ลูกสาว ‘สมยศ’ ห่วงสุขภาพพ่อ นึกถึงคำ ‘ไม่มีอุดมการณ์ ก็ไม่ใช่คน’ เผย ดีใจ คนร่วมสู้ รู้สึกไม่โดดเดี่ยว
เมื่อเวลา 19.00 น. วันที่ 13 เมษายน ที่ หน้าศาลฎีกา ถนนราชดำเนินใน กรุงเทพฯ กลุ่มพลเมืองโต้กลับ นำโดย นายพันธ์ศักดิ์ ศรีเทพ บิดาของ นายสมาพันธ์ ศรีเทพ หรือ น้องเฌอ ผู้ถูกยิงเสียชีวิตระหว่างการสลายการชุมนุมเสื้อแดง เมื่อปี 2553 และ “คณะราษมัม” ร่วมกิจกรรม “ยืน หยุด ขัง 112 นาที” ยืนเพื่อยืนยันสิทธิในการปล่อยตัวชั่วคราวเป็นครั้งที่ 2 นำโดย นางสุรีย์รัตน์ ชิวารักษ์ มารดาของ นายพริษฐ์ หรือ เพนกวิน, นางสุริยา สิทธิจิรวัฒนกุล มารดาของ น.ส.ปนัสยา หรือ รุ้ง, มารดาของ นายภาณุพงศ์ จาด นอก หรือ ไมค์ ระยอง, นางมาลัย นำภา มารดาของ นายอานนท์, น.ส.ประกายดาว พฤกษาเกษมสุข ลูกสาวของ นายสมยศ พฤกษาเกษมสุข โดยคณะราษมัม ต่างกอดภาพของบุตร และบิดาของตนเองไว้แนบอก ตั้งแต่เวลา 17.30 – 19.22 น.
น.ส.ประกายดาว พฤกษาเกษมสุข ลูกสาวของ นายสมยศ เปิดเผยว่า วันนี้ตั้งใจมาร่วมกับแม่ๆ ของคนอื่นๆ ที่ติดอยู่ในคุก เรียกร้องให้อย่างน้อยๆ ศาลท่านให้สิทธิในการประกันตัวออกมาสู้คดีข้างนอก เพราะการติดอยู่ในคุก เสี่ยงทั้งสุขภาพทางกาย และจิตใจ กระบวนการก็เป็นไปอย่างค่อนข้างยาก
เมื่อถามถึงกำลังใจของ นายสมยศในเวลานี้
น.ส.ประกายดาว เปิดเผยว่า ปกติจะไม่สามารถเข้าเยี่ยมได้ มีแต่ทนายความที่เข้าเยี่ยมได้ ถ้าเขามีอะไร เขาจะฝากออกมาผ่านทนาย และเราก็ฝากผ่านทนายกลับไป แต่เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว วันพฤหัสบดี ได้ไปที่ศาลอาญา รัชดา ได้คุยแต่สั้นๆ เพราะไม่อนุญาตให้ครอบครัวเข้าไปชมการไต่สวน เพราะมีการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
“แทบไม่ได้คุยเลย พอได้คุย เราจะเน้นเรื่องสำคัญ เช่น เรื่องที่จะต้องจัดการ บ้าน รถ ถ้าเขาอยากให้เราทำกิจกรรมอะไร เขาก็จะบอกมา แต่ไม่ได้สื่อสารอะไรมาก ประมาณว่า ‘คิดถึงนะ’ หรือ ‘ช่วยต่อทะเบียนรถยนต์ให้หน่อย’ ประมาณนี้ ส่วนตัวมีส่งจดหมายเข้าไป ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าพ่อกำลังใจเป็นอย่างไร เพราะตอนเจอที่ศาล พ่อดูโอเคดี คิดว่าวันศุกร์ถัดมาจะได้รับการประกันตัว แต่สุดท้ายไม่ได้รับ เมื่อวันที่ผ่านมาสุขภาพ และกำลังใจยังโอเคอยู่ เขาบอกว่าสบายดี แต่เมื่อปฏิเสธกระบวนการ ก็ไม่ได้เจอกันอีก รอบนี้ต่างจากรอบที่แล้วสังคมยังไม่ตื่นตัวกับเรื่องนี้ ให้ความรู้สึกเศร้า ตัวเขาเองตอนนั้นมีเรื่องของสุขภาพใจที่ไม่โอเคเยอะ ไม่ได้รับข่าวสารจากข้างนอกบ้าง เทียบกับปัจจุบัน มีคนสนใจเยอะ และมีคนที่ติดกับเขาช่วยกันดูแลกำลังใจ ก็น่าจะดีกว่าเดิม” น.ส.ประกายดาวกล่าว และว่า
ส่วนพี่น้องก็รักกันดี เบื้องต้นคิดว่าจะสลับกับพี่ชายมาทำกิจกรรมนี้ แต่เขาทำงานประจำ อาจจะไม่มีเวลา ด้วยความที่เคยผ่านเหตุการณ์นี้มาแล้ว รู้สึกว่าเข้มแข็งกว่าเดิม และยินดีที่ได้เห็นทุกคนออกมาในวันนี้ ไม่ได้รู้สึกโดดเดี่ยวเหมือนครั้งที่แล้ว
“รอบนี้ห่วงสุขภาพเขา ด้วยที่อายุมากแล้ว 7 ปีที่โดน มา ตอนี้โดนรอบสอง จึงป็นห่วงแต่เรื่องสุขภาพมาก แต่ไม่ได้ห้าม ยังแซวๆ กันอยู่ว่าทนายอานท์ผิดแล้ว พ่อไม่ติดบ้างหรอ”
เมื่อถามว่าพ่อเคยพูดคุยหรือสอนเรื่องแนวคิดอะไรหรือไม่ ?
น.ส.ประกายดาวกล่าวว่า พ่อไม่เคยสอนวิธีคิด แต่จะทำอะไรของเขาไป เราได้ดูเขาตลอด และเติบโตจากการที่เขาทำกิจกรรมทางสังคม เหมือนเราได้เรียนรู้ว่า ‘ไม่มีอุดมการณ์ก็ไม่ใช่คน’ ทำให้เราได้ศึกษาด้านปัญหาสิทธิมนุษยชนอื่นๆ โดยที่เขาไม่ต้องสอน
รอบนี้สุขภาพเขา ด้วยที่อายุมากแล้ว 7 ปีที่โดน มาโดนรอบสอง จึงป็นห่วงแต่เรื่องสุขภาพมาก แต่ไม่ได้ห้าม ยังแซวๆ กันอยู่” น.ส.ประกายดาวกล่าว
