‘เพื่อไทย’ ถกทางออกประเทศหลังโควิด แนะ รบ.เร่งฉีดวัคซีน 40 ล้านคน ในปีนี้ เพื่อเปิดปท.ให้เร็วขึ้น

‘เพื่อไทย’ ถกทางออกประเทศหลังโควิด แนะ รบ.เร่งฉีดวัคซีน 40 ล้านคน ในปีนี้ เพื่อเปิดปท.ให้เร็วขึ้น

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 19 เมษายน ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) มีการจัดเสวนาหัวข้อ “วิกฤต” และ “ทางออก” โควิดระลอก 3

โดย นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รองหัวหน้าพรรคพท. กล่าวว่า สาเหตุของการระบาดทั้ง 3 ครั้งมาจากคนที่เกี่ยวข้องกับรัฐบาล ตั้งแต่ครั้งแรกที่สนามมวย ที่นายทหารที่รับผิดชอบกลับได้เลื่อนตำแหน่งหลังจากเรื่องเงียบ ครั้งที่ 2 จากบ่อนการพนัน ที่ส่งลูกชายมาเป็นอนุกรรมาธิการ และการขนแรงงานเถื่อนที่โยงใยกับคนในรัฐบาล และ ครั้งล่าสุดเกิดจากสถานบันเทิงอโคจรที่คนเชื่อกันว่ามี ครม. เข้าไปเที่ยวกันหลายท่าน จนถูกขนานนามว่าเป็น ‘ไทยคู่ฟ้าคลับ’ จนพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ต้องออกมาฟ้องคนตั้งชื่อแก้เก้อ แต่กลับไม่กล้าจัดการกับ ครม. ที่ไปเที่ยวสถานที่อโคจร จนทำให้เกิดการแพร่ระบาดกันอย่างมากในตอนนี้ แต่เจ้าของสถานที่ที่แท้จริงกลับไม่ถูกดำเนินคดี เรื่องเหล่านี้จึงทำให้ประชาชนไม่มั่นใจว่าในอนาคตจะมีการแพร่ระบาดอีกหรือไม่ เพราะ พล.อ.ประยุทธ์ไม่จริงจังในการลงโทษคนกระทำผิด ที่เชื่อว่าจะเป็นพวกเดียวกันกับรัฐบาล

ดังนั้น เมื่อพิจารณาย้อนหลังจะพบว่ารัฐบาลบริหารงานล้มเหลวมาตลอด ไม่ถูกตำหนิไม่ยอมแก้ไข บริหารประเทศโดยการโดนด่า และไม่เคยคิดล่วงหน้าขาดวิสัยทัศน์อย่างรุนแรง แม้แต่เรื่องวัคซีนที่เป็นเรื่องใหญ่เป็นความเป็นความตาย ที่เป็นทั้งเรื่องสาธารณสุข และเป็นการฟื้นเศรษฐกิจ รัฐบาลยังไม่ใส่ใจ รัฐบาลใช้เงินมากมายในการเยียวยา แต่กลับไม่ใช้เงินในการจัดหาวัคซีนตั้งแต่แรก เป็นความผิดพลาดอย่างไม่น่าอภัย การระบาดได้กระจายไปอย่างมากขนาดมีข่าวเตียงพยาบาลในโรงพยาบาลต่างๆเต็มกันหมดแล้ว โดยต้องขยายโรงพยาบาลสนามเพิ่มขึ้นเรื่อยๆแล้ว นอกจากนี้ พล.อ.ประยุทธ์ขาดหลักคิดทางการค้า ปัจจุบันรัฐบาลดีใจกับการแจกเงินอย่างเดียว โดยไม่ได้คิดเลยว่าประเทศมีการพัฒนาธุรกิจใหม่ๆเกิดขึ้นไหม ธุรกิจเก่าๆก็ค่อยๆเจ๊งลงไปเรื่อยๆ แล้วอนาคตของประเทศจะเป็นอย่างไร คงไม่ต้องพูดถึง

Advertisement

นายพิชัย กล่าวอีกว่า ในภาวะวิกฤตไวรัสโควิดรอบใหม่นี้ จึงอยากเสนอแนวทางออกของประเทศไทยทั้งในระยะสั้นและในระยะปานกลาง ทั้งหมด 6 แนวทางดังนี้ 1.พล.อ.ประยุทธ์จะต้องเร่งเยียวยาประชาชนโดยด่วน จึงขอเสนอให้เยียวยาประชาชนเดือนละ 5,000 บาท จำนวน 3 เดือน โดยจ่ายเป็นเงินสด ไม่เอาแบบโอนเงินเหมือนครั้งที่ผ่านมา ซึ่งถึงแม้ว่าหนี้รัฐบาลจะพุ่งสูง แต่ต้องเอาประชาชนให้รอดก่อน หลังจากเยียวยาแล้ว พล.อ.ประยุทธ์ควรจะต้องออกไปได้เลย เพราะพล.อ.ประยุทธ์หมดสภาพที่จะบริหารประเทศแล้ว 2.รัฐบาลจะต้องเร่งหาวัคซีนมากระจาย การฉีดให้กับประชาชนโดยเร็ว ไม่ว่าด้วยวิธีใด และต้องมีหลายยี่ห้อ รัฐบาลต้องมีแผนงานการกระจายฉีดวัคซีนอย่างชัดเจนเพื่อให้ประชาชนมั่นใจ

3.เร่งช่วยเหลือธุรกิจ SME การให้ซอฟท์โลนอย่างเร่งด่วน และต้องเร่งสร้างธุรกิจใหม่เป็นความจำเป็นเร่งด่วน ซึ่งปัจจุบันธุรกิจใหม่ก็ไม่ได้สร้าง ธุรกิจเก่าก็มีแต่จะเจ๊งไป ประเทศไทยดูเหมือนไร้อนาคต 4.เร่งสร้างความมั่นใจให้กลับมาโดยเร็ว ซึ่งพล.อ.ประยุทธ์ไม่สามารถทำได้แล้ว ยิ่งพล.อ.ประยุทธ์อยู่ต่อไป เศรษฐกิจไทยจะยิ่งเสื่อมถอยไปเรื่อยๆ ซึ่งเสื่อมถอยมาตลอดเกือบ 7 ปีแล้ว 5.เร่งแก้ไขรัฐธรรมนูญที่เป็นปัญหาหลักของประเทศให้เป็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริง ซึ่งรัฐธรรมนูญไทยบางเรื่องยังแย่กว่ารัฐธรรมนูญของพม่าเสียอีก รัฐธรรมนูญพม่ายังแต่งตั้งแค่ 25% แต่ของไทยมี ส.ว. โหวตนายกถึง 1 ใน 3 (เท่ากับ 33.33%) เลย และ 6.เร่งสร้างบรรยากาศที่ดีให้กับประเทศ โดยการปล่อยนักศึกษาและแกนนำผู้ชุมนุมที่ถูกคุมขัง ทั้งที่คดียังไม่สิ้นสุด อีกทั้งต้องให้เสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นของประชาชน เพื่อให้เกิดความคิดสร้างสรรค์ในการสร้างธุรกิจใหม่ๆ

นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส. น่าน พรรคพท. กล่าวว่า พรรคพท.เรา แม้จะเป็นฝ่ายค้าน แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นเราไม่สามารถนิ่งนอนใจได้ เราต้องมีข้อเสนออะไรสักอย่างให้รัฐบาล โดยตนขอพูดถึงระบบสุขภาพของประเทศไทย วันนี้ถือว่าเรากำลังทดสอบระบบสุขภาพของประเทศเรา ในฐานะที่เป็นประเทศที่มีระบบสุขภาพที่ดีที่สุดเป็นลำดับ 6 ของโลก การระบาดระรอกเดือนเมษายนนี้จำนวนผู้ป่วยเพิ่มขึ้น ระบบการดูแล การรักษา การตรวจสอบเป็นไปตามมาตรฐานหรือไม่ ขณะที่อักตราการแพร่เชื้อของไทยเรารายงานที่ 2.27 คือ 1 คน แพร่ได้ 2 คน โดยประมาณ ถ้ายังไม่มีมาตรการใดๆผู้ติดเชื้อจะคูณไปเรื่อยๆทุกวันแล้วกลายเป็นวิกฤติ ซึ่งตนขอเสนอ. 1.ให้พี่น้องประชาชนคนไทยทุกคนเป็นมหมอ ดูแลตัวเองไม่ให้มีความเสี่ยง แต่เมื่อเสี่ยงแล้วจะต้องทำอย่างไร ซึ่งพรรคพท.จะทำคู่มือออกมาด้วย

นอกจากนี้ เราต้องซื่อสัตย์กับตัวเอง หากเป็นกลุ่มเสี่ยงจะต้องเข้าสู่ระบบตรวจ 2.ภาครัฐและเอกชนต้องร่วมมือร่วมใจกัน รัฐต้องไม่ปฏิเสธเอกชน และเอกชนต้องไม่ปฏิเสธรับในเรื่องที่เกี่ยวกับสาธารณสุข 3.ผู้นำประเทศต้องเร่งออกมาสร้างความเชื่อมั่นให้พี่น้องประาชนคนไทย ก่อนที่จะขยายความเชื่อมั่นนั้นไปยังนานาประเทศ ต้องจัดการการแพร่เชื้อให้ได้เหลือ 1 ต่อ 1 หรือน้อยกว่านั้นให้ได้ โดยรับต้องออกมาตรการที่ชัดเจน แต่เท่าที่มีออกมาไม่ได้สร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชนเลย ทุกคนรอดูนายกฯออกมาแถลงเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้คนในชาติ แต่แถลงการณ์นายกฯกลับเป็นแถลงการณ์ที่ทำลายความหวังของคนในชาติแทน วันนี้คนป่วยจากภาวะซึมเศร้า และสิ้นหวัง มีภาวะทางจิต และโรคอื่นๆที่สูญเสียอัตราการครองเตียงที่จำเป็นต้องใช้เตียงในโรงพยาบาลในการรักษาพยาบาล ทั้งนี้ ตนขอฝากกำลังใจให้พี่น้องประชาชนทุกคน

นพ.ชลน่าน กล่าวอีกว่า เราห่วงว่าถ้าฉีดวัคซีนช้าแล้วไวรัสกลายพันธุ์​ วัคศซีนเดิมจะใช้ไม่ได้ และต้องหาวัคซีนใหม่ซึ่งจะทำให้เปิดประเทศได้ช้าไปอีก โดยอาจเปิดได้ในปี 66 เลย ดังนั้น รัฐบาลต้องจัดหา และวางแผนฉีดวัคซีนให้ครอบคลุมภายในปีนี้ โดยรัฐต้องทบทวนแผนการให้วัคซีนทั้งหมด 63 ล้านโดสที่ท่านตั้งเป้าไว้ไม่เพียงพอ เพราะได้เพียง 23 ล้านคน เพราะการจะให้เกิดการคุ้มกันหมู่ท่านต้องฉีดให้ได้ 70% ของจำนวนปนะชาการ หรือ 40 ล้านคน ท่านต้องหาวัคซีนให้คน 40 ล้านคนให้ได้ในปีนี้ และรัฐต้องสร้างความรู้ความเข้าใจให้พี่น้องประชาชนอยู่กับโควิดให้ได้ เพราะเราปฏิเสธโควิดไม่ได้ เราต้องทำให้โควิดเหมือนไข้หวัดใหญ่ที่เมื่อเป็นก็เข้ารับการรักษา แต่เราสามารถควบคุมและป้องกันได้

ด้าน เผ่าภูมิ โรจนสกุล รองเลขาธิการพรรคพท. และผู้อำนวยการศูนย์นโยบายฯพรรคพท. วิกฤตโควิดระลอก 3 เราต้องมองภาพใหญ่ว่าเป็นเหมือนขาสองข้าง คือ ขาซ้ายด้านสาธารสุข และขาขวาด้านเศรษฐกิจ ที่แต่เดิมสองขาเดินไปด้วยกัน แต่ปัจจุบันขาด้านสาธารณสุขพิการไปแล้ว เราจึงยืนด้วยขาข้างเดียวคือด้านเศรษฐกิจ อาวุธด้านเศรษฐกิจของประเทศไทย คือ พ.ร.ก. 1.9 ล้านล้านบาท วันนี้พ.ร.ก.ดังกล่าว ครบรอบ 1 ปี แต่ที่ผ่านมาการบริหารจัดการมีปัญหาทั้งเชิงปริมาณและคุณภาพ หากดูการเบิกจ่ายจริง จะเห็นว่าเงินลงในระบบแค่ 6 แสนกว่าล้านบาท ทั้งที่ควรมีเงินลงสู่ระบบเศรษฐกิจจริง 4 ล้านล้านบาท ส่วนเชิงคุณภาพของเงินที่ลงไปก็มีปัญหา โครงการต่างๆไม่ตรงกลุ่มเป้าหมาย มีการสวมสิทธิ์ การกระตุ้นการท่องเที่ยว เป็นการกระตุ้นแบบกระจุกตัว ทำให้ลมหายใจภาคเอกชนหมดลง งบฟื้นฟูที่จะต้องสร้างงานก็เอาลงแค่ 10% ภาพรวมเราเดินแค่ขาเดียวคือขาขวาแต่กลับขาดสารอาหาร

ดังนั้น ทางออกที่ดีที่สุด คือ เรื่องของวัคซีน รวมถึงการท่องเที่ยวจะทำให้ขาด้านเศรษฐกิจเราแข็งแรง ซึ่งจะเริ่มต้นใหม่ได้จริงๆคือต้นปีหน้า ระหว่างนี้เราต้องให้ความสำคัญเรื่องการส่งออก เพราะเป็นสิ่งเดียวที่จะช่วยให้ขาขวาเรายืนได้ การส่งออกไม่ค่อยแปรผันต่อการติดเชื้อของคนภายในประเทศ ยังเป็นสิ่งที่พอทำได้ เราจะเห็นว่าเศรษฐกิจโลกที่ฟื้นแล้วคือจีนเป็นอันดับหนึ่ง อันดับสองคือสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นประเทศคู่ค้าหลักของไทย ทำให้เราเห็นโอกาสในการส่งออก ด้วยการสนับสนุนสายพานการผลิตด้วยการนำเข้าวัตถุดิบ การลงทุนในประเทศเพื่อการสร้างงานนำไปสู่การส่งออก ดังนั้น สายพานการผลิตเป็นสิ่งที่ต้องสนับสนุน และสิ่งที่รัฐบาลยังไม่ได้ทำคือการดึงกำลังซื้อจากเศรษฐี จากคนมีรายได้สูง มาซื้อสินค้าคงทนเพื่อเหนี่ยวนำการลงทุน เช่น รถยนต์ อสังหาริมทรัพย์ ที่ดิน เฟอร์นิเจอร์ เป็นต้น

ขณะที่ นายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม รองเลขาธิการพรรคพท. กล่าวว่า ตนขอพูดเรื่องของการท่องเที่ยว เพราะได้รับเสียงจากผู้ประกอบการการณ์ท่องเที่ยวมาจำนวนมาก ล่าสุดรายได้จากการท่องเที่ยวเสียหายจำนวนมาก และมีคนตกงานในสายนี้แล้วกว่าครึ่งทั้งที่การท่องเที่ยวเป็นรายได้หลักของประเทศ ทั้งนี้ แม้รัฐบาลจะมีโครงการมากมาย แต่เป็นการแก้ที่ปลายเหตุ ตัวเลขของความเจ็บช้ำ มาพร้อมๆกับตัวเลขของการแพร่ระบาด ขาขวาของไทยกระเผลกอยู่ ทำอย่างไรเราจึงจะมีแรงเดินไปถึงเส้นชั้ย ไทยมุ่งหวังได้ไหมว่าเราจะเป็น 1 ในย 20 ของประเทศที่มีขีดความสามารถ จะสามารถเพิ่มการเติบโตในการได้รับมิชลินสตรา์ได้หรือไม่ สามารถเพิ่มความสามารถในเรื่องการคมนาคมทั้งทางบกและทางน้ำ จะเป็นผู้นำในเรื่องของการพัฒนาที่ยั่งยืนได้หรือไม่ ฯลฯ เราไปถึงจุดไหนได้ เราจะสร้างความมั่นใจกับนักท่องเที่ยวให้มาเที่ยวประเทศเราได้อย่างไร ทั้งหมดทั้งมวลขึ้นอยู่กับวัคซีนว่าสามารถดำเนินการได้รวดเร็วเพียงใด

นอกจากนี้ ภาคประชาชนต้องร่วมกันขับเคลื่อน เรามีดีอยู่หลายอย่างโดยเราอาจะผลักดันการท่องเที่ยวชุมชน การท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ หรือการผลักดันครัวไทยไปครัวโลก เราพูดกันมานาน แต่ไม่เคยมีผู้มีอำนาจมาอาละวาดในประเด็นนี้ ทั้งนี้ ที่ต้องใช้คำนี้ เพราะเราต้องใช้มาตรการเร่งด่วน และยาแรงแล้ว เราต้องนำเทคโนโลยีเข้ามาจับ ประเทศไทยสามารถกลับมาเป็นมหาอำนาจด้านการท่องเที่ยวได้เพียงทุกคนไม่ท้อ รู้จักเตรียมความพร้อม และมองเห็นภาพอนาคตร่วมกัน เชิญชวนทุกคนแปรเปลี่ยนความอึดอัดใจมาเป็นแรงผลักดันในการหาทางออกร่วมกัน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image