พิมพ์รพี อัด ‘สฤษฎ์พงษ์’ ฟังไม่ได้ศัพท์จับไปกระเดียด ยันไม่ได้เอ่ยชื่อใคร ‘ติดโควิด’

‘พิมพ์รพี’ อัด ‘สฤษฎ์พงษ์’ ฟังไม่ได้ศัพท์จับไปกระเดียด ยันไม่ได้เอ่ยชื่อใคร ‘ติดโควิด’ จากที่อโคจร แค่ถามหาสปิริตจากผู้แทนฯ ที่ไร้ความรับผิดชอบต่อสังคม แฉเพิ่ม ‘สฤษฏ์พงษ์’ แหกกฏกักตัว เข้าประชุม กมธ.คลองไทย ทำสภาเสี่ยง

เมื่อวันที่ 9 เมษายน น.ส.พิมพ์รพี พันธุ์วิชาติกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์เฟซบุ๊กชี้แจงกรณี ส.ส.กระบี่ พรรคภูมิใจไทย พาดพิง ว่า จากกรณีที่ นายสฤษฏ์พงษ์ ส.ส.กระบี่ พรรคภูมิใจไทย ออกมาตอบโต้เรื่องที่ตน แสดงความเห็นว่า รับไม่ได้ หากโควิด-19 ลามถึง ครม. และส.ส.เกิดจากการไปเที่ยวสถานบันเทิง เพราะถือว่าขาดจิตสำนึก โดย นายสฤษฎ์พงษ์ ได้พาดพิงให้ไปถามหาสปิริตจาก นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทย รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ที่ถูกคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชี้มูลว่าทุจริต และให้ทวงถามสปิริตการเมืองกรณีมีความเคลือบแคลงสงสัยเรื่องถุงมือยาง หน้ากากอนามัยนั้น คิดว่าสัมภาษณ์ของนายสฤษฏ์พงษ์ เห็นชัดว่าเป็นประเภทฟังไม่ได้ศัพท์จับไปกระเดียด จึงอยากให้ นายสฤษฏ์พงษ์ ไปอ่านคำสัมภาษณ์ของตนให้ละเอียด จะเห็นว่าไม่ได้มีการพาดพิงชื่อใครทั้งสิ้น แต่เป็นการพูดในเชิงหลักการว่า รับไม่ได้หากโควิดลามถึง ครม.และ ส.ส.จากการไปเที่ยวสถานบันเทิง แต่นายสฤษฏ์พงษ์ กลับร้อนตัวออกมาตอบโต้ อ้างถึงมารยาททางการเมือง จึงอยากให้เข้าใจว่า คนเป็นผู้แทนปวงชนมีหน้าที่รักษาประโยชน์ชาติ ที่ต้องมาก่อนทุกเรื่อง

ส่วนที่พาดพิงถึงนายนิพนธ์นั้น ก็มีการใช้ข้อมูลที่คลาดเคลื่อน เนื่องจากนายนิพนธ์ ไม่ได้ถูก ป.ป.ช.ชี้มูลจากเหตุทุจริต แต่เป็นการกระทำผิดตามมาตรา 157 ซึ่งอยู่ระหว่างสู้คดี และกฎหมายไม่ได้กำหนดว่า เมื่อ ป.ป.ช.ชี้มูลแล้วต้องออกจากตำแหน่ง เช่นเดียวกับที่ นางนาที รัชกิจประการ อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย เคยถูก ป.ป.ช.ชี้มูลว่า แสดงบัญชีทรัพย์สินเท็จ ก็ไม่เคยลาออกจากตำแหน่ง หนำซ้ำเมื่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง สั่งจำคุก 1 เดือน รอลงอาญา 1 ปี ก็ยังไม่ลาออก ใช้สิทธิยื่นอุทธรณ์ กระทั่งศาลฎีกาฯยืนคำพิพากษาเดิม จึงพ้นความเป็น ส.ส.ไปตามกฎหมาย ส่วนปัญหาถุงมือยาง ซึ่งเป็นเรื่องที่มีการอภิปรายไม่ไว้วางใจในสภา โดยในการลงมติพรรคภูมิใจไทยทั้งพรรคก็ยกมือไว้วางใจ หากมีปัญหาทำไมไม่แสดงออกตั้งแต่ตอนนั้น เพราะรัฐธรรมนูญก็ให้เอกสิทธิ์ส.ส.คุ้มครองให้ลงมติได้โดยอิสระอยู่แล้ว

“ยืนยันว่า การถามหาสำนึกคนเป็นผู้แทนปวงชนชาวไทย กรณีหากไปติดโควิด-19 จากสถานบันเทิงนั้น เป็นเรื่องที่ถูกต้องแล้ว และย้ำว่ารับไม่ได้หากการติดโควิด-19 ในแวดวง ครม.และส.ส.จะมาจากการเที่ยวสถานบันเทิง เนื่องรัฐบาลออกมาตรการควบคุมโรค แต่คนที่อยู่ในระดับนำในสังคมกลับเป็นผู้ละเมิดเสียเอง สะท้อนว่าขาดสำนึกสาธารณะ ไร้ความรับผิดชอบต่อสังคม ซึ่งก็พอเข้าใจได้ว่าทำไมนายสฤษฏ์พงษ์ ไม่ตระหนักในเรื่องนี้ เพราะในขณะที่ ส.ส.พรรคภูมิใจไทยทุกคนกักตัว เนื่องจากมีความเสี่ยงติดโรคโควิด-19 แต่นายสฤษฏ์พงษ์ กลับเดินทางมาประชุมกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาการขุดคลองไทย ที่สภาเมื่อวานนี้ (8 เมษายน) การกระทำแบบนี้ก็ควรถูกตั้งคำถามเรื่องสำนึกสาธารณะด้วยเช่นเดียวกัน เพราะทำให้สภาอยู่ในความเสี่ยง” น.ส.พิมพ์รพี กล่าว

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image