“คณิน” ชี้มาตรการของ กรธ. ไม่ใช่ “ยาแรง” แต่เป็น “ยาสลบ” ทำ ส.ส.ไม่กล้าแปรญัตติ-แก้ไขงบฯ
เมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ นายคณิน บุญสุวรรณ อดีต ส.ส.ร. ปี’40 กล่าวถึงกรณีที่ กรธ.บอกว่ารัฐธรรมนูญเป็นยาแรงที่สามารถเล่นงานนักการเมืองถึงขั้นตัดสิทธิตลอดชีวิต แถมยังต้องชดใช้เงินคืนหลวงอีกด้วยว่า ความจริงไม่ใช่ยาแรงอะไรหรอก แต่เป็นยาสลบมากกว่า เพราะเป็นมาตรการที่จะทำให้สภาผู้แทนราษฎรและ ครม.เป็นเพียงตรายางที่จะคอยประทับรับรองงบประมาณแผ่นดินที่จัดทำโดยข้าราชการประจำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งงบประมาณของกองทัพ มิให้รัฐมนตรีและ ส.ส.แตะต้องหรือตัดทอนได้มากกว่า สิ่งที่ กรธ.เที่ยวไปบอกใครต่อใครว่าเป็นยาแรงนั้น อยู่ที่มาตรา 139 ของร่างรัฐธรรมนูญที่ห้ามมิให้ ส.ส. ส.ว. และกรรมาธิการ (กมธ.) แปรญัตติเปลี่ยนแปลงหรือแก้ไขเพิ่มเติมรายการหรือจำนวนในรายการของร่างงบประมาณ และถ้าศาลรัฐธรรมนูญพบว่ามีการเสนอ การแปรญัตติ หรือการกระทำใดๆ ที่มีผลให้ ส.ส. ส.ว. หรือ กมธ.มีส่วน ไม่ว่าจะโดยทางตรงหรือทางอ้อมในการจัดทำโครงการใดๆ ของหน่วยราชการ ส.ส.ที่ยกมือให้ความเห็นชอบรวมทั้ง ครม.ที่อนุมัติการแก้ไขเปลี่ยนแปลงนั้นต้องพ้นจากตำแหน่งและถูกตัดสิทธิตลอดชีวิต แถมยังต้องรับผิดชดใช้เงินคืนพร้อมดอกเบี้ย
นายคณินกล่าวว่า ทำให้มองเห็นเจตนาของ กรธ.ว่าไม่ต้องการให้นักการเมืองที่มาจาการเลือกตั้งของประชาชนไม่ว่าจะเป็นรัฐมนตรีหรือส.ส.แตะต้องหรือตัดทอนงบประมาณแผ่นดินที่ฝ่ายประจำจัดทำและเสนอมานั่นเอง นี่แหละคือหนึ่งในมาตรการที่ทำให้ร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ได้รับฉายาว่า “ร่างรัฐธรรมนูญฉบับไม่เห็นหัวประชาชน” ถ้า กรธ.เขียนมาตรา 139 ไว้อย่างนี้และมีผลประกาศใช้ ทุกปี ส.ส.จะไม่กล้าแปรญัตติ กมธ.ไม่กล้าแก้ไขเปลี่ยนแปลงรายการหรือจำนวนในรายการงบประมาณ ครม.ก็ไม่กล้าตัดงบประมาณของข้าราชการประจำ สภาผู้แทนราษฎรต้องทำตัวเป็นตรายางและพากันเอาตัวรอดกันหมด เพราะดีกว่าที่จะให้ศาลรัฐธรรมนูญมาชี้ว่ามีการแปรญัตติโยกงบ มีสิทธิตายยกแผง ซึ่งถ้าเป็นอย่างนี้ไม่ต้องมากหรอก แค่ 2 ปี ประเทศก็ล่มจมจนไม่มีเงินจ่ายเงินเดือนข้าราชการแน่ เพราะรัฐมีหนี้ท่วมหัวและหารายได้ไม่พอกับรายจ่าย