“ลึกแต่ไม่ลับ” กับ “จรัญ พงษ์จีน” ลือหึ่ง! ปรับครม. ต้นเดือนตุลาคม

แฟ้มภาพ

“ลึกแต่ไม่ลับ” กับ “จรัญ พงษ์จีน” ลือหึ่ง! ปรับครม. ต้นเดือนตุลาคม

“พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” นายกรัฐมนตรี แสดงอาการหัวเสีย ใส่กองทัพผู้สื่อข่าวโดยพลัน เมื่อยิงคำถามถึงกระแสข่าว “ปรับคณะรัฐมนตรี” ว่า เห็นสื่อพูดกันมาหลายวันแล้ว ยังไม่เคยคิดว่าจะปรับใครสักคน แล้วทำไมจะต้องปรับตามใคร หรือตามผลโพลต่างๆ

“ผมจะดูจากการทำงาน ว่าสั่งอะไรไปในส่วนเชิงนโยบาย ถ้าเขาทำก็ถือว่าโอเค รัฐมนตรีเขาทำแล้วไปปรับใครทำไม สิ่งที่เราทำคือแผนงานต่างๆ ที่ทำมานานแล้ว ในการจะต้องตั้งรัฐมนตรีช่วยเสริมให้ อีก 2-3 ตำแหน่งอยู่ที่ผม แล้วแต่ผม ไม่มีใครมาบังคับได้ ผมจะต้องพิจารณาในภาพรวมด้วย”

ผู้สื่อข่าว รุกต่อว่า การปรับ ครม. เพื่อให้สอดคล้องกับระยะเวลาในช่วงเดือนตุลาคมที่จะมีการเกษียณอายุราชการกันของทหารด้วยหรือไม่ “บิ๊กตู่” กล่าวว่า “ไม่เกี่ยว ไม่ใช่เรื่องการตอบแทน การทำงานของรัฐบาล สื่ออย่าไปเขียนส่งๆ ว่าเป็นเรื่องการตอบแทนคนนี้คนโน้น ว่าเกษียณอายุแล้ว จะต้องรองรับในตำแหน่งต่างๆ ผมถามว่าทำไมต้องทำแบบนั้น ทำงานด้วยกันปีที่เท่าไหร่แล้ว เป็นการทำงานที่ร่วมมากับผม ไปสนใจประเด็นที่เป็นกระพี้ ถ้าเขาดีอยู่แล้วผมจะไปปรับทำไม ผมไม่ได้สนใจผลต่างๆ และไม่สนใจที่จะมาใช้โพลในการปรับ ครม.”

ท่าทีและอากัปกิริยา ตะเภาเดียวกับเมื่อครั้งจะปรับ ครม. “ประยุทธ์ 1” เป็น “ประยุทธ์ 2” ช่วงเดือนสิงหาคม 2558 นักข่าวชงลูกที่ลือกระฉ่อน ว่าจะมีรายการ “ปรับใหญ่” คณะรัฐมนตรี “พล.อ.ประยุทธ์” ตอบปฏิเสธเสียงเข้มเสียงเขียวว่า

Advertisement

“ทำไมพวกสื่อถึงสนใจเรื่องจะปรับหรือไม่ปรับ ครม. เอาง่ายๆ มั้ย ปรับนายกรัฐมนตรีคนเดียวแล้วจบ จะได้เลิกวุ่นวายกันเสียที อยากให้ใครมาเป็นไปหามา ทำไมยุ่งกันเหลือเกินเรื่องปรับ ครม.”

ไม่ทันขาดคำ “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” ก็ชิงลงมือ ปรับปรุงคณะรัฐมนตรี โละทีมเศรษฐกิจภายใต้การนำทัพของ “หม่อมอุ๋ย” ทิ้งยกชุด ประกอบด้วย

1. “ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล” รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ 2. “สมหมาย ภาษี” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง 3. “จักรมณฑ์ ผาสุกวนิช” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม 4. “ปีติพงศ์ พึ่งบุญ ณ อยุธยา” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ 5. “อำนวย ปะติเส” รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ 6. “พรชัย รุจิประภา” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร 7. “ณรงค์ชัย อัครเศรณี” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน 9. “ยงยุทธ ยุทธวงศ์” รองนายกรัฐมนตรี 10. “รัชตะ รัชตะนาวิน” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข

Advertisement

ในวาระเดียวกัน มีการสลับตำแหน่ง โดยไม่ปรับออก แต่ย้ายกระทรวง ทั้งเพิ่ม-ลดบทบาท เช่น 11. “พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นรองนายกรัฐมนตรี 12. “พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นรองนายกรัฐมนตรี 13. “พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร” รัฐมนตรีว่ากระทรวงการต่างประเทศ เป็นรองนายกรัฐมนตรี 14. “พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ 15. “พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ 16. “พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรฯ 17. “อาคม เติมพิทยาไพสิฐ” รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ขยับเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม 18. “นางอภิรดี ตันตราภรณ์” รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ 19. “ดอน ปรมัตถ์วินัย” รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ

ยกยอดสัดส่วนรัฐมนตรีจากรัฐบาล “ตู่ 1” ที่ถูกปรับย้าย ถ่ายโอนตำแหน่ง มาร่วมในรัฐบาล “ตู่ 2” จำนวน 9 คน นำไปร่วมกับบรรดา “หนังเหนียว” ที่ยังดำรงอยู่ในสถานะเดิม ไม่มีการเปลี่ยนแปลงตำแหน่งแห่งหนใดๆ ร่วมหัวจมท้าย เป็นรัฐมนตรีมาตั้งแต่ยุค “ประยุทธ์ 1” ผูกปียาวมาตั้งแต่วันที่ 24 สิงหาคม พ.ศ.2557 และ “มือกาว” โหนขบวนติดในการปรับใหญ่ คณะรัฐมนตรี เมื่อเดือนสิงหาคม พ.ศ.2558 ยังประกอบด้วย

1. “พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรรณ” รองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม

2. “พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร” รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม

3. “วิษณุ เครืองาม” รองนายกรัฐมนตรี

4. “พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย

5. “นายสุธี มากบุญ” รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย

6. “นายพิเชฐ ดุรงคเวโรจน์” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ

7. “พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม

8. “นายวีระ โรจน์พจนรัตน์” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม

9. “พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์

10. “นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา

11. “ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล” รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี

12. “นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ” รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี

เท่ากับว่า มีรัฐมนตรี “รากงอก” สามารถอยู่โยงมาเกิน 2 ปี ทั้ง “ครม.ตู่ 1-ตู่ 2” มีมากกว่า 20 คน

บังเอิญว่า วันที่ 30 กันยายน ข้าราชการ “บิ๊กเนม” โดยเฉพาะ “ท.ทหาร” ที่สังกัด “กองทัพบก” เมื่อครั้ง “ปฏิวัติ-รัฐประหาร” โค่นล้มรัฐบาลพลเรือน “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 เคยเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายมาด้วยกัน จะถึงคิวเกษียณหลายคน

จึงเกิดการอนุมานกันว่า “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” หัวหน้า คสช. น่าจะให้รางวัลปลอบใจหลังอำลายุทธจักร

ประจวบเหมาะกับ ผู้อาวุโส ที่ถูกหวยได้เป็นเสนาบดี มาตั้งแต่ปีมะโว้ ทั้งๆ ที่วัน “ปฏิวัติ” ก็มิได้แอ๊กชั่นอะไรมาก

ก็สมควรแก่กาลเวลา เพราะได้ดิบได้ดีมาพองาม โดยเฉพาะพวกที่ติดชาร์ต “รัฐมนตรีที่โลกลืม” จึงน่าจะแสดงสปิริตก้าวลงจาก “หลังเสือ”

เพื่อเปิดทางสะดวกให้รุ่นน้องๆ

ด้วยเงื่อนไขแห่งความประจวบเหมาะดังกล่าว จึงมีข่าวลือหึ่ง “บิ๊กตู่” จะปรับคณะรัฐมนตรี “ประยุทธ์ 3” ช่วงต้นเดือนตุลาคม

และน่าจะไม่คลาดแคล้ว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image