สมศักดิ์ ปัดตั้งกลุ่ม 4 ว. รักษาเก้าอี้เลขาฯ พรรคพปชร.
เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 5 เมษายน ที่พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ในฐานะรองหัวหน้าพรรค พปชร. ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าว นายสมศักดิ์ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และนายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ตั้งกลุ่ม 4 ว. เพื่อรักษาเก้าอี้เลขาธิการพรรค พปชร. ของนายอนุชา ว่า ขณะนี้ไม่มีกลุ่มแล้ว เวลาที่สื่อมวลชนถามตนถึงกลุ่มนั้นกลุ่มนี้ คนที่ได้ฟังจะเข้าใจเป็นการตั้งกลุ่มเพื่อความขัดแย้ง ตนยืนยันว่าไม่มีกลุ่ม ไม่ว่ากลุ่มสามมิตรหรือกลุ่มใดๆก็ตาม ขอให้เลิกเถอะ ยิ่งมีการตั้งกลุ่มภายในพรรคคนได้ฟังจะรู้สึกติดลบมากกว่า ทั้งนี้ ภายในพรรคไม่มีการแย่งตำแหน่งใดๆ และไม่มีความขัดแย้งกันเกิดขึ้น ส่วนกระแสข่าวการเปลี่ยนตัวเลขาธิการพรรค พปชร.นั้น ตนไม่ทราบ เพราะเป็นเรื่องของที่ประชุมใหญ่พรรค ซึ่งยังไม่ทราบว่าจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ เป็นเรื่องของกฎหมาย คงไม่ได้ลงเน้นไปที่ตัวบุคคลว่าเป็นใคร
ผู้สื่อข่าวถามว่า มองเรื่องกระแสข่าวการเสนอเปลี่ยนตัวเลขาธิการพรรคอย่างไร นายสมศักดิ์กล่าวว่า มันเร็วเกินไปที่จะพูดถึงตัวบุคคล หรือพูดถึงใครต่อใคร ตนว่าให้ถึงวันเวลานั้นก่อน คงไม่มีปัญหาอะไรกันหรอก เมื่อถามว่า หากมีการเปลี่ยนตัวนายอนุชาพ้นจากเลขาธิการพรรค จะรับได้หรือไม่ นายสมศักดิ์กล่าวว่า เราพูดถึงเรื่องตัวบุคคลเร็วไป ขอให้ถึงวันเวลานั้น เชื่อว่าทุกคนในพรรครักหัวหน้าพรรค หัวหน้าพรรคพูดอะไรมันก็เป็นไปตามนั้น คงไม่มีปัญหาอะไร
เมื่อถามว่า หากหัวหน้าพรรคไฟเขียวให้เปลี่ยนตัวเลขาธิการพรรคได้ ก็มีความเป็นไปได้ใช่หรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า “อย่าไปถามอย่างนั้น ไปกดดันท่านทำไม” ถึงเวลาเดี๋ยวมันก็เป็นไปตามครรลองของกฎหมายและระเบียบข้อบังคับพรรคที่จะต้องปฏิบัติ เมื่อถามว่า ส่วนตัวมองการทำงานของนายอนุชาในฐานะเลขาธิการพรรคอย่างไร นายสมศักดิ์กล่าวว่า นายอนุชาดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี งานที่เกี่ยวข้องกับประชาชนอาจจะมีน้อยไป อาจจะไม่ได้ออกพื้นที่มากเหมือนกับรัฐมนตรีท่านอื่น เช่น กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกระทรวงคมนาคม ซึ่งรัฐมนตรีลงพื้นที่มาก เป็นธรรมดา สื่อมวลชนอาจจะทึกทักและเป็นห่วงนายอนุชามากไปหรือไม่ ตนอยากถามสื่อมวลชนว่าเป็นห่วงนายอนุชาใช่หรือไม่ แต่ไม่น่าเป็นห่วงอะไร ถึงเวลาอยู่ที่หัวหน้าพรรค
เมื่อถามว่า การปรับเปลี่ยนโครงสร้างพรรคเพื่อเตรียมความพร้อมรองรับเลือกตั้งครั้งหน้าใช่หรือไม่ นายสมศักดิ์กล่าวว่า ไม่ใช่ ถ้าดูจากระเบียบข้อบังคับพรรค การประชุมใหญ่ของพรรคจะประชุมทุกหนึ่งปี หรือปีละหนึ่งครั้ง การประชุมบางปีไม่มีการเปลี่ยนแปลงอะไรเลย ก็เป็นไปได้ พรรคเราเป็นพรรคใหม่อาจจะไม่ได้ประชุมกันบ่อยในเรื่องการประชุมใหญ่ อาจจะมีการทึกทักกันว่าเปลี่ยนนั่นเปลี่ยนนี่ แต่ทุกอย่างขึ้นอยู่ที่หัวหน้าพรรค แต่เมื่อถามหัวหน้าพรรค ท่านบอกว่าอยู่ที่สมาชิกพรรค ดังนั้น จึงเอาประเด็นอื่นที่เป็นเรื่องความเดือดร้อนของประชาชนดีกว่าว่าจะแก้ไขกันอย่างไร มาช่วยกันคิดตรงนี้ดีกว่า จะได้เดินหน้าต่อไปได้
