นายกฯ เตรียมลงพื้นที่ตรวจความพร้อมทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง สายบางปะอิน-นครราชสีมา (M6) รองรับการเดินทางประชาชน ช่วงเทศกาลสงกรานต์
เมื่อวันที่ 6 เมษายน นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จะเป็นประธานในพิธี “เปิดใช้งานทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง สายบางปะอิน-นครราชสีมา (ช่วง อ.ปากช่อง-อ.สีคิ้ว) เพื่อรองรับการเดินทางช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2564” ในวันพุธที่ 7 เมษายน 2564 นี้ โดยกรมทางหลวงได้ขับเคลื่อนตามนโยบายและข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี และจะเปิดทดลองทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) หมายเลข 6 หรือ M6 สายบางปะอิน-นครราชสีมา ช่วงปากช่อง-สีคิ้ว (บริเวณผ่านอ่างเก็บน้ำลำตะคอง) ให้ประชาชนใช้ฟรี ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ระหว่างวันที่ 9-19 เมษายน 2564 นี้
นายอนุชากล่าวว่า การเปิดทดลองใช้ทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหมายเลข 6 มีจุดเริ่มต้นทางเข้าบริเวณทางเบี่ยงบนทางหลวงหมายเลข 2 (ถนนมิตรภาพ) ประมาณ กม.65 และไปสิ้นสุดทางออกที่ทางหลวงหมายเลข 201 ประมาณ กม. 5 รวมระยะทาง 35.75 กิโลเมตร ซึ่งจะช่วยระบายรถและบรรเทาปัญหาการจราจรในเส้นทางไป-กลับภาคอีสาน
นายอนุชากล่าวว่า โดยจะเปิดการจราจรในทิศทางเดียว ในช่วงวันที่ 9-13 เมษายน จะเปิดใช้ทิศทางขาออก (มุ่งหน้าภาคอีสาน) และช่วงวันที่ 14-19 เมษายน เปิดใช้ทิศทางขาเข้า (มุ่งหน้ากรุงเทพฯ) โดยจะอนุญาตให้ใช้เฉพาะรถยนต์สี่ล้อเท่านั้น ซึ่งได้เตรียมความพร้อมของเส้นทาง ปรับปรุงการเชื่อมทางเข้า-ออก จุดกลับรถ ไฟฟ้าแสงสว่าง ติดตั้งกล้องวงจรปิดเพื่อติดตามสภาพการจราจรตลอดเส้นทาง
“ทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหมายเลข 6 ได้ชื่อว่าเป็นถนนลอยฟ้าที่สวยที่สุดในเมืองไทย วงเงินลงทุนโครงการรวม 84,600 ล้านบาท เส้นทางผ่านพื้นที่ 3 จังหวัด คือ จ.พระนครศรีอยุธยา จ.สระบุรี และ จ.นครราชสีมา รวมระยะทาง 196 กม.
“ปัจจุบันถนนมิตรภาพมีปริมาณการจราจรวันละกว่า 1 แสนคัน คาดว่าช่วงเทศกาลจะมีปริมาณการจราจรวันละกว่า 2 แสนคันต่อวัน ซึ่งการเปิดใช้ทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหมายเลข 6 คาดว่าจะช่วยระบายการจราจรคับคั่งบนถนนมิตรภาพได้ถึง 40% หรือประมาณ 8 หมื่นคันต่อวัน รวมแล้วเป็นจำนวนนับล้านคันในช่วงเทศกาลสงกรานต์นี้ ตามที่ท่านนายกรัฐมนตรีได้เร่งรัด การก่อสร้างมีความก้าวหน้าร้อยละ 94 คาดว่าจะดำเนินการก่อสร้างแล้วเสร็จและเปิดให้บริการเต็มรูปแบบในปี 66” นายอนุชากล่าว
นายอนุชากล่าวต่อว่า กรณี การจ่ายเงินค่าเวนคืน ทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหมายเลข 6 ให้ประชาชน ซึ่งข้อเท็จจริงจากกรมทางหลวงยืนยันว่า ครม. ได้มีการอนุมัติกรอบวงเงินค่าเวนคืนจำนวน 6,630 ล้านบาท และกรมทางหลวงได้ทยอยจ่ายค่าเวนคืนให้ประชาชนที่ถูกเวนคืนทั้งที่ดิน สิ่งปลูกสร้าง และต้นไม้ทั้งหมด “ครบทุกราย” แล้ว ตั้งแต่ปี 2559-2563
นายอนุชากล่าวว่า กรณีที่ประชาชน ไม่พอใจค่าเวนคืนที่ได้รับไป ก็ได้ยื่นอุทธรณ์ต่อกระทรวงคมนาคมเพื่อขอค่าเวนคืนเพิ่ม ซึ่งกระทรวงคมนาคมได้พิจารณาผลการอุทธรณ์ครบทุกรายแล้ว ปัจจุบันมีประชาชนที่ยังไม่ได้รับเงินจากผลการอุทธรณ์เพียง 361 ราย วงเงิน 415 ล้านบาท ซึ่งจะจ่ายเงินอุทธรณ์ได้ในปีงบประมาณ 2565 ต่อไป ขณะที่เงินค่าอุทธรณ์ที่ได้รับในปี 2564 ได้จ่ายครบหมดแล้ว
“หากรายใดที่ยังไม่พอใจผลการอุทธรณ์ ก็ยังสามารถไปร้องต่อศาลปกครอง ตามขั้นตอน กระบวนการ ตามสิทธิ์ของประชาชนได้อีก ทั้งนี้ กรมทางหลวงได้ยืนยันว่าโครงการก่อสร้างงานโยธา มอเตอร์เวย์ M6 สายบางปะอิน-นครราชสีมา ได้ดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ไม่ได้ติดปัญหาการเข้าพื้นที่ก่อสร้างเรื่องการเวนคืนแต่อย่างใด” นายอนุชากล่าว
