อาจารย์นิติศาสตร์ ม.รังสิต ชี้ ‘เหลือง แดง เยาวชน’ ทนไม่ไหวแล้ว ปักหมุด 4 เมษาฯ สามัคคีทุกภาคทุกวัย
เมื่อวันที่ 4 เมษายน เวลา 16.30 น. ที่สวนสันติพร หัวมุมถนนราชดำเนิน ที่ตั้งของอนุสรณ์สถานพฤษภาประชาธรรม บรรยากาศงาน ‘ไทยไม่ทน สามัคคีประชาชน เพื่อประเทศไทย’ มีการผลัดขึ้นปราศรัยอย่างต่อเนื่อง
ในตอนหนึ่ง นายเมธา มาสขาว เลขาธิการคณะญาติวีรชน พฤษภา 35 กล่าวปราศรัย ว่า 7 ปีแล้วเราจะไม่ทนกันอีกต่อไป วันนี้เรามาแสดงเจตจำนงร่วมกันหลายคณะ เพื่อหยุดการแบ่งแยก และรวมพลังกัน เราไม่อยากเห็นสถานการณ์แบบเมียนมาเกิดในไทย วันนี้ต้องขับไล่ พล.อ.ประยุทธ์ออกไป
“วันนี้ยังไม่ใช่การชุมนุมใหญ่ ถ้าใหญ่เมื่อไหร่ เราจะนัดพี่น้องที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ในวันนี้เราจะต้องมาสามัคคีร่วมกัน ท่านอยู่มาเจ็ดปีแล้วนะครับ ท่านฟังบ้างนะครับท่านประยุทธ์ ฟังจอมพลทั้งหลายที่จบไม่สวย ฟังคนอื่นบ้าง
“ที่เขาเคยพูดว่า ’ผมพอแล้ว’ หลังอยู่มาสองสมัย ตั้งแต่หลังรัฐประหาร 2557 ถึง 2560 20 ปีก็จะออกจากอำนาจ ถ้าถึง 2580 เราทนไหวไหมครับ เราติดหล่มอำนาจมานานแล้ว จากรัฐธรรมนูญ 2560” นายเมธากล่าว
นายศักดิ์ณรงค์ มงคล อาจารย์คณะนิติศาสตร์ ม.รังสิต กล่าวว่า ปกติตนสอนในห้องเรียน วันนี้ไม่ง่ายที่จะมายืนพูดบนเวที แต่จะพยายาม 15 ปีที่ผ่านมา สังคมไทยเผชิญความขัดแย้งมาตลอด เสื้อแดงทนไม่ไหว ออกมาเรียกร้อง เสื้อเหลืองต้องการประชาธิปไตย ก็ออกมาเรียกร้อง เยาวชนก็เจ็บปวด ออกมาเคลื่อนไหว วันนี้ถือว่าพวกเรามีความชอบธรรมในการออกมาเรียกร้อง
“ผมมีคำถามเดียวกับคนไทยทั่วประเทศ คือ เราจะอยู่กันอย่างไรในประเทศแบบนี้ในอนาคต
“4 เมษาฯ เป็นเวลาเริ่มต้นของความชอบธรรมสูงสุดที่จะออกมาเรียกร้องอีกครั้ง เพราะเรายังยืนยันหลักการ ว่าต้องการประชาธิปไตย หนนี้เป็นการประสานทุกฝ่าย ทุกสี ทุกภาค ทุกวัย” นายศักดิ์ณรงค์กล่าว
