด็จการจากยุคก่อน รัฐธรรมนูญทั้งหมดนี้ก็มาจากเผด็จการทั้งหมดทั้งมวล ถ้าประเทศไทยมีรัฐธรรมนูญที่ดี พี่น้องชาวเสื้อแดงคงไม่ถูกยิงตายกลางเมืองแบบนั้น พ่อของน้องเฌอ คงไม่ต้องเสียน้องไปแบบนี้
และน้องๆ แกนนำทุกคนคงไม่ต้องถูกจับเพราะ 112″ นายนันทพงศ์กล่าว
นายนันทพงศ์กล่าวต่อว่า ถ้ารัฐธรรมนูญเป็นประชาธิปไตย เราคงไม่ต้องมี ส.ว.ที่มาจากการแต่งตั้งแบบนี้ มีแต่ประเทศไทยประเทศเดียวที่มีการทำแบบนี้ ตามข้อเรียกร้องที่เรายืนหยัดกันมา ประยุทธ์ต้องออกไป แก้รัฐธรรมนูญให้เร็วที่สุด ยกเลิก 112 และต้องปล่อยเพื่อนเรา
“ผมยืนยันว่าการปฏิรูปไม่ใช่การล้มล้าง แต่เป็นการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น สิ่งที่เราต้องการคือ เราต้องเดินหน้าให้สำเร็จและจะไม่มีการลดเพดานข้อเรียกร้องของเราอย่างแน่นอน รัฐบาลประยุทธ์บริหารเศรษฐกิจล้มเหลว มีประชาชนทนพิษเศรษฐกิจไม่ไหว ผูกคอตายไปหลายคนในรัฐบาลนี้” นายนันทพงศ์กล่าว และว่า
อยากให้ทุกท่านสู้ไปพร้อมกันด้วยสันติวิธี จนกว่าจะชนะ ทั้งนี้ ยังมีการเชิญชวนให้ผู้ชุมนุมปรบมือให้ทนายอานนท์ นำภา และเพื่อนที่โดนข้อหาอาญา มาตรา 112
