‘สิระ’ ซัดแหลก ‘ตู่’ เงินหมดเตรียมนำม็อบสู้แล้วรวยภาค 2 เย้ย ‘เต้น’ ดูกำไลขาก่อน ระวังเข้าคุกต่อ

‘สิระ’ ซัดแหลก ‘ตู่’ เงินหมดเตรียมนำม็อบสู้แล้วรวยภาค 2 เย้ย ‘เต้น’ ดูกำไลขาก่อน ระวังเข้าคุกต่อ

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 31 มีนาคม ที่รัฐสภา นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 30 มีนาคม กมธ.พร้อมด้วย นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล (ก.ก.) ได้เข้าไปที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ เพื่อไปดูว่ามีการละเมิดสิทธิมนุษยชนหรือไม่ ดูเรื่องความเป็นอยู่ของผู้ต้องขังว่าแออัดหรือไม่ เพื่อนำมาปรับปรุง โดยได้มีการพูดคุยกับนายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือไผ่ ดาวดิน สอบถามว่าอยู่สบายหรือไม่ ซึ่งนายจตุภัทร์ตอบว่าอยู่สบายดี ซึ่งนายจตุภัทร์หน้าตาแจ่มใสกว่าอยู่ด้านนอกด้วยซ้ำ และกรมราชทัณฑ์ก็ให้แยกอยู่ไม่ได้อยู่รวมกับผู้ต้องหาคนอื่น มีบริการซักผ้า ส่งข้าวส่งอาหารอย่างดี มีห้องอาบน้ำ ไม่ต้องเดินมาปะปนคนอื่น ซึ่งเป็นที่ประจักษ์แล้วว่าไม่มีการละเมิดสิทธิมนุษยชน ประชาชนไม่ต้องกังวล ผู้ต้องขังในคดีการเมืองอยู่สบายและปลอดภัย

เมื่อถามว่า ได้มีการพูดคุยกับ นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวินหรือไม่ นายสิระกล่าวว่า ไฟดับพอดีจึงได้คุยกับนายจตุภัทร์คนเดียว

เมื่อถามว่า จากกรณีที่มีการโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กของแกนนำกลุ่มราษฎรถึงการปฏิบัติไม่ดี แสดงว่าไม่เป็นความจริงใช่หรือไม่ นายสิระกล่าวว่า การโพสต์หรือการติดต่อภายนอกไม่สามารถทำได้ และห้ามญาติเยี่ยมด้วย จึงมีพวกบิดเบือนว่าภายในเป็นอย่างไร สร้างสถานการณ์ว่าเลวร้าย

Advertisement

“คนที่อยู่ภายนอกไม่ต้องห่วงพรรคพวก ให้เขาอยู่ของเขาเถอะ ไม่ต้องเอาเขาออกมา เขาอยู่สบายแล้ว ไม่ต้องเรียกร้องว่าปล่อยเพื่อนกู เมื่อวานเพื่อนพวกท่านยิ้มแย้มแจ่มใส อารมณ์ดีมาก“ นายสิระกล่าว

เมื่อถามถึงกรณีนายจตุพร พรหมพันธ์ุ ประธาน นปช.นัดชุมนุมใหญ่วันที่ 4 เมษายนนี้ นายสิระกล่าวว่า อยากถามนายจตุพรว่าที่ผ่านมาบ้านเมืองเสียหายไปขนาดไหน มีคนบาดเจ็บล้มตายไปมากขนาดไหน สถานที่ราชการโดนเผาไปกี่แห่ง ยังไม่พอใจอีกหรือ คุณจะทำอะไรกับประเทศชาติให้ฉิบหายวายวอดมากกว่านี้อีกหรือ หรือจะเข้าสู่การสู้แล้วรวยภาค 2 ทำไมตนถึงพูดเช่นนี้เพราะว่าผู้ร่วมการชุมนุมอย่างนายสมหวัง อัสราษี อดีตแกนนำ นปช. ที่ถูกสรรพากรตรวจสอบ ต้องคืนเงินภาษีรายได้ 500 ล้านบาท เท่ากับว่าการชุมนุมครั้งหนึ่งมีรายได้เข้ามาเท่าไหร่ ติดใจใช่หรือไม่ ในการสู้แล้วรวย นึกถึงประเทศชาติบ้าง นึกถึงแผ่นดินที่เกิดบ้าง จะตอบแทนคุณแผ่นดินโดยทำความเดือดร้อนให้แผ่นดิน จะมีการเผาบ้านเผาเมืองครั้งที่ 2 หรือ ทำมาหากินสุจริตบ้าง นายจตุพรยังมีคดีติดตัวอีกเยอะ ปล่อยคนประเภทนี้มา บ้านเมืองเสียหายขนาดไหน และให้รีบตัดสินเลยวันนี้อย่าเลื่อนคดีบุกบ้าน พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ อดีตประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ถ้าขอเลื่อนไม่ใช่ลูกผู้ชาย

“ผมขอสาปแช่งหากทำอีก ขอให้ผู้บังคับใช้กฎหมายลงโทษถึงที่สุดอย่าให้อภัยคนเหล่านี้ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ อดีตแกนนำ นปช. ก็เช่นกัน พูดเป็นนัยๆ ว่าเห็นด้วยและเห็นเพนกวินเป็นแบบอย่าง ใช่สิ ม็อบสมัยนี้เผารถ เผานั่นเผานี่เป็นแบบอย่างที่ดีใช่หรือไม่ คุณณัฐวุฒิ คุณดูกำไลขาคุณ คุณยังติดกำไลอีเอ็ม คุณอย่ามาทำบ้านเมืองให้เสียหายอีก คุณยังจำคำพูดตนเองได้หรือไม่ว่าเผาไปเลย เดี๋ยวรับผิดชอบเอง แล้ววันนี้จ่ายสักบาทหรือยัง เรื่องจำนำข้าว บ้านเมืองเสียหายขนาดไหน คุณเป็นรัฐมนตรีช่วยพาณิชย์ คุณได้ชดใช้หรือยัง ที่บอกอดีตนายกอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ว่าดีแต่พูด เอ็งนั่นแหละไอ้ดีแต่พูด พูดแล้วไม่รับผิดชอบ อย่ามาเสนอหน้า ดูกำไลขาก่อน ถ้ามีการละเมิดผมจะขอให้มีการถอนกำไลขาและเข้าคุกต่อ” นายสิระกล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image