‘จตุพร’ วอนตั้งสติ วางเรื่องคับแค้น ถึงเวลาสำแดงพลัง-จัดการศัตรูเฉพาะหน้า พา ท่องคาถา ‘สามัคคีช้า ประยุทธ์อยู่ยาว’
เมื่อวันที่ 5 เมษายน ที่สวนสันติพร หัวมุมถนนราชดำเนิน ที่ตั้งของอนุสรณ์สถานพฤษภาประชาธรรม ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศ การชุมนุม “ไทยไม่ทน สามัคคีประชาชน เพื่อประเทศไทย” จัดโดยคณะกรรมการญาติวีรชน ร่วมกับ นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วม นปช. และ นายพิภพ ธงไชย อดีตแกนนำพันธมิตร โดยมีการผลัดเปลี่ยนขึ้นปราศรัยกันอย่างต่อเนื่อง
เวลา 20.42 น. นายจตุพร พรหมพันธุ์ กล่าวปราศรัยตอนหนึ่งว่า เราเปิดเวที ยังไม่ได้ทำอะไร ปรากฏว่า พล.อ.ประยุทธ์ ซึ่งชื่อเล่นเดียวกับตน เปลี่ยนชุดรักษาความปลอดภัย ใช้ ร.21 มารักษาความปลอดภัยแทน ขนาดพูดวันเดียวยังปลี่ยนชุดรักษาความปลอดภัย แต่ยังคงใช้บริการ นายเสกสกล อัตถาวงศ์ (แรมโบ้อีสาน) ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เหมือนเดิม
“สิระ เจนจาคะ บอกว่า คนมาชุมนุม น้อยกว่าขนจักแร้ ขนดกขนาดนั้นเลยหรือ แต่ท่วงทำนองที่ดูถูกแบบนี้ เกียรติประวัติดีๆ ทั้งนั้น ไปกดดูประวัติยาวเป็นหางเว่า แต่ พล.อ.ประยุทธ์ไม่รู้ว่าแต่ละคนมีไม่น้อยกว่า 18 มงกุฎ สำแดงความโง่ มาเป็นระยะ และความโง่จะติดผู้นำเป็นระยะ เพราะทั้งหมดคือการท้าทายประชาชน
ผมคงไม่ต้องจับสิระ มานั่งนับขนจักแร้ แต่จะบอกว่า การดูถูกประชาชนแบบนี้ จบไม่สวยสักคน ใจเล็กกว่าขามดอีก ส่วน เสกสกล เพื่อนรักของผม เป็นด็อกเตอร์ ที่ต้องบอกว่า อยู่แกงค์ไหน หัวหน้านั้นตายหมด สมัยยิ่งลักษณ์ คือคนติดตัว ยิ่งลักษณ์ไปไหน แรมโบ้ไปที่นั่น ทักษิณเคยหลวมตัวไปตั้งเลขาธิการนายกรัฐมนตรี สุดท้าย นากยทักษิณ ยิ่งลักษณ์ อยู่ต่างประเทศ นายกประยุทธ์เก็บกระเป๋าแล้วหรือยัง เสกสกลอยู่ใกล้ใครก็หลงคารม ลิ้นอย่างกับกระดาษทราย มองไปนัยน์ตา มีแต่สีขาว ดังนั้น อย่าเพิ่งไล่เสกสกล ให้อยู่ข้างนายกฯ อย่างนั้นดีแล้ว บางคนเรียกเศษสถุล แต่อย่าไปเรียกเขาอย่างนั้น
ต่อไปนี้ เราต้องพูดว่าอะไรกำลังจะเกิดจึ้น ตลอดเวลาที่ผ่านมา ซีกรัฐบาลดาหน้าว่า การชุมนุมภายใต้การเชิญชวน ของ อดุลย์ เขียวบริบูรณ์ เป็นการล้มล้างสถาบันฯ แต่เราชัดเจนว่ามาขับไล่ประยุทธ์ ซึ่งไม่ทีทางเป็นสถาบันได้ ซึ่งเขาตัดสินใจว่าวันพรุ่งนี้จะส่งบริวารมาเแจ้งความจับผม ที่ สน.ชนะสงคราม ตอน 10.00 น. ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ซึ่งผมได้อธิบายความชัดเจน ว่าคือการขับไล่ พล.อ ประยุทธ์ แต่ถ้าโดน 112 ถามว่าประยุทธ์ เป็นสถาบันตั้ฯ งแต่เมื่อไหร่ ผมเตือนคนแจ้งความ และรับแจ้งความ จะดำเนินคดีแจ้งความกลับอย่างไม่ไว้หน้า คนที่ทำลายสถาบันฯ อย่างแท้จริง คือคนที่แอบอ้างสถาบัน ฯ เพื่อประโยชน์ตนเอง และทำลายศัตรูคู่ตรงข้าม
เมื่อวานผมบอกว่า พล.อ.ประยุทธ์ ประกาศว่าจะไม่เอาโทษ 112 มีคนไปคุยประยุทธ์ สุดท้ายประยุทธ์ เอาโทษ จนมาจับนักศึกษา ถามว่าแล้วใครทำสถาบันเสียหายจากการถูกแอบอ้างทางการเมือง ตอนนี้ก็ยังไม่เลิกรา หาได้สำนึกไม่ ยังมาแจ้งความ เดี๋ยวได้รู้ว่าท้ายสุดใครจะถูกคิดคุก ม.112 ผมเคยถูกประยุกต์แจ้งจังมาก่อน กับ เสกสกลเพื่อนรัก ด้วย ม.112 แต่ถูกถอนฟ้อง เขาอยากจะแจ้ง พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และ พ.ร.บ.โรคระบาด วันละ 2 กรรม อยากบอกไปยัง บก.ชน.ให้รวมมาเช็กบิลที่นี่ เพราะการใช้อนุสรณ์สถาน ความจริงไม่ต้องขออนุญาต แต่เพระาคุณอดุลย์ให้เกียรติ มีการอธิบายว่า สน.ชนะสงคราม ทำไมไม่ทำอะไรกับพวกผม ซึ่ง สน.ชนะสงคราม เขาทุบทิ้ง กำลังสร้าง เขามายืมที่อนุสรณ์สถาน พฤษภา 35 ถ้ากรรมการญาตวีรชน ไม่อนุญาต ก็ใช้ที่ไม่ได้ บางพวกด่า ว่าการชุมนุมอะไรมีเก้าอี้นั่งด้วย แต่ไม่ดูวัยเลย เพราะเรายังไม่ถึงขั้นแตกหัก เพียงเพิ่งตัดริบบิ้นเมื่อวานนี้ วันนี้แกะกล่อง ใจเย็นๆ เขาอธิบายต่อว่า ทำไมไม่มี คฝ. เรานั่งอยู่นี่ วันไหนไปทำเนียบก็มี คฝ.เหมือนกัน ถามว่าทำไมมีรถสุขา กทม. ถึงเราไม่มาเขาก็จอดที่นี่อยู่แล้ว
ถ้าพี่น้องฝ่ายประชาธิปไตย ยังใจไม่ใหญ่พอ ตั้งข้อสงสัย ตั้งข้อรังเกียจ ก็จะอยูาภายใต้ระบอบประยุทธ์ไปอีกย่างน้อย 6 ปี บ้างอธิบายตามฝั่งประยุทธ์ ด้วยคำเดิมๆ ว่าไม่เอาประยุทธ์ แล้วเอาใคร ผมบอกแล้วว่า เอาใครก็ได้ ที่ไม่ใช่ประยุทธ์
คนไทยถูกปั่นหัว ยิ่งกว่าจิ้งหรีด ผลลัพธ์คือประยุทธ์อยู่ในอำนาจต่อไป ถ้าไทยคิดมักง่ายได้ทั้งหมด ก็ยกแผ่นดินนี้ให้ประยุทธ์เสีย แตุ่เราเห็นเส้นทางว่าไม่สามารถยอมรับการเข้ามาของเขาได้ และไม่สามารถยอมรับทุกอย่างที่เป็นการกระทำของ พล.อ.อาวุโส ประยุทธ์ จันทร์โอชา เพราะตั้งแต่เริ่มต้นก็ทำผิด ส่วนตัวทักท้วงมาแต่ต้น เพราะสงสัยว่าจะมีการยึดอำนาจ ผมประกาศว่านายกคนต่อไป คือประยุทธ์ เพราะเห็นมาแต่ต้น ถ้าไม่มีการเตรียมการ จะไม่พร้อมขนาดนั้น แค่ใช้ศิลปะทางการเมือง โกหกในแต่ละตอน
โกหกที่ 1.ชวนทุกฝ่ายไปเจรจา เพื่อหาทางออกให้กับประเทศ แต่จับขังแล้วยึดอำนาจ
โกหกที่ 2. บอกว่าอยู่ไม่นาน ยึดมั่นคำสัญญา พอนานวันเข้า บอกจะคืนอำนาจ ร่างรัฐธรรมนูญ พอจะทวง ก็โกหกใหม่ จนเราลืมโกหกเก่า ให้บวรศักดิ์ไปร่างรัฐธรรมนูญ แต่ก็สั่งให้ไปคว่ำ ได้ มีชัย ฤชุพันธุ์ มาร่าง ร่างไปเกือบ 5 ปีในช่วงยึดอำนาจ บอกทุกฝ่่ายว่าทำตามกติกา ยึดหลักกฎหมาย แต่ฉีกรัฐธรรมนูญ ผิดมาตั้งแต่บัดนั้น จนบัดนี้
ประยุทธ์ นิรโทษกรรมให้กับตัวเอง แต่ไม่นิรโทษกรรมให้กับคนอื่น ถ้าไม่ผิดจะนิรโทษกรรมให้ตัวเองทำไม รัฐธรรมนูญ 60 คือพินัยกรรมที่มอบให้ประยุทธ์ ตราบใดทีีประยุทธ์อยู่ต่อ แต่ถ้าไล่ประยุทธ์ได้ จะได้รัฐธรรมนูญประชาชนทันที
หลายคนถามว่า ทำไม ไม่อย่างนั้น ไม่อย่างนี้ แต่ประวัติศาสตร์มีทั่วโลก คนที่อยากได้ประโยชน์ก็มีทุกฝ่าย วันนี้ก็เช่นเดียวกัน ฝ่ายประชาธิปไตยยังถูกต้ม เพราะสุดท้ายประยุทธ์ได้ประโยชน์ ดังนั้น ตราบใดที่เรายังรู้ไม่ทัน พล.อ.ประยุทธ์ ก็จะตกเป็นเครื่องมือ ให้อยู่ต่อไป จะเป็นต่ออีก 6 ปี เป็นนายกคนเดียวที่ครองอำนาจยาวนานที่สุด จนอาจถึง 17 ปี ถามว่ามีคุณสมบัติข้อไหนที่เหมาะจะเป็นนายกฯ ถ้าประยุทธ์เป็นนายกได้ ทุกคนก็เป็นได้ เสกสกลก็เป็นได้
การต่อสู้ครั้งนี้เป็นไปด้วยความยากลำบาก เพราะเราต่างได้รับการกดดันมามากมาย ถ้าเราไม่คิดตัดสินใจกันใหม่ จะอยู่ภายใต้ระบบนี้และหมดหนทางยิ่งขึ้น ประยุทธ์อยู่จนคนไทยมีความด้านชาไปทั่วประเทศ ว่า ประยุทธ์เป็นนายกฯ ที่ดีที่สุด ถ้าเราตั้งสติ แล้วจัดการประยุทธ์ก่อน ประเทศจะได้รัฐธรรมนูญ ไม่เช่นนั้น ประเทศจะไร้ซึ่งความหวังทั้งปวง
วันนี้เราต้องตัดสินใจอย่างเด็ดขาด เราเหมือนคนชุดแรกที่มาเปิดประตู หลายคนมองเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ เราต่างเจอเรื่องคับแค้น แต่ค้องวางไว้ก่อน จัดการศัตรูเฉพะาหน้าก่อน หลังจากสงกรานต์ เราคงเห็นคนตัดสินใจมาร่วม อยู่ที่เราจะนัดกันวันไหนเพื่อชุมนุมใหญ่ ให้บ้านว่างเปล่า แต่ออกมาเต็มท้องถนน สำแดงพลังของความเป็นคนไทย ว่าคนไทยเกินจะทน และเปล่งเสียงพร้อมกันว่า ‘ประยุทธ์ออกไป’ ถ้าเสียงนี้ดังทั้งประเทศ จะเป็นเสียงของความหวัง แต่ถ้าเราก้าวไม่พ้น ประตูห่งความหวังต้องพังทลาย ผมเคยผ่านมาก่อน รู้ดีว่ามันยากถ้าไม่สามัคคีกัน
การไล่ประยุทธ์ คือสิทธิของคนไทย วันนี้เราอยู่อย่างไม่มีความหวัง ไปที่ไหนก็มีแต่ของประยุทธ์ และเราจะมีความเป็นธรรมและประชาธิปไตย ชีวิตนี้เราเดินทางมาไกล เราควรทำสิ่งที่ดีงาม ขอทำหน้าที่เคียงข้างประชาชน ขอจัดการประยุทธ์ จันทร์โอชา เอง จึงต้องวิงวอน ร้องขอ คนที่ขุ่นข้องหมองใจ กับเรื่องไม่เป็นเรื่อง ผมไม่ขอเรียกร้องเผด็จการ เรียกร้องประชาธิปไตย ว่าวางเรือ่งของตนเองลงได้หรือไม่ เก็บเอาไว้ ถ้าเราไม่ทำกันอย่างนี้ เราจะไม่มีโอกาสต่อสู้ได้ เขาอัมหิตกว่าเรามาก เขายิ่งอยู่นาน เรายิ่งอ่อนแอ วันนี้เราพอมีแรง ควรจะจัดการ ก่อนจะปล่อยให้เป็นยิ่งกว่าปีศาจ ขอพักการเกลียดผมไว้สักครู่ ไล่ประยุทธ์ก่อน แล้วค่อยเกลียดผมใหม่
“ผมไม่มีวัน ไม่ว่าชาตินี้ชาติหน้าต่าง ว่าไม่มีทางไปสังฆกรรมด้วย ถึงไม่เชื่อ แต่ผมรอได้ เจ็บก็กลืนไว้ แต่เมื่อถึงเวลา เราจะทำความจริงให้ปรากฏ และขับไล่ประยุทธ์ออกไปให้ได้ ขอให้รู้ว่า ได้เวลาคนไทยที่ไม่ทนต่อเผด็จการ เราจะทำทุกวิถีทาง แม่จะแลกด้วยอะไรก็ตาม เพื่อหลอมหลวมคนทั้งชาติว่าไม่สามารถยอมให้เผด็จการอยู่ต่อไปได้
วันที่ 7 จะกลับมาเจอกัน ที่แห่งนี่จะเต็มไปด้วยพลัง และความอบอุ่น ขอร้องสื่อประชาธิปไตย อะไรที่ทำให้คนขัดแย้ง วางมือไว้ นี่คือความยาก และจะยากขึ้นเรื่อยๆ แต่คือทางเดียว ไม่มีทางอื่น จึงวิงวอนทุกฝ่าย ถ้าการสามัคคีประชาชนมากกว่า ก็จะชนะประยุทธ์ ประยุทธ์ออกคนเดียว เราจะได้ประชาธิปไตย และได้รัฐธรรมนูญประชาชน ที่สำคัญ ประยุทธ์ไม่ใช่สถาบันฯ ก็คือไพร่เหมือนกัน สิ่งที่เราทำ เพราะรักชาติ บ้านเมือง สำคัญที่สุด เราต้องสร้างสิ่งที่ถูกต้องให้เกิดขึ้นบนแผ่นดินนี้
สามัคคีช้า ประยุทธ์อยู่ยาว สามัคคีเร็วประยุทธ์ไปเร็ว ถ่องคาถาไว้ จงเกลียดประยุทธ์ มากกว่าพวกตัวเอง มีหัวใจที่ยิ่งใหญ่” นายจตุพรกล่าว
ทั้งนี้ นายจตุพรประกาศด้วยว่า จะงดการชุมนุม วันที่ 6 เมษายนนี้ โดยจะกลับมาชุมนุมอีกครั้ง ในวันที่ 7 เมษายน และปรับเวลาให้ทันประชาชนที่เพิ่งเลิกงาน เป็น 17.00 น. และจะยุติในเวลา 22.00 น.
เวลา 21.31 น. ผู้ชุมนุมเปล่งเสียง “ประยุทธ์ออกไป” ก่อนยุติกิจกรรม โดยบางส่วนช่วยกันเก็บขยะก่อนแยกย้ายกลับบ้านอีกด้วย