ครม.รับทราบแผนป้องกัน-ลดอุบัติเหตุทางถนน ‘สงกรานต์สุขใจ ขับขี่ปลอดภัย ห่างไกลโควิด’

ครม.รับทราบแผนป้องกัน-ลดอุบัติเหตุทางถนน “สงกรานต์สุขใจ ขับขี่ปลอดภัย ห่างไกลโควิด”

เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 7 เมษายน ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า รับทราบแผนบูรณาการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ ตามที่ศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน (ศปถ.) เสนอ โดยใช้ชื่อในการรณรงค์ว่า “สงกรานต์สุขใจ ขับขี่ปลอดภัย ห่างไกลโควิด” มุ่งเน้นบริหารจัดการในลักษณะพื้นที่เป็นตัวตั้งควบคู่กับการดำเนินการตามมาตรการและแนวทางการดำเนินการเพื่อเฝ้าระวัง ป้องกัน และควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโควิด -19 โดยบูรณาการร่วมกับทุกภาคส่วนอย่างเข้มแข็งและต่อเนื่อง ควบคู่กับการสร้างจิตสำนึกและความตระหนักด้านความปลอดภัยให้แก่ผู้ใช้รถใช้ถนนและประชาชน

น.ส.ไตรศุลีกล่าวว่า ได้กำหนดตัวชี้วัดผลการดำเนินงานที่สำคัญดังนี้คือ จำนวนครั้งการเกิดอุบัติเหตุ จำนวนผู้เสียชีวิต และจำนวนผู้บาดเจ็บลดลงไม่น้อยกว่าร้อยละ 5 เมื่อเทียบกับสถิติในช่วงเทศกาลสงกรานต์เฉลี่ยย้อนหลัง 3 ปี จำนวนผู้ถูกดำเนินคดีในพฤติกรรมเสี่ยงหลัก เช่น ขับรถเร็วเกินกว่ากฎหมายกำหนด ดื่มแล้วขับ ไม่สวมหมวกนิรภัยและไม่คาดเข็มขัดนิรภัยเพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่าร้อยละ 5 เมื่อเทียบกับสถิติในช่วงเทศกาลสงกรานต์เฉลี่ยย้อนหลัง 3 ปี

น.ส.ไตรศุลีกล่าวว่า สำหรับมาตรการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนประกอบด้วย 5 ด้าน ได้แก่ 1.ด้านการบริหารจัดการ เช่น จัดตั้งศูนย์ป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน ระดับส่วนกลาง จังหวัด กรุงเทพมหานคร อำเภอ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จัดทำประชาคมชุมชนหรือหมู่บ้าน จัดตั้งด่านชุมชน รณรงค์ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติเดินทางท่องเที่ยวอย่างระมัดระวัง 2.ลดปัจจัยเสี่ยงด้านถนนและสภาพแวดล้อม เช่น สำรวจและตรวจสอบถนน จุดเสี่ยง จุดอันตราย จุดที่เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง และดำเนินการปรับปรุงแก้ไขให้มีความปลอดภัย กำหนดแนวทางแก้ไขปัญหาบริเวณจุดตัดทางรถไฟ 3.ลดปัจจัยเสี่ยงด้านยานพาหนะ เช่น กำกับดูแล ควบคุม รถโดยสารทุกประเภทให้ถือปฏิบัติตามระเบียบ กฎหมาย อย่างเคร่งครัด ขอความร่วมมือผู้ประกอบการขนส่งด้วยรถบรรทุกหยุดประกอบกิจการในช่วงเทศกาลสงกรานต์ 4.ด้านผู้ใช้รถใช้ถนนอย่างปลอดภัย เช่น การบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจังและต่อเนื่อง ทั้งการขับรถเร็ว ดื่มแล้วขับ การเสพยาเสพติดหรือของมึนเมา ขับรถย้อนศร และดำเนินการตามมาตรการตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์อย่างเข้มข้น 5.ด้านการช่วยเหลือหลังเกิดอุบัติเหตุ เช่น จัดเตรียมความพร้อมของโรงพยาบาล แพทย์ พยาบาล และหน่วยบริการการแพทย์ฉุกเฉิน จัดเตรียมความพร้อมของหน่วยกู้ชีพและกู้ภัย

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image