ศาลรธน.สั่ง “พุทธิพงษ์-ณัฏฐพล-ถาวร -อิสสระ-ชุมพล” ยุติปฏิบัติหน้าที่ส.ส. ขณะที่ “ธรรมนัส” ระทึกนัด 5 พ.ค.ตัดสินคดีแป้ง

ศาลรธน.สั่ง “พุทธิพงษ์-ณัฏฐพล-ถาวร -อิสสระ-ชุมพล” ยุติปฏิบัติหน้าที่ส.ส. ขณะที่ “ธรรมนัส” ระทึกนัด 5 พ.ค.ตัดสินคดีแป้ง

กรณี ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ถูกพรรคฝ่ายค้านกล่าวหาในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ว่า ศาลออสเตรเลียได้มีคำพิพากษา เมื่อมีนาคม 2537 ฐานนำเข้าและค้ายาเสพติดสั่งจำคุก 6 ปี แต่จำคุก 4 ปี ก่อนถูกเนรเทศกลับประเทศไทย จึงมีลักษณะต้องห้ามในการดำรงตำแหน่ง ส.ส.และรัฐมนตรี นั้น

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 7 เมษายน ศาลรัฐธรรมนูญ ได้ออกเอกสารข่าว กรณีมีการอภิปรายเพื่อนำไปสู่การวินิจฉัยในคดีที่ประธานรัฐสภาส่งความเห็นของ ส.ส. 51 คน ขอให้วินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญมาตรา 82 วรรคหนึ่ง และมาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่าสมาชิกภาพ ส.ส.ของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 101 (6) ประกอบมาตรา 98 (10) และความเป็นรัฐมนตรีของ ร.อ.ธรรมนัส สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 17 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบ มาตรา 160(6) และมาตรา 98 (10) หรือไม่ จากกรณีเคยต้องคำพิพากษาหรือคำสั่งที่ชอบด้วยกฎหมายอันถึงที่สุดว่าได้กระทำความผิดในความผิดฐานเป็นผู้ผลิต นำเข้า ส่งออก หรือผู้ค้าซึ่งยาเสพติด แม้จะเป็นคำพิพากษาของศาลต่างประเทศ ซึ่งศาลได้ให้ ร.อ.ธรรมนัสได้ยื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา รวมทั้งมีหนังสือเรียกเอกสารหลักฐานจากคู่กรณี และกระทรวงต่างประเทศแล้ว

โดยจากการอภิปราย ศาลเห็นว่า คดีเป็นปัญหาข้อกฎหมาย และมีพยานหลักฐานเพียงพอที่จะวินิจฉัยได้ จึงยุติการไต่สวนตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ 2561 มาตรา 58 วรรคหนึ่ง และกำหนดนัดแถลงด้วยวาจา ปรึกษาหารือ ลงมติ และอ่านคำวินิจฉัยให้คู่กรณีฟังในวันที่ 5 พฤษภาคม เวลา 15.00 น.

ทั้งนี้ กรณีดังกล่าวเป็นเรื่องที่ ร.อ.ธรรมนัส ถูกพรรคฝ่ายค้านกล่าวหาในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ว่า ศาลออสเตรเลียได้มีคำพิพากษา เมื่อมีนาคม 2537 ว่า ร.อ. ธรรมนัส มีความผิดฐานนำเข้าและค้ายาเสพติดสั่งจำคุก 6 ปี แต่จำคุก 4 ปี ก่อนถูกเนรเทศกลับประเทศไทย จึงมีลักษณะต้องห้ามในการดำรงตำแหน่ง ส.ส.และรัฐมนตรี ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 98 (10) และมีการเข้ายื่นเรื่องให้ประธานสภาผู้แทนราษฎรส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย

Advertisement

นอกจากนี้ ศาลรัฐธรรมนูญ มีคำสั่งรับคำร้องกรณีคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ขอให้วินิจฉัย ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 82 วรรคสี่ ว่าสมาชิกภาพของนายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และ ส.ส.บัญชีรายชื่อ นายถาวร เสนเนียม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม และ ส.ส.สงขลา นายอิสสระ สมชัย ส.ส.บัญชีรายชื่อ นายชุมพล จุลใส ส.ส.ชุมพร สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 101 (6) ประกอบมาตรา 98 (4) (6) จากเหตุต้องคำพิพากษาศาลอาญาจำคุกในคดีชุมนุม กปปส.ปี 2557 ไว้พิจารณาวินิจฉัย และแจ้งให้ กกต.ทราบ พร้อมส่งสำเนาคำร้องให้ผู้ถูกร้องทั้ง 5 ยื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหากต่อศาลรัฐธรรมนูญภายใน 15 วันนับแต่วันที่ได้รับสำเนาคำร้อง

นอกจากนี้ ยังมีคำสั่งให้บุคคลทั้ง 5 คนหยุดปฏิบัติหน้าที่ ส.ส.ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 82 วรรคสอง เนื่องจากเห็นว่าข้อเท็จจริงตามคำร้องและเอกสารประกอบคำร้องปรากฏว่าศาลอาญามีคำพิพากษาลงโทษจำคุกบุคคลทั้ง 5 คน และบุคคลทั้ง 5 ถูกคุมขังอยู่โดยหมายของศาล และเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งนายชุมพล นายอิสระ และนายณัฏฐพล มีกำหนด 5 ปีนับแต่วันมีคำพิพากษา กรณีจึงปรากฏเหตุอันควรสงสัยว่ามีกรณีตามที่ถูกร้องแล้ว จึงให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ ส.ส.จนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัย และแจ้งให้ กกต. และประธานสภาผู้แทนราษฎรทราบ

อย่างไรก็ตาม ศาลรัฐธรรมนูญไม่รับวินิจฉัยในประเด็นที่ กกต.ขอให้วินิจฉัยว่า กรณีดังกล่าวเป็นเหตุให้ความเป็นรัฐมนตรีของนายพุทธิพงษ์ นายณัฏฐพล และนายถาวร สิ้นสุดลงเฉพาะตัวหรือไม่ โดยเห็นว่าเมื่อวันที่ 22 มีนาคม มีพระบรมราชโองการประกาศว่า นายพุทธิพงษ์ พ้นจากความเป็น รมว.ดิจิทัล นายถาวร พ้นจากความเป็น รมช.คมนาคม และนายณัฏฐพล พ้นจากความเป็น รมว.ศึกษาธิการ แล้ว

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image