‘แรมโบ้’ จวก ‘จตุพร-ณัฐวุฒิ’ ออกมาเคลื่อนไหวเพื่อใคร ไหนออกจากคุกบอกจงรักภักดี สวน ‘บิ๊กตู่’ ออกจะให้ใครขึ้นมาเป็นนายกฯ
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 2 เมษายน ที่ทำเนียบรัฐบาล นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี แถลงข่าวถึงกรณีที่นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) เตรียมเคลื่อนไหวชุมนุมชุมนุมในวันที่ 4 เมษายน ว่า ตนได้พูดคุยหลังนายจตุพรบอกว่าถูกทอดทิ้ง ไม่ได้รับการดูแลหรือข่วยเหลืออะไร และการอยู่ในคุกเหมือนการอยู่ในนรกของคนเป็น และในวันนั้นตนได้ต่อสายให้ได้คุยกับผู้ใหญ่ เพราะนายจตุพรเองก็มีความเดือดร้อนและมีความจำเป็นที่ต้องช่วยเหลือและสนับสนุน
นายเสกสกลกล่าวว่า เมื่อเห็นเพื่อนเดือนร้อน ตนก็ห่วงใย อยากให้เพื่อนคิดได้ และในวันนี้มันหมดเวลาแล้วที่เราจะมาเป็นแกนนำเพราะในที่สุดเราก็ถูกทอดทิ้ง ตนได้เตือนตลอดว่าการต่อสู้ที่ผ่านมาสู้เพื่อใคร สู้เพื่อตัวเองหรือสู้เพื่อใคร
นายเสกสกลกล่าวต่อว่า แกนนำทุกคนสู้อยู่ 2 หัว คือ 1.สู้เพื่อตัวเอง โดยหวังว่าเมื่อสู้แล้วจะได้มีตำแหน่งเป็น ส.ส.เป็นรัฐมนตรี 2.สู้เพื่อตัวเองสู้แล้วรวย ในการสู้และรวยตนจะมาแถลงข่าวแฉในวันหลัง แต่ในวันนี้จะมาพูดถึงการสู้เพื่อตำแหน่ง เมื่อได้รับตำแหน่งแล้วสู้เพื่อใคร ใครที่ได้ขึ้นมามีอำนาจ แม้จะไม่ใช่นายกฯคนเดิม แต่ว่าน้องสาวใครที่ได้ขึ้นมามีตำแหน่ง ตกลงเราสู้เพื่อใคร
“ไหนบอกว่า นปช.จุดยืนอยู่ตรงกลางคือเพื่อประชาชน แต่สุดท้ายก็สู้เพื่อตัวเองให้คนนามสกุลชินวิตรกลับมามีอำนาจ ไม่ได้สู้เพื่อประชาชน การจะสู้เพื่อประชาชนหนึ่งต้องไม่ยึดติดผลประโยชน์ของตัวเองสองตรงไม่ยึดติดกับผลประโยชน์ของผู้มีอำนาจ สิ่งที่สะท้อนคือสะท้อนให้กับอดีตคนเสื้อแดงได้รับรู้รับทราบ
“ใครคือคนที่พาพี่น้องประชาชนไปตายและผมอยู่ทุกเหตุการณ์ตลอด ได้บอกว่ามันคือการหลอกประชาชนมาตาย ไม่ได้เป็นการปกป้องประชาธิปไตยโดยมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข แต่มันกลายเป็นการหลอกให้มาชุมนุมมาตายมาติดคุก คนที่เคยออกมาเคลื่อนไหวเพื่อประชาธิปไตยมีใครออกมารับผิดชอบหรือไม่ ตนต้องเอาความจริงมาแฉให้หมด
“วันนี้ขอขอบคุณพี่น้องเสื้อแดงหลายกลุ่มที่บอกว่าไม่เห็นด้วยกับการเคลื่อนไหวของนายจตุพรและนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ที่ออกมาบอกว่าสนับสนุน ม็อบสามนิ้ว หรือม็อบคณะราษฎร หรือนักศึกษาแนวร่วมธรรมศาสตร์ต่างๆ จิตใจของคนพวกนี้ไม่มีสำนักในความรับผิดชอบต่อบ้านเมืองประเทศชาติและประชาชน
“อย่ามาบอกว่าออกมาจากเรือนจำจะจงรักภักดีและปกป้องสถาบัน แต่พอถึงเวลาอาจถูกใครชักจูงหรือให้งบประมาณ ซึ่งผมก็ไม่ทราบ แต่เมื่อจงรักภักดีต่อสถาบันจะมาเคลื่อนไหวโดยอ้าง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวหาว่าไม่มีความจริงใจในการแก้ไขรัฐธรรมนูญอย่างนี้ไม่ได้ เพราะ พล.อ.ประยุทย์ไม่เคยสั่งการอะไร ทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการ
“การมากล่าวหาว่าเป็นตัวขัดขวางกระบวนการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งไม่เป็นข้อเท็จจริงทั้งสิ้น ถ้าคุณมาไล่ พล.อ.ประยุทธ์ นายจตุพรและนายณัฐวุฒิจะให้ใครขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรี จะให้นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรีหรือ ทั้งที่คนเหล่านี้โดนมาตรา112 และต้องการที่จะก้าวล่วงจาบจ้วงสถาบัน ถ้ายังไม่หยุดเคลื่อนไหวผมจะออกมาแฉพฤติกรรมของทั้งคู่เป็นระยะ” นายเสกสกลกล่าว