ปฏิบัติการ ‘โยนหิน’ ถามทาง ลีลาเฉียบ ประวิตร วงษ์สุวรรณ
การปรากฏขึ้นของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ในฐานะ ‘ว่าที่’ เลขาธิการพรรค ก็เหมือนกับการปรากฏขึ้นของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ในพรรคพลังประชารัฐ
ขอให้จำคำพูดของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ที่ว่า ‘ทุกอย่างขึ้นอยู่กับสมาชิกพรรค’ เอาไว้ให้ดี
เพราะไม่ว่าเมื่อมีข่าว พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ จะเข้าไปนั่งในตำแหน่งประธานยุทธศาสตร์ ไม่ว่าเมื่อมีข่าว พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ จะเข้าไปนั่งในตำแหน่งหัวหน้าพรรค
ประโยคที่ติดอยู่ 2 ริมฝีปากของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ก็คือ ‘ทุกอย่างขึ้นอยู่กับสมาชิกพรรค’ เพราะเมื่อมีมติมาจากสมาชิกพรรคทุกอย่างก็มีความเป็นไปได้
ความหมายสำหรับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ก็คือ เมื่อมีความเรียกร้องต้องการจากสมาชิกพรรค พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ก็เข้าไปแทนที่ นายอุตตม สาวนายน
ต่อกรณีของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ก็เช่นเดียวกัน นั่นก็คือหากเป็นมติร่วมกันของสมาชิกพรรคก็มีความเป็นไปได้
กรณีที่มีการมอบหมายให้ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เข้าไปมีบทบาทหนุนช่วยให้การลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นผู้ว่าฯกทม.ของ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา บรรลุเป้าหมาย คือ การโยนหินถามทาง
1 ถามทางไปยังบรรดา ‘ขาใหญ่’ ใน กทม. ขณะเดียวกัน 1 ถามทางไปยัง ‘เลขาธิการพรรค’ คนปัจจุบัน
เพราะว่าก่อนหน้านี้ นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ ซึ่งเติบโตจากพื้นที่ กทม. และ นางทยา ทีปสุวรรณ เคยแสดงความจำนงจะลงสมัครผู้ว่าฯกทม.จะว่าอย่างไร
หากมอบหมายให้ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เข้าหนุนเสริม พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา
ยิ่งกว่านั้น ยังเท่ากับเป็นการสื่อไปยัง นายอนุชา นาคาศัย ด้วยว่าหากมีการรุกคืบจาก ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า จะว่าอย่างไร
คำว่าว่าอย่างไรนี้มิได้สื่อโดยอ้อมไปยัง นายอนุชา นาคาศัย เท่านั้น หากที่สำคัญยังเป็นการสื่อไปยัง นายสมศักดิ์ เทพสุทิน สื่อไปยัง นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ด้วย
เมื่อการประชุมใหญ่สามัญประจำปีพรรคพลังประชารัฐจะเกิดขึ้นภายในเดือนเมษายน กรณีนี้จึงดำเนินไปอย่างกระชับ รัดกุมและต้องยึดความรวดเร็วเป็นอาวุธสำคัญ
ทุกอย่างจึงขึ้นอยู่กับ ‘สมาชิก’ และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ
