‘บิ๊กตู่’ตั้งเป้าปี 64 กทม.ปลอดสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ เผยโรดเเมป 20 ปี ปฏิรูปคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาทั้งระบบ

เมื่อวันที่ 28 สิงหาคม พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลกำลังวางแผนที่นำทางด้านทรัพย์สินทางปัญญา (ไอพีโรดแมป) ระยะ 20 ปี เพื่อปฏิรูประบบการทำงานด้านการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาและเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของผู้ประกอบการและสินค้าไทยสู่ตลาดโลกอย่างยั่งยืน โดยในระยะเร่งด่วน ปี 2560 ตั้งเป้าหมายเปิดตลาดกลางทรัพย์สินทางปัญญา (ไอพีมาร์ท) บนโลกออนไลน์ เพื่อเป็นช่องทางให้ผู้ซื้อหรือผู้ประกอบการได้พบและเจรจากับเจ้าของผลงานที่ได้รับการจดทะเบียนแล้วโดยตรง เพื่อให้เกิดธุรกิจซื้อขายหรือนำผลงานเข้าสู่ระบบการผลิตแบบอุตสาหกรรม

“ไทยอยู่ในบัญชีประเทศที่ต้องจับตาดูอย่างใกล้ชิด หรือ Priority Watch List (PWL) ของสหรัฐ ด้านการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญามานานกว่า 10 ปีแล้ว เนื่องจากที่ผ่านมายังไม่มีการดำเนินงานเพื่อคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญา (Intellectual Property หรือ IP) อย่างเพียงพอ และยังพบการละเมิด IP บ่อยครั้ง ปัญหาหนึ่งที่สำคัญคือ มีบุคลากรระดับปฏิบัติการไม่เพียงพอ ทำให้เกิดการจดทะเบียนค้างสะสม ในระยะเร่งด่วนนี้รัฐบาลได้วางแผนเร่งเพิ่มจำนวนผู้ปฏิบัติงาน ปรับปรุงระบบฐานข้อมูลและเทคโนโลยีสารสนเทศให้รองรับการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมปรับปรุงการทำงานของเจ้าหน้าที่และกฎระเบียบเพื่อลดขั้นตอนในการจดทะเบียนให้สะดวกรวดเร็วมากยิ่งขึ้น” พล.ต.สรรเสริญกล่าว

พล.ต.สรรเสริญกล่าวต่อว่า ในระยะยาวจะมีระบบฐานข้อมูลกลางระดับชาติเชื่อมโยงกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อจัดระเบียบการดำเนินงานในภาพรวมทั้งประเทศ และพัฒนากฎหมายให้ได้มาตรฐานสากล นอกจากนี้ ยังจะเพิ่มพื้นที่ให้ผู้ประกอบการเจ้าของผลงานที่ได้รับการจดทะเบียนไอพีแล้วได้แสดงสินค้านวัตกรรมของตนเองในงานจัดแสดงสินค้าต่างๆ เช่น ห้างสรรพสินค้า งานแสดงสินค้า และในโลกออนไลน์ เพื่อให้สามารถพัฒนาต่อยอดผลงานนวัตกรรมได้ตรงกับความต้องการของตลาด รวมถึงสนับสนุนให้มีการประเมินมูลค่าไอพีและใช้เป็นหลักประกันทางธุรกิจด้วย ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้กำชับกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งเป็นแกนหลักในการประสานทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เร่งดำเนินการป้องกันและปราบปรามการละเมิดไอพี โดยตั้งเป้าหมายว่าภายในปี 2564 พื้นที่การค้าสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์และทรัพย์สินทางปัญญาอื่นๆ ในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑลจะหมดไป พร้อมทั้งให้มีการประเมินผลการปฏิบัติงานตามแผนการดำเนินงานที่วางไว้ทุกๆ 3 เดือน

“นายกฯฝากกระทรวงพาณิชย์ให้สร้างความรู้ความเข้าใจแก่ประชาชนและผู้ประกอบการถึงความสำคัญของไอพีและสร้างจิตสำนึกเคารพสิทธิในไอพีของผู้อื่น รวมถึงสนับสนุนให้ผู้ประกอบการรายย่อยหันมาพัฒนาสินค้าโดยใช้วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี นวัตกรรมและความคิดสร้างสรรค์ในแบบของตนเองและนำมาจดทะเบียนสิทธิบัตร เพื่อเพิ่มมูลค่าสินค้า ยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันทางธุรกิจของผู้ประกอบการและสินค้าไทย” พล.ต.สรรเสริญกล่าว