ระทึกรายวัน โควิด จะติดเชื้อพุ่งอีกไหม – ‘บิ๊กตู่’ ถกรพ.เอกชนช่วยจัดหาวัคซีนอีก10ล้านโดส
วันที่ 10 เมษายน ต้องลุ้นระทึกว่ายอดผู้ติดเชื้อโควิด จะทยานขึ้นต่อเนื่องอีกไหม จากวันที่ 9 เมษายนที่พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ถึง 559 คน ซึ่งระหว่างวันที่ 4-9 เมษายน พบผู้ป่วยติดเชื้อใน 45 จังหวัด สะสมแล้วมี 68 จังหวัด และต้องติดตามดูว่าคลัสเตอร์สถานบันเทิงจะแพร่กระจายไปมากน้อยแค่ไหน หลังพบผู้ติดเชื้อจากคลัสเตอร์นี้แล้ว 604 ราย
เมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ นพ.เฉวตสรร นามวาท รักษาราชการแทนผู้อำนวยการกองควบคุมโรคและภัยสุขภาพในภาวะฉุกเฉิน กรมควบคุมโรค กล่าวว่า การติดเชื้อในสถานบันเทิงข้อมูลตั้งแต่วันที่ 22 มีนาคม-8 เมษายน พบติดเชื้อสะสม 604 ราย เป็นเพศหญิงมากกว่าชาย ผู้ติดเชื้อร้อยละ 64 ไม่มีอาการ ส่วนใหญ่อายุ 20-29 ปี พบติดเชื้อกระจาย 32 จังหวัด โดยกทม.พบผู้ติดเชื้อสูงสุด 310 ราย เฉพาะร้านเหล้า/สถานบันเทิงย่านทองหล่อพบ 248 ราย ส่วนจำนวนสถานบันเทิงที่พบผู้ติดเชื้อมี 80 ร้านใน 11 จังหวัด อยู่ในกทม.รมากที่สุด 52 ร้าน
ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แถลงหลังการหารือกับผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข(สธ.)และตัวแทนจากโรงพยาบาลเอกชน เมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ ว่า สมาคมโรงพยาบาลเอกชนหารือว่าทำอย่างไรจะมีวัคซีนเพิ่มขึ้น ต้องไปแก้ไขเรื่องของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) หรือองค์การเภสัชกรรม (อภ.) จะนำเข้าได้หรือไม่ อย่างไร ถือเป็นวัคซีนทางเลือก เพราะตอนนี้มีวัคซีนเฉพาะรัฐบาลนำเข้า เพราะกติกาตอนนี้คือเป็นวัคซีนฉุกเฉิน ตนจึงตั้งคณะกรรมการ โดยมี นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร อดีตรัฐมนตรีว่าการ สธ. เป็นหัวหน้า
“ผมยินดีที่โรงพยาบาลเอกชนแสดงเจตจำนงจะหาวัคซีนช่วยภาครัฐ ภาครัฐไม่ได้ปิดกั้นอะไรอยู่แล้ว แต่การนำเข้ายังมีปัญหาเราต้องไปแก้ปลดล็อก ไม่ใช่แค่เรา แต่มีปัญหาที่ต่างประเทศด้วย โดยคณะกรรมการชุดนพ.ปิยะสกล กับคณะทำงานของสธ.และเอกชน จะร่วมกันหาวัคซีนเพิ่ม รวมถึงบริหารการฉีดวัคซีน เราต้องฉีดวัคซีนให้กับคนทั้งประเทศ 40 ล้านคน แต่หาวัคซีนมาได้ 35 ล้านคน ที่เหลืออีก 5 ล้านก็ต้องเอาเข้ามาให้ได้”พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
ด้านนพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษก ศบค.กล่าวว่า วัคซีนที่รัฐจัดตอนนี้เพียงพอประชาชน 35 ล้านคน หามาประมาณ 70 ล้านโดส วางแผนไว้แล้วมี 2 ยี่ห้อคือ ซิโนแวคและแอสตร้าเซนเนก้าจะทยอยมา นายกฯถามว่าเราต้องฉีดวัคซีนให้ได้เท่าไร ผู้อำนวยการสถาบันวัคซีนแห่งชาติระบุว่าต้องให้ได้ 40-50 ล้านคน หากคิดที่ 40 ล้านคนเพื่อให้เกิดภูมิคุ้มกันหมู่ ก็ยังขาดประมาณ 5 ล้านคน ฉีด 2 ครั้งคือ 10 ล้านโดส จึงนำมาสู่การหาวัคซีนทางเลือก ทางรพ.เอกชนเสนอตัวว่ามีความสามารถกับสภาหอการค้าต่างๆ เชื่อมโยงไปกับบริษัทเอกชนทั้งหลาย แต่ขอให้ภาครัฐอำนวยความสะดวก เพราะที่ผ่านมาติดขัดหลายเรื่อง เช่น เจ้าของวัคซีนต้องการจดหมายของภาครัฐอำนวยความสะดวก หรือจะให้ อภ.ช่วยสั่งซื้อนำเข้ามาโดยตรงได้หรือไม่ และให้ภาคเอกชนไปขอแบ่งซื้อมา เป็นต้น
“นายกฯบอกว่าเห็นด้วยทั้งสิ้น นโยบายที่มอบไปคือทำอย่างไรก็ได้ให้มีการใช้โควต้า 10 ล้านโดส ให้เอกชนมีส่วนร่วม รายใดมีศักยภาพขอให้ภาครัฐสนับสนุน เพื่อนำมาสู่การเติมวัคซีนนี้ให้กับประชาชน อาจจะได้เร็วได้ช้าหรือมีราคา แต่ต้องปลอดภัย จึงมอบหมายให้ นพ.ปิยะสกลเป็นประธานในชุดนี้ สมาคม รพ.เอกชนเป็นกรรมการ ขอให้สรุปผลใน 1 เดือน เพื่อขับเคลื่อนวัคซีนทางเลือกในช่วงเวลาโดยเร็วนี้”นพ.ทวีศิลป์กล่าว
ด้านนพ.เฉลิม หาญพาณิชย์ นายกสมาคมโรงพยาบาลเอกชน กล่าวถึงแผนการจัดหาวัคซีนของรพ.เอกชน ว่า รพ.เอกชนเห็นตรงกันว่าอยากให้ อย.ขึ้นทะเบียนวัคซีนให้มากขึ้น และนำเข้ามาขายให้กับเอกชน เพราะขณะนี้เรายังขาดแคลนวัคซีน วัคซีนที่เข้ามาขณะนี้มีแอสตร้าเซนเนก้า 61 ล้านโดส และซิโนแวคอีก 2 ล้านโดส ฉีดให้ประชาชนได้ 31 ล้านคน แต่ทั้งหมดต้องฉีดประมาณ 40 ล้านคน วัคซีนทางเลือก อภ.นำเข้ามาได้ง่ายที่สุด เพราะผู้ผลิตจะขายตรงให้กับรัฐบาลได้มากกว่าเอกชน
