พกอาหาร เลี้ยงสัตว์อดอยาก แม่ไมค์ สุด ‘ภูมิใจ’ ลูกเป็นคนรากหญ้า แต่เห็นคุณค่าความเป็นมนุษย์

พกอาหาร เลี้ยงสัตว์อดอยาก แม่ไมค์ สุด ‘ภูมิใจ’ ลูกเป็นคนรากหญ้า แต่เห็นคุณค่าความเป็นมนุษย์-เปิดตัว ‘แม่สายม็อบ’ วิ่งหนีกระสุนยาง แอบดู ‘อานนท์’ ทุกการชุมนุม

คำบอกเล่า จากปากของมารดา “ภาณุพงศ์ จาดนอก” หรือ ไมค์ ระยอง ผ่านแฟนเพจ “ราษฎร” ถึงที่มาของชื่อเล่น ‘ไมค์’ ไล่เรียงไปหาความใฝ่ฝันของลูก ที่อยากเป็น “เชฟ”
ก่อนย้อนนึกถึงคำเรียกขานของครอบครัว ว่า ‘คนของสังคม’ ด้วยอุปนิสัยเห็นใจคนรากหญ้า ยอมสละเวลาวัยรุ่นไปกับการลงพื้นที่ช่วยเหลือผู้อื่น ย่อมสร้างความปั่นป่วนในหัวใจของผู้อ่าน ไม่มาก ก็น้อย

อ่านข่าว : แม่เปิดที่มาชื่อเล่น ‘ไมค์’ เล่าความใฝ่ฝันอยากเป็นเชฟ เผยคนในบ้านเรียกเขา ‘คนของสังคม’

แม้เวลานี้ “ไมค์” จะอยู่ในเรือนจำแยกกับแกนนำคนอื่นๆ ด้วยข้อหาอาญา มาตรา 112
และแม้ผู้เป็น “แม่” จะออกมาร่วมเรียกร้อง ด้วยหัวอกของผู้ให้กำเนิด ตั้งแต่ “เดินทะลุฟ้า” มาจนถึง “ยืน หยุด ขัง 112 นาที” เพื่อยืนยันสิทธิประกันตัว ให้ลูกได้ออกมาสู้คดี หรือแม้แต่รวมกลุ่ม “คณะราษมัม” ทำทุกวิถีทาง ชวนเขียนจดหมาย 100,112 ฉบับ ถึงประธานศาลฎีกา อธิบดีศาลอาญา และตุลาการ
ทว่า “ไร้วี่แวว” แต่ยังคงหวัง ว่าลูกสุดที่รักจะกลับคืนสู่อ้อมอก

Advertisement

ย้อนกลับไปในช่วงหยุดยาว ที่หลายครอบครัวได้กลับไปฉลองปีใหม่ไทยอย่างพร้อมหน้า
นางยุพิน มณีวงศ์ มารดาของ ไมค์ ระยอง เปิดใจขณะร่วม “ยืน หยุด ขัง” 112 นาที ที่หน้าศาลฎีกา เมื่อ 11 เมษายนที่ผ่านมาว่า ทำใจพอสมควร ถามว่าแม่เครียดหรือไม่ แม่เครียด ไมค์เป็นลูกแม่ ตรงไหนที่พอจะทำได้ แม่ก็ยอมออกมา
ตอนนี้แม่แทบหมดแรง ไม่เคยต้องขึ้นรถไปไหนนานๆ นั่งรถ 3-4 วันติด เข้าไปนั่งรอ ว่าประกันตัวไปแล้วจะมีคำสั่งลงมาว่าได้ หรือไม่ได้ ทั้งที่รู้อยู่แก่ใจว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไร รู้ว่าทุกครั้งที่ยื่นประกันตัว เราโดนหลอก แต่เราก็ต้องทำ เผื่อมีปาฏิหาริย์ ล่าสุดก็เหมือนเดิม แม่ก็กลับบ้านกันด้วยหัวใจที่ห่อเหี่ยวเหมือนเดิม

“เขาเป็นผู้บริสุทธิ์อยู่ และที่ทำกับแม่ ทำไมต้องทำเหมือนเราเป็นคนผิด เหมือนเป็นพวกนักโทษ ถูกกีดกันทุกอย่าง โต๊ะนั่งก็ไม่ให้ เอาไปเก็บไว้แถบหนึ่ง ให้เรานั่งกับพื้น ขอแค่ได้รอเวลา แอบมองลูกตอนลูกไปเข้าห้องน้ำ

Advertisement

เจ้าหน้าที่กันให้เราเป็นคนนอกอยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าญาติ หรือแม่ ทุกคนไม่มีสิทธิเข้าไป ไม่ได้พูดคุย ไม่ได้สัมผัส จนมีครั้งหนึ่ง แม่ก็รั้นไปกอดไมค์ เขาบอก ‘กอดไม่ได้ครับ’ ในเมื่อลูกเรา เราขอกอดแค่นิดเดียว แม่ก็แบมือให้ดูว่า มือแม่ไม่ได้มีอะไรมานะ แม่มีแค่สองมือ จะขอกอดลูก ทำได้แค่นั้น สักพักหนึ่ง เขากันเราออก และอีกสักพักไม่ให้ขึ้นเลย แม่ทุกคนเจอแบบเดียวกัน แม่ทุกคนอยากขึ้นไปในห้องพิจารณา แต่เขาไม่ยินยอม” นางยุพินกล่าว และว่า

“ถึงวันนี้แม่ก็ภูมิใจนะ ภูมิใจในตัวลูกแม่มากๆ อย่างน้อย ไมค์เป็นคนรากหญ้า แต่ไมค์ยังเห็นคุณค่าของความเป็นมนุษย์ ยังรู้จักรักเพื่อนมนุษย์ ยังรู้จักเห็นใจ

“อย่าว่าแต่คน กระทั่งสัตว์ตัวหนึ่ง ที่มีบาดแผล หรืออดอยาก ลูกแม่จะมีอาหารไว้ในรถตลอด ที่จะเอาไว้เลี้ยงหมา แมวเหล่านั้น เขาทำมาแบบนี้ ถ้าถามถึงวันนี้ แม่ทำใจได้ เพราะลูกแม่อยู่ในโซนนี้มาตลอด หน้าที่ที่เขาแต่งตั้งตัวเขาขึ้นมาเอง ว่าจะต้องทำ เขาทำแล้วเขามีความสุข และแม่ไม่เคยไปขัด ว่า ‘ลูกอย่าทำอย่างนั้น อย่าทำอย่างนี้ มันสิ้นเปลือง’ แม่ไม่เคยเลย นั่นคือ เขาทำดีแล้ว ถึงวันนี้แม่ก็ยังภูมิใจไมค์ ใครจะว่าลูกแม่ไม่ดี แม่ก็ยังภูมิใจในความเป็นเขา และแม่ภูมิใจในตัวแม่เอง ที่แม่สามารถสั่งสอนเขาให้รู้จักคุณค่าของคน ไม่เหยียบย่ำกัน ไม่รังแกกัน เขาเป็นผู้ให้ ให้จนบางครั้งเขาแทบจะอด แต่เขาบอกว่า ‘เขายังมีแรงทำ เดี๋ยวเขาก็หาได้ใหม่’ และแม่ไม่เคยขัดเลย ในสิ่งที่ลูกทำ แต่ไม่ใช่แม่หลับหูหลับตา ว่าไมค์ทำอะไรจะถูกไปหมด ถ้าสิ่งไหนที่แม่ดูแล้วว่าไม่ดี แม่จะปรามก่อนที่เขาจะทำ แต่นี่แค่การเรียกร้องสิทธิเสรีภาพ เรียกร้องประชาธิปไตย”

นางยุพินกล่าวอีกด้วยว่า ถ้าคุณว่าลูกเราผิด ให้สิทธิประกันตัวออกมา เราไม่ขอความยุติธรรม เราขอแค่ความถูกต้อง ผิดถูกให้ศาลตัดสิน ให้เขาได้ต่อสู้ตามกระบวนการ แค่นั้นเราพอใจ ถ้าศาลตัดสินแล้วว่ามีความผิด เราก็คงไม่ออกมาเรียกร้องกัน เราจะเคารพในคำตัดสินของศาล แต่ ณ วินาทีนี้ ก็เห็นอยู่ว่าเป็นไปตามกระบวนการหรือไม่ ให้ทุกคนดู

เมื่อถามว่า ถ้าสามารถร้องขอต่ออัยการได้ อยากจะขออะไร ?
แม่ขอแค่ให้ท่านรักษาความถูกต้องไว้ ให้สมกับที่ท่านร่ำเรียนมา ท่านมีสถาบันที่เรียนจบ มีครูบาอาจารย์ที่สอนท่าน หลักการความยุติธรรม เป็นอย่างไร เราไม่ได้ขอให้ปล่อยตัวเฉยๆ เราขอแค่ว่า ให้ลูกเราได้รับการประกันตัว เพราะเขายังไม่ถูกตัดสิน มีสิทธิได้รับการประกันตัวออกมาสู้คดี

ด้าน “นางมาลัย นำภา” มารดาของ นายอานนท์ นำภา ทนายความด้านสิทธิมนุษยชน เผยว่า ที่มายืนตรงนี้ ก็เป็นหน้าที่ของแม่ มายืนให้กำลังใจลูก
“ไม่เคยคิดว่าลูกจะมาถึงจุดนี้ มาไกลขนาดนี้ แม่ไม่เคยคิดเลย แต่เมื่อลูกมาแล้ว แม่ก็เคารพสิทธิ ที่เขาตัดสินใจ แม่ก็ว่าเขาคิดดีแล้ว แม่ก็เห็นดีไปกับเขาด้วย แต่เขาไม่เคยพูดเรื่องหลักการต่อสู้กับแม่มาก่อน”

ด้าน นางสุรีย์รัตน์ ชิวารักษ์ มารดาของ นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ เพนกวิน กล่าวเสริมว่า อยากจะบอกว่า แม่สายม็อบ แม่ที่ไปม็อบมากที่สุด คือคนนี้ คอยไปฟัง ไปติดตาม ดูลูกอยู่ห่างๆ

“พวกแม่ๆ เราต้องคอยโทรเช็กกันตลอดเวลามีม็อบ พยายามไม่อยากให้มีปัญหาในการเป็นเงื่อนไข ปรากฏว่า แม่ที่น่าห่วงที่สุด คือแม่อานนท์ ‘ฮัลโหล อยู่ไหน?’ ‘กำลังวิ่งหนีอยู่’ ชุลมุนวุ่นวายกับชีวิต แม่อานนท์จะอยู่ในเหตุการณ์ นี่คือแม่สายม็อบที่แท้จริง ไม่รู้เส้นทางเท่าไหร่ แต่ไปม็อบของลูกทุกครั้ง” สุรีย์รัตน์เผย

เมื่อถามนางมาลัย ว่า ผ่านการวิ่งหนีมาแล้วกี่รอบ จากปกติอยู่ต่างจังหวัด เมื่อมาอยู่กรุงเทพฯ ต้องวิ่งหลบกระสุนยาง แก๊สน้ำตา เป็นอย่างไรบ้าง ?

นางมาลัย ยอมรับว่า ‘นับไม่ถ้วน’ ไปทุกเหตุการณ์ แต่ไม่ปรากฏตัว
“ก็ตื่นเต้นดีนะ วิ่ง จับมือลูกสาว กับพ่อเขา แล้ววิ่งหนีเลย กลัวมาก หนีเสือ ปะจระเข้ จากสะพานปิ่นเกล้า กลับเข้ามาตรอกข้าวสาร ยิ่งเจอใหญ่ (ตำรวจควบคุมฝูงชน) วิ่งหนีอีก รอบ 2 ในคืนเดียว

เมื่อถามว่า ทุกครั้งที่จัดกิจกรรม แกนนำเชื่อว่าจะมีส่วนทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลง ส่วนตัวคุณแม่หวังว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงหรือไม่ ?

นางมาลัย เปิดเผยว่า เชื่อว่าจะเปลี่ยน และทุกคนก็คิดว่าจะเปลี่ยนไปในทางที่ดี
“ไม่เคยคิดว่าลูกจะมาทำอะไรที่ยิ่งใหญ่ แต่ก็เกิดขึ้นแล้ว อยากให้ลูกได้รับการปล่อยตัวในเร็ววัน เป็นห่วงลูก ไม่รู้ว่าเขาจะอยู่-กินอย่างไร” นางมาลัยกล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image