เรียงคนมาเป็นข่าว วันจันทร์ที่ 19 เมษายน พ.ศ.2564

เรียงคนมาเป็นข่าว

⦁…เปิดทำการใหม่อย่างเต็มตัวหลังวันหยุดยาวสงกรานต์ แต่ชั่วโมงนี้ “โควิด” กลับมาคุกคามทั่วประเทศ และเป็นครั้งที่ “รัฐบาล” ออกอาการเงอะงะให้เห็น หลังประชุม “ศบค.” วันศุกร์ที่ราชการเริ่มงานวันแรก “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” ใช้โทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแถลงยาวเหยียด แต่ไม่ว่าใครที่ “พยายามทนฟัง” ตั้งแต่ต้นจนจบ ล้วนแล้วแต่ส่ายหน้า เพราะไม่ได้อะไรขึ้นมาจากการเสียเวลาฟัง สาระที่หวังจะได้รู้ “สถานการณ์เป็นอย่างไร รัฐบาลจะจัดการแบบไหน มีความหวังหรือไม่สำหรับอนาคตของผู้คน” แต่เปล่าเลย ตั้งแต่ต้นจนจบ มีแต่ “อ่านคำคมพล่ามเพ้อ” และ “เรียกร้องให้ประชาชนเข้มงวดตัวเอง” ทั้งที่การระบาดที่ผ่านมาเป็นการ “ลุกลามมาจากการละเลยของเจ้าหน้าที่รัฐล้วนๆ”

⦁…มีบางความเห็นที่เป็นจริง ก่อนหน้านั้น เมื่อ “เยาวชนรวมตัวเคลื่อนไหว เรียกหาความหวังในอนาคตที่ดีกว่า” เรียงหน้ากันออกมาเป็นแถว โวยวายว่า “การชุมนุมจะเป็นต้นเหตุให้โควิดระบาด” โดยเฉพาะ “ตำรวจ” อาศัยโควิดเป็น “ข้อหาจับกุมผู้ชุมนุมไปดำเนินคดี” ถึงวันนี้ชัดเจนว่า “เด็กๆ ที่มาชุมนุม” ไม่มีใครติดโควิด กลายเป็นว่า “ตำรวจ” เสียเองที่ติดหลายร้อยนาย จาก “แหล่งอบายมุขและสถานบริการ” แปลกที่ประเทศนี้ไม่มีใครรู้สึกว่า “น่าอาย”

⦁…ใช้ทุกอย่างมาเป็นเครื่องมือเพื่อปกป้องตัวเอง เมื่อ “รัฐบาล” ถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่า “บริหารห่วยแตก” นอกจากนั้นยังประกาศว่าจะ “ทำงานต่อไปจนกว่าจะไม่ไหว” แล้ว ยังเรียงหน้ากันออกมากล่าวหาคนที่วิจารณ์ว่า “ไม่รักชาติ” มุ่งแต่คิด “ล้มล้างทำลายชาติ” เอาความเป็น “ชาติ” มาห่อ เพื่อปกป้องตัวเอง โดยไม่เคยถามว่า “ความห่วยแตก” กับ “การวิพากษ์วิจารณ์” อะไรสร้างความเลวร้าย อะไรเป็นความปรารถนาดี

Advertisement

⦁…ถึงวันนี้ หลายประเทศในโลก ประกาศความสำเร็จในการสู้กับ “โควิด” นำความเป็นปกติมาสู่ประชาชน ซึ่งการจัดการมีเรื่องเดียวคือ “การบริหารวัคซีน” ที่ได้ผล จนเกิด “ภูมิคุ้มกันหมู่ที่เพียงพอสำหรับสกัดการแพร่ระบาด” แต่สำหรับประเทศไทย ไปย้อนดูคำสัมภาษณ์เรื่อง “วัคซีน” ตั้งแต่แรก จนมาถึงวันนี้ จะพบว่า “เต็มอาการของคนความคิดสับสน” พูดให้ง่ายๆ “ไร้วิสัยทัศน์สิ้นดี” จากวันนั้นถึงวันนี้ “ยังพล่ามแบบคนที่ไม่รู้ว่าประชาชนรับข้อมูลที่ถูกต้องได้ โดยไม่ต้องฟังใครมาพล่าม”

⦁…การเมืองวันนี้ มีสัญญาณบางอย่างที่สะท้อนการเตรียมการสำหรับ “เลือกตั้งครั้งหน้า” ทั้งใน “กลุ่มพรรคอนุรักษนิยม” และ “กลุ่มพรรคเสรีนิยม” ต่างขยับให้เพื่อพลิกตัวกันถ้วนทั่ว ในภาพใหญ่เหมือนว่า “อนุรักษนิยม” ยังคุมสถานการณ์ไว้ได้ แต่หากมองลึกลงไป จะพบ “ความไม่แน่นอน” มีอยูู่สูงยิ่ง

⦁…ใน “พลังประชารัฐ” หลัง “4 กุมาร” ถูกเขี่ยทิ้ง ส่งต่อการบริหารให้ “พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ” และ “ธรรมนัส พรหมเผ่า” โดยมี “กลุ่มสามมิตร” ของ “สมศักดิ์ เทพสุทิน-สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ” สอดแทรกอยู่ หากมองในมุมของ “คอนเน็กชั่น” หรือ “การบริหารกลุ่มอำนาจ” ถือว่ายังแข็งแกร่ง การใช้กลไกราชการ เสริมด้วยทุนสนับสนุนยัง “เซ็งลี้ฮ้อ” ไม่มีใครสู้ได้ แต่หากมองในมุม “ศรัทธาประชาชน” ถือว่า “ค้าขายขาดทุนมาตลอด” ไม่สามารถสร้าง “บารมี” ให้เกิดความยกย่องสรรเสริญในคุณธรรมได้

⦁…แม้คะแนนเสียงของ “การเมือง” ยังถูกกำหนดด้วย “เงิน” และ “อำนาจ” ตามเครือข่ายของ “ระบบอุปถัมภ์” ที่ยังทรงพลังในสังคมไทย แต่ “คุณธรรมบกพร่อง” เป็น “จุดอ่อนสำคัญ” ที่ทำให้ฝ่าย “เสรีนิยม” ใช้เป็นความชอบธรรมในการสร้างชัยชนะได้เสมอ พร้อมกับ “ประชาธิปัตย์” ที่เชี่ยวชาญในการหาจังหวะสอดแทรก ในนาม “พรรคอนุรักษนิยมที่มีคุณธรรมมากกว่า” ดังนั้น “พลังประชารัฐ” อาจจะไม่คำตอบเดียวของ “3 ป” ที่เริ่มเคลื่อนไหวในมิติของ “รวมไทย สร้างชาติ”

⦁…สำหรับในฝ่าย “เสรีนิยม” แม้ “ก้าวไกล” จะยังรุกไม่ถนัด เพราะ “ตัวนำ” อย่าง “ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ” กับ “ปิยบุตร แสงกนกกุล” ยังขยับอะไรได้ไม่มากนัก จาก “สิทธิการเมือง” ที่ถูกตัดไป และโอกาสจะฟื้นคืนยังเป็นไปได้ยาก ทำให้อย่างมากก็แค่แบบ “ออง ซาน ซูจี” ในพม่า ทว่าการที่ “ทักษิณ ชินวัตร” ในนาม “Tony Woodsome” ออกมาโชว์วิสัยทัศน์การบริหารจัดการประเทศอย่างมีประสิทธิผล อย่างถี่ยิบ ท่ามกลาง “เสียงเรียกหาอนาคตที่ดีกว่าของเยาวชน” ขณะที่เกิด “ความล้มเหลวที่ทำให้สิ้นหวังในทุกด้าน” เกิดขึ้นคาตา ทำให้ถ้าคิดว่า “เงิน” และ “กลไกอำนาจ” จะควบคุมหัวใจประชาชนได้ น่าจะเป็น “ความเชื่อที่ต้องเสี่ยงพิสูจน์ในการเลือกตั้งครั้งหน้า”

ชโลทร

สนับสนุน – ปนัดดา วงศ์ผู้ดี ประธานองค์กรทำดี เดินทางมามอบชุด PPE และถุงมือให้กับกรมราชทัณฑ์ โดยมี อายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีเป็นผู้รับมอบ รองอธิบดี ผู้อำนวยการกองพัฒนาพฤตินิสัย และผู้อำนวยการกองบริการทางการแพทย์ ให้การต้อนรับ ณ ห้องรับรองกรมราชทัณฑ์

เปิดงาน – เอนก เหล่าธรรมทัศน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (รมว.อว.) เป็นประธานเปิดงาน โครงการ เปลี่ยนเกษียณเป็นพลัง จัดโดย สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม โดยมี ดร.วิภารัตน์ ดีอ่อง ผอ.สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ ต้อนรับ ณ รร.เซ็นทาราแกรนด์

รับมอบ – พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯกรุงเทพมหานคร และวาสนา ขวัญเมือง รับมอบที่นอนและเครื่องนอน จำนวน 300 ชุด จาก อัครพล คลังอัครทรัพย์ กก.ผจก.บริษัท โลตัส เบดดิ้ง กรุ๊ป โดยมี พล.ต.ท.โสภณ พิสุทธิวงษ์, พล.อ.ต.นพ.อิทธพร คณะเจริญ, นพ.สุขสันต์ กิตติศุภกร และชานนท์ ชัยวัฒนา ร่วมรับมอบ ณ ศาลาการกรุงเทพมหานคร

เปิดตัว – ขนิษฐา ไพศาลบูรพา พร้อมด้วย สถาพร ไพศาลบูรพา กรรมการผู้จัดการ บจก.บูรพา พรอสเพอร์ ร่วมแถลงข่าวเปิดตัวแป้งข้าวโม่น้ำสำเร็จรูป แบรนด์ “หมีคู่ดาว” โดยมี จุมพล เตชมหัทธนะ, จิราวรรณ ช่วยชู, อิศรา บูชาทิพย์, ชำนาญ คำภา, ศักดิ์ชัย พึ่งสุนทร ร่วมแถลงข่าว ณ บจก.บูรพา พรอสเพอร์ จังหวัดชลบุรี เมื่อเร็วๆ นี้

แสดงความยินดี – วสวัตติ์ วัฒนาศิริสมบัติ, นพ.ปรัชญ์ พึ่งเจษฎา, ชัยยศ-บัณพร เอี่ยมอมรพันธ์ ร่วมแสดงความยินดีกับ ชาลอต โทณวณิก ในโอกาสที่ได้เป็นหนึ่งในห้าผู้หญิงแกร่งแห่งปี (Women of the year) ที่ห้องลอร์ดจิมส์ โรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพฯ โดยมี วี มาร์, โกมล-ศศิวิมล ดารารัตนโรจน์ ร่วมยินดี เมื่อเร็วๆ นี้

ส่งมอบ – บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) ส่งมอบอุปกรณ์-สิ่งของจำเป็นในการดูแลผู้ป่วยให้แก่โรงพยาบาลสนามทั่วประเทศ นำร่องที่โรงพยาบาลสนามจังหวัดเชียงใหม่ โดยผู้จัดการสาขาของแม็คโคร 3 สาขาในเชียงใหม่ โดยมี เจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ ผู้ว่าฯเชียงใหม่ รับมอบ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้ผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ระลอกใหม่ เมื่อเร็วๆ นี้

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image