เปิดใจ “ดร.เดวิด” “การเมือง” รุก ล้ำแดน “วิชาการ” ?

เปิดใจ “ดร.เดวิด” “การเมือง” รุก ล้ำแดน “วิชาการ” ?

อาจไม่ใช่ชื่อคุ้นหูสำหรับคนทั่วไป สำหรับ ดร.เดวิด สเตร็คฟัสส์ ทว่า เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางในแวดวงวิชาการ โดยเฉพาะประวัติศาสตร์การเมืองร่วมสมัย กระทั่งเมื่อเกิดประเด็นการ  “ยกเลิกสัญญา” โดยมหาวิทยาลัยขอนแก่น (มข.) ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ชาวอเมริกันผู้พำนักอยู่ในประเทศมาอย่างยาวนานเกือบ 4 ทศวรรษท่านนี้ก็กลายเป็นบุคคลที่สังคมไทยให้ความสนใจอย่างล้นหลาม ด้วยความ ไม่ปกติ” ของเหตุการณ์ดังกล่าว ไม่ว่าจะเป็น

กระแสข่าวที่ว่าทางมหาวิทยาลัยอ้างถึง ตำรวจจาก สภ.ขอนแก่น ซึ่งเข้ากดดันอธิการบดีและคณบดี พร้อมให้เหตุผลว่านักวิชาการท่านนี้มีส่วนเกี่ยวข้องกับ  “การเมือง”

การยกเลิกสัญญาในครั้งนี้ส่งผลให้วีซ่าของ ดร.เดวิดสิ้นสุดลงในวันที่ 18 มีนาคม ต่อมา บมจ.บัฟฟาโล่ เบิร์ด โปรดักชั่นส์ ซึ่งบริหารเว็บไซต์ “เดอะ อีสาน เรคคอร์ด” ว่าจ้าง ดร.เดวิด ในฐานะผู้ประสานระหว่างประเทศและยื่นขอใบอนุญาตทำงานซึ่งล่าสุดอยู่ในขั้นตอนของกองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) 4 ซึ่งมีการสอบปากคำพนักงานบริษัทแล้ว 3 ครั้ง แต่ยังไม่มีความคืบหน้า เก้าอี้ผู้อำนวยการโครงการแลกเปลี่ยนนักศึกษา CIEE ซึ่งเป็นโครงการร่วมกับมหาวิทยาลัยขอนแก่นนานว่า 27 ปีของนักวิชาการท่านนี้ราวกับไม่มีความหมายใด

คำถามหนักหน่วงไม่เพียงพุ่งไปยัง มข.และ ตม. หากแต่ยังมีคำถามสำคัญที่ว่า การเมืองเรื่อง “ความเห็นต่าง” คือเหตุผลหลักที่รัฐต้องผลักราษฎรไทยสู่ห้องคุมขัง และปิดประตูใส่คนต่างชาติ เชื้อเชิญให้ออกจากแผ่นดินไทยใช่หรือไม่?

Advertisement

ระหว่างรอผลว่าใบอนุญาตทำงานที่ยื่นขอไปจะได้รับไฟเขียวหรือไม่ เจ้าตัววางแผนไว้ว่า หากไม่เป็นผล ในวันจันทร์ที่ 19 เมษายน จะยื่นขอ วีซ่าแต่งงานŽ เนื่องจากมีภรรยาเป็นคนไทย ส่วนเรื่องการงาน ดร.เดวิดบอกว่า หลังเกิดเหตุมีโรงเรียนเอกชนและมหาวิทยาลัยอื่นติดต่อมาบ้าง แต่ขอยังไม่บอกชื่อ เพราะยังไม่มีอะไรเป็นทางการ

“อยากอยู่เมืองไทย บ้านผม ชีวิตผม…อยู่ที่นี่”

คือปากคำของนักวิชาการชาวอเมริกันผู้มีผลงานมากมาย มีหนังสือตีพิมพ์กับสำนักพิมพ์ระดับโลก โดยหนังสือที่ได้รับการยอมรับ อาทิ หนังสือ Truth on Trial in Thailand ซึ่งเป็นหนังสือเกี่ยวกับการเมืองไทย วิพากษ์วิจารณ์ปัญหาความไร้เสถียรภาพทางการเมือง การใช้ความรุนแรงในทางการเมือง ปัญหาสิทธิเสรีภาพหลังจากการรัฐประหารของทหารในปี 2006 ปัญหาความอยุติธรรมทางกฎหมายของไทยในโลกสมัยใหม่ ซึ่งตีพิมพ์กับสำนักพิมพ์ Routledge ใน 2011 ยังไม่นับบทความในนิตยสารและหนังสือพิมพ์ระดับโลกอย่าง The Wall Street Journal และ The New York Times

Advertisement

นอกจากนี้ ในช่วงหลายปีที่ผ่านมายังแสดงความเห็นทางการเมืองผ่านสื่อมวลชนทั้งในและต่างประเทศบ่อยครั้ง ทั้งยังร่วมกิจกรรมเกี่ยวกับอัตลักษณ์อีสานเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โดยมีตำรวจเข้าสังเกตการณ์ ไม่กี่วันจึงได้รับแจ้งว่าจะมีการยกเลิกสัญญาจ้าง งานดังกล่าวเป็นการพบปะรวมตัวของคนหลากหลายกลุ่มในภาคอีสาน เช่น นักเขียน ศิลปิน นักกิจกรรมสายก้าวหน้าที่เห็นด้วยกับประชาธิปไตย แอลจีบีที เอ็นจีโอ และชุมชนต่างๆ

ข้อมูลนี้ยิ่งขับเน้นว่าประเด็นการเมืองคือเรื่องหลักใช่หรือไม่?
ระหว่างที่คำถามนี้ยังไม่มีคำตอบกระจ่างชัด รศ.นพ.ชาญชัย พานทองวิริยะกุล อธิการบดี มข. ได้ออกมาชี้แจงในช่วงบ่ายของวันที่ 17 เมษายน โดยยอมรับว่ายกเลิกสัญญาจริง เพราะไม่มีความก้าวหน้าในโครงการนักศึกษาแลกเปลี่ยน ทั้งยังโต้กระแสข่าวที่ว่า ทางมหาวิทยาลัยถูกกดดันจากตำรวจหรือเจ้าหน้าที่รัฐ

“1.โครงการแลกเปลี่ยนนักศึกษา CIEE เป็นหน่วยงานภายนอก มข.มีความร่วมมือกับ มข.ในเรื่องการแลกเปลี่ยนนักศึกษาต่างประเทศ โดยไม่เคยมีสัญญาจ้าง 2.มีการยกเลิกโครงการ CIEE เมื่อปีที่แล้ว โดย มข.ไม่ได้เป็นผู้ยกเลิก 3.หลังจากโครงการ CIEE ถูกยกเลิก คณะสาธารณสุขศาสตร์ มข.ได้มีสัญญาจ้าง 1 ปี โดยไม่ได้จ่ายค่าตอบแทนเพื่อให้ดำเนินการสร้างเครือข่ายการแลกเปลี่ยนนักศึกษาต่างประเทศกับหลายๆ ประเทศตามที่เจ้าตัวเสนอ เริ่มสัญญาจ้างเมื่อเดือน ส.ค.2563, 4.เดือน ก.พ.2564 ทางคณะฯเห็นว่าไม่มีความก้าวหน้าในงานที่ได้ตกลงกันไว้จึงแจ้งเจ้าตัวขอยกเลิกสัญญา และ 5.ไม่เคยมีตำรวจหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐใดๆ มาพบหรือมากดดันอธิการบดีและคณบดี” รศ.นพ.ชาญชัยอธิบาย

ต่อคำชี้แจงข้างต้น วชิรวิทย์ เทศศรีเมืองหรือเซฟ ดาวดิน แกนนำ “คณะราษฎรขอนแก่น” มองว่า ไม่ถูกต้อง และหวั่นวิตกว่าหากเป็นเช่นนี้ อาจารย์หรือนักวิชาการต่างชาติที่ มข.วันหนึ่งก็อาจจะถูกปลดและยกเลิกสัญญาจ้างแบบนี้ได้เช่นกัน โดยขอยืนยันว่า ที่ผ่านมาแม้โดยส่วนตัว รวมไปถึงแกนนำในระดับพื้นที่ได้พูดคุยกับ ดร.เดวิด หรือ “อาจารย์เดฟ” ก็เป็นไปเพียงเพื่อแลกเปลี่ยนในมุมมองด้านวิชาการ ไม่เคยได้รับการสนับสนุน บงการ หรือแนะนำรูปแบบการชุมนุม รวมถึงเป็นท่อน้ำเลี้ยงทุนทรัพย์จากต่างชาติแต่อย่างใด

“เรื่องนี้กลุ่มผู้ชุมนุมต้องหารือกันและจัดกิจกรรมเพื่อตอบโต้การกระทำของ มข. และแสดงจุดยืนกับบุคคลที่รักในประชาธิปไตยที่เข้าใจในความเป็นประชาธิปไตยที่แท้จริง” แกนนำคณะราษฎรขอนแก่นระบุ

ก่อนจะมาถึงวันนี้ ดร.เดวิดเล่าว่า เมื่อย้อนไปในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา มีคนคอยบอกตลอดว่าตัวเองกำลังโดนตามสืบ โดยครั้งหนึ่งสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาฯ ยังเคยแจ้งข้อมูลในลักษณะเดียวกันว่า “ตำรวจกำลังสืบสวนคุณ” แต่ส่วนตัวไม่ได้คิดอะไร ส่วนที่มีคนมาขอให้เขียนบทความเกี่ยวกับมาตรา 112 เพราะเคยติดตามเรื่องนี้ซึ่งก็เป็นการให้เกียรติกัน และสิ่งที่พูดในวันนี้ก็เคยพูดมาตั้งแต่ 10 ปีที่แล้ว ส่วนสถานการณ์วันนี้คือ “การรังแก” ที่เคยเห็นมาตลอด

“ในภาพรวมคนที่เป็นแบบผม ทั้งเอ็นจีโอ อาจารย์ ก็สนใจและเป็นห่วงสถานการณ์ในไทยมาตั้งแต่รัฐประหารอยู่แล้ว เท่าที่เห็นในแวดวงเพื่อนๆ มี 2 อย่างคือ 1.มองว่านักศึกษามีความกล้าหาญ ให้กำลังใจ 2.รู้สึกเป็นห่วงการศึกษา และผิดหวังกับคนที่มีอำนาจในกรุงเทพฯ ซึ่งไม่ประนีประนอม ด่าอย่างเดียว ทั้งยังด่าครูอาจารย์และรังแกด้วย สำหรับสถานการณ์ของผม เขาบอก นายสั่ง ถามว่านายไหน ก็ไม่รู้ บอกแต่นายสั่ง และมีนายที่สูงกว่านั้นสั่ง ไม่รู้ใคร เป็นการรังแกที่เห็นมาตลอดอยู่แล้ว ทั้งกับนักศึกษาเองก็ตาม”” ดร.เดวิดเล่า

ตัดภาพไปที่ สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดขอนแก่น และ ตม.4 ซึ่งระบุว่าผู้ที่เกี่ยวข้องอยู่ในระหว่างการเดินทางไปยังกองบัญชาการตำรวจตรวจคนเข้าเมืองกรุงเทพฯ เพื่อรายงานข้อเท็จจริง โดยจะมีการแถลงข่าวที่ บช.สตม.ในวันจันทร์ที่ 19 เมษายน

ไม่ว่าถ้อยแถลงจะเป็นเช่นไร จะเคลียร์คัตชัดทุกประเด็น หรือจะยังคงเป็นปริศนาที่ไม่กระจ่างชัด ทุกคนคงมีทั้งคำถามและคำตอบในใจ ท่ามกลางบรรยากาศไม่เป็นประชาธิปไตยที่คนไทยต้องเผชิญ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image