ญาติวีรชน ทำบุญ 99 ศพ แหวนตัดพ้อ 11 ปี ไม่มีความเป็นธรรม ซัดปัจจุบัน ไม่ต่างอดีต

‘ญาติวีรชน’ ทำบุญ 99 ศพ แหวนพ้อ 11 ปี ไม่มีความเป็นธรรม ซัดปัจจุบัน ‘คุมขัง’ น่าละอาย ไม่ต่างอดีต ยุคประยุทธ์เหมือนกัน

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 10 เมษายน ที่ บริเวณหน้าโรงเรียนสตรีวิทยา ถนนราชดำเนินกลาง เขตพระนคร กรุงเทพฯ มีการทำบุญรำลึกเหตุการณ์ 10 เมษา 2553 นำโดย นางณัฏฐธิดา มีวังปลา หรือ แหวน พยาบาลอาสา พร้อมด้วยญาติวีรชนที่สูญเสียชีวิตจากเหตุการณ์ในสลายการชุมนุมคนเสื้อแดง บริเวณถนนราชดำเนินกลาง

สำหรับบรรยากาศโดยทั่วไป มีประชาชนเดินทางมาเตรียมความพร้อมทำพิธีกว่า 20 คน โดยมีการติดป้ายสีแดง ระบุข้อความ “11 ปี 10 เมษา 53 คนสั่งฆ่ายังลอยนวล” พร้อมทั้งโต๊ะหมู่สำหรับทำพิธีสงฆ์ วางภาพของผู้สูญเสีย 2 จำนวนภาพ และป้ายข้อความสีดำ ระบุว่า “99 ศพจะต้องไม่ตายฟรี” ไว้ที่ด้านหน้าโต๊ะหมู่บูชา ขณะที่ประชาชนบางส่วนเตรียมอาหาร และเครื่องดื่มสำหรับแจกจ่ายภายหลังจากเสร็จสิ้นพิธี

ทั้งนี้ มีประชาชนหญิง 3 คน นั่งเรียงแถว พร้อมถือขัน จากนั้นประชาชนหญิงรายหนึ่งกล่าวว่า ตั้งแต่ลุงตู่เข้ามา ดิฉันก็ตกงานเป็นเวลา 6-7 ปีแล้ว “ทำบุญกันหน่อยค่ะ 1 บาทของคุณ จะเป็นค่ารถของดิฉัน ไปม็อบไล่ด่าประยุทธ์ทุกวัน”

นอกจากนี้ ข้างโต๊ะเตรียมอาหาร มีการติดภาพของนายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ เพนกวิน และ นายไชยอมร แก้ววิบูลย์พันธุ์ หรือ แอมมี่ ไว้ที่เสา เพื่อร่วมแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ให้ปล่อยเพื่อน อีกด้วย

Advertisement

นางณัฏฐธิดากล่าวว่า เราอยู่กันที่ดินแดนศิวิไลซ์ อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย หน้าโรงเรียนสตรีวิทยา มาทำบุญให้กับวีรชนที่ถูกยิงเสียชีวิต ในวันที่ 10 เมษายน 2553 รวมทั้ง 9 พฤษภาคม เท่าที่นับรวมได้ 99 ศพ มีแม่ๆ บรรดาเพื่อนๆ ร่วมใจกันมาทำบุญ ถวายสังฆทานในช่วงเช้า เป็นกิจกรรมสั้นๆ ที่เราทำกันทุกปี ตอนนี้กำลังจัดเตรียมสังฆทาน และอาหารสำหรับพระไว้เรียบร้อย ตามด้วยการถวายสังฆทาน และชุดบังสุกุล ให้กับวีรชนที่เสียชีวิตในเหตุการณ์เมื่อ 11 ปีที่ผ่านมา

“สิ่งที่เราพยายามเรียกร้องกันมา 11 ปี คือความเป็นธรรม ที่ประชาชนผู้ถูกกระทำ ไม่เคยได้รับ สิ่งที่พวกเราต้องการ คือความเสมอภาค เฉกเช่นนานาอารยประเทศ ทุกประเทศรู้ว่าประชาธิปไตย หมายถึงอิสรภาพ หมายถึงเสรีภาพ ความคิด พูด อ่านเขียน แสดงออก ได้อย่างมีเสรีภาพ ไม่ถูกกีดกัน สิ่งที่เราแสดงออกนี้ก็อยู่ภายใต้กฎหมายรัฐธรรมนูญเดียวกัน แต่สิ่งที่ได้รับ กลับแตกต่างกัน

เมื่อวานนี้เป็นอะไรที่คับแค้นใจในกระบวนการยุติธรรมก็ว่าได้ ซึ่งเหตุการณ์ที่จับผู้ต้องหาไปกักขังหน่วงเหนี่ยวไว้ ไม้ให้ได้รับสิทธิในการประกันตัว มัดมือ มัดแขน มัดขาไว้ในห้องขัง เป็นเรื่องที่น่าละอาย ไม่สมควรจะเกิดขึ้นอีก ซึ่งเคยเกิดขึ้นกับแหวนมาแล้ว ในยุคนี้ก็ยังเกิดขึ้นอีก และเกิดขึ้นภายใต้รัฐบาลเดียวกัน คือรัฐบาล คสช. ของ ประยุทธ์ จันทร์โอชา สิ่งที่พึงเรียกหานั้น คือสิ่งที่ถูกต้อง ที่เป็นธรรมอยู่ตลอดเวลา เด็กๆ ในวันนั้น คือต้นกล้าประชาธิปไตยในวันนี้ ที่ถูกกักขัง ไม่ว่า อานนท์ เพนกวิน รุ้ง ไมค์ ไผ่ สมยศ แอมมี่ ฟ้า และคนอื่นๆ ที่ถูคุมขัง เราได้แต่ภาวนาให้พวกเขาได้รับสิทธิประกันตัว

สิทธิในการประกันตัวเบื้องต้น ไม่ใช่ความเมตตา แต่คือหลักการของกระบวนการยุติธรรม หาใช่ร้องขอความเมตตา สิ่งนี้โลกช่วยกันจับตาดูประเทศไทย ประชาชนที่ออกมาเรียกร้องเสรีภาพ ถูกลิดรอนสิทธิ ถูกทำร้ายมาก เชื่อว่า สถานทูตต่างๆ ต่างก็มีข้อมูล เราพยายามเอาข้อมูลใหม่ๆ ไปยื่นเรื่อยๆ” นางณัฏฐธิดากล่าว

จากนั้น มีการทำพิธีโดยพระสงฆ์ 5 รูป ขณะที่ญาติวีรชน กว่า 50 คน นั่งเรียงแถว ฟังสวด ต่อด้วยการถวายสังฆทาน และชุดบังสุกุล ให้กับวีรชนที่ล่วงลับ ก่อนจะถ่ายภาพร่วมกัน

โดยภายหลังเสร็จสิ้นกิจกรรม ญาติวีรชนและประชาชนได้ร่วมกันรับประทานอาหาร และน้ำดื่ม บริเวณหน้าป้ายโรงเรียนสตรีวิทยา ก่อนแยกย้ายกลับบ้าน บางส่วนปักหลักรอร่วมกิจกรรมรำลึก ที่อนุสรณ์สถาน 14 ตุลา ในเวลา 13.00 น. อีกด้วย

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image