‘มายด์’ เสนอล้างบางมรดกรัฐประหาร ยกเลิกนิรโทษกรรม คสช. ให้ประยุทธ์รับผลกรรมที่ทำกับประชาชน
เมื่อวันที่ 6 เมษายน ที่ห้อง LT1 ชั้น 1 คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ กลุ่ม Re-Solution จัดกิจกรรมเปิดตัวแคมเปญใหม่ 6 เมษา! เริ่มนับหนึ่ง #ขอคนละชื่อรื้อระบอบประยุทธ์ ดินหน้ารวบรวมรายชื่อประชาชนทั่วประเทศ เพื่อเข้าชื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตรา โดยในช่วงท้ายกิจกรรม ‘น้องมายด์’ น.ส.ภัสราวลี ธนกิจวิบูลย์ผล ตัวแทนกลุ่มผู้ชุมนุมคณะราษฎร กล่าวถึงทำไมต้องเป็นหนึ่งชื่อรื้อระบอบประยุทธ์ ตอนหนึ่งว่า หลังรัฐประหาร 22 พฤษภาคม 2577 อะไรที่ไม่เป็นประโยชน์ต่อรัฐบาลคสช. ก็จะถูกเขี่ยให้พ้นทาง เช่น การคว่ำร่างรัฐธรรมนูญ ฉบับนายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ เมื่อปี 2558 ก่อนจะมาถูกใจร่างรัฐธรรมนูญของนายมีชัย ฤชุพันธุ์ พ่อมดร่างรัฐธรรมนูญ ที่ให้มีส.ว. 250 คน ที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ตั้งขึ้นมา มีอำนาจเลือกนายกรัฐมนตรี คอยเป็นแขนขาในการสืบทอดอำนาจให้พล.อ.ประยุทธ์ ส.ว.ทั้งหมดไม่เป็นมิตรกับประชาชน และทำตัวเหมือนตัวเองใหญ่กว่าประชาชน ทั้งที่รับเงินเดือนจากภาษีประชาชน ปีละ 1,200 ล้านบาท เมื่อเขาไม่ทำงานเพื่อเรา ดังนั้น ส.ว. จึงต้องออกไป และเราสามารถเป็นสภาเดี่ยวได้
น.ส.ภัสราวลี กล่าวว่า ทำไมอำนาจการแก้ไขรัฐธรรมนูญจึงไปตกอยู่กับกลุ่มคนที่ประชาชนไม่ได้เลือกได้อย่างไร ส่วนองค์กรอิสระที่ไม่อิสระสมชื่อนั้น เพราะพล.อ.ประยุทธ์ เลือกมา ควรจะต้องโละใหม่ ส่วนศาลรัฐธรรมนูญก็ทำตัวอยู่เหนือรัฐธรรมนูญ ส่วนแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ก็มีแต่กักขังไม่ให้ประเทศไทยเติบโตได้ เพราะทุกๆ อย่างจะต้องเปลี่ยนแปลงตามกาลเวลา มีความเหมาะสมที่แตกต่างกันไป ถ้าจะใช้ก็ให้เอาไปใช้ในที่ของตัวเองที่ไม่ใช้ประเทศชาติ เราจึงต้องเลิกแผนที่พล.อ.ประยุทธ์ กำหนดไว้ ปล่อยให้แผนเป็นไปตามรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน สุดท้ายการล้างมรดกรัฐประหาร คือ ยกเลิกนิรโทษกรรมเมื่อปี 2557 ยกเลิกวัฒนธรรมลอยนวลพ้นผิด พล.อ.ประยุทธ์ ควรได้รับผลการกรรมของตัวเอง ที่ดูถูก ลิดรอนสิทธิเสรีภาพของประชาชน
