เริ่มแล้ว! เครือข่ายรามฯ นัดยืน 112 นาที จี้ ‘ปล่อยเพื่อน’ วันแรก สน.หัวหมากดูแลความปลอดภัย
เมื่อวันที่ 21 เมษายน ที่มหาวิทยาลัยรามคำแหง หัวหมาก สืบเนื่องกรณี ‘เครือข่ายรามคำแหงเพื่อประชาธิปไตย’ นัดหมายจัดกิจกรรม ‘ยืนหยุดขัง’ ยืนสงบนิ่ง 112 นาที เพื่อแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ในการเรียกร้องให้ปล่อยตัวนักกิจกรรมจากเรือนจำให้ได้สิทธิการประกันตัวสู้คดี โดยนัดหมายวันนี้เป็นวันแรก ในเวลา 17.00 น. บริเวณหน้ามหาวิทยาลัย
ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศเมื่อเวลา 16.00 น. มีเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบเข้าสังเกตการณ์โดยรอบ นอกจากนี้ยังมีเจ้าหน้าที่หน่วยเก็บกู้และตรวจสอบวัตถุระเบิด (อีโอดี) เจ้าทำการตรวจสอบบริเวณจุดนัดหมายได้แก่ 1.หน้าป้ายมหาวิทยาลัย ถนนรามคำแหง 2.ทางเท้าหน้ามหาวิทยาลัยและพุ่มไม้ในพื้นที่ใกล้เคียง
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.หัวหมาก ได้เข้าพูดคุยกับผู้จัดกิจกรรมโดยสอบถามจุดจัดกิจกรรมที่ชัดเจน
ทั้งนี้ มหาวิทยาลัยรามคำแหงปิดทำการระหว่างวันที่ 19-30 เมษายน บรรยากาศทั่วไปจึงไม่พลุกพล่าน ส่วนใหญ่พบเพียงบุคลากรของมหาวิทยาลัย พนักงานรักษาความปลอดภัย และเจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งตรวจตราอย่างเคร่งครัด
ต่อมาเวลาประมาณ 16.15 น. เครือข่ายรามคำแหงเพื่อประชาธิปไตยจัดเตรียมอุปกรณ์ อาทิ ภาพนักกิจกรรม และป้ายข้อความเรียกร้อง ‘ปล่อยเพื่อนเรา’ ภายใต้การดูแลความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.หัวหมาก กระทั่งเวลา 16.58 น. เริ่มตั้งแถวบนทางเท้าหน้ามหาวิทยาลัย โดยเว้นระยะห่าง 1 ช่วงแขน และสวมหน้ากากอนามัยทุกราย
เวลา 17.00 น. เยาวชนชายตัวแทนเครือข่ายฯ ประกาศเริ่มต้นกิจกรรมอย่างเป็นทางการ โดยกล่าวว่า วันนี้คือวันแรกของการทำกิจกรรม ยืน 112 นาที ซึ่งจะสิ้นสุดในเวลา 18.52 น. ท่านใดสนใจ สามารถมาร่วมกับพวกตนได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงเริ่มต้น มีผู้ร่วมยืน 10 ราย ส่วนใหญ่เป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยรามคำแหง ทั้งระดับปริญญาตรีและปริญญาโท อาทิ นายนันทพงศ์ ปานมาศ หรือกุ๊ก และนายกฤษณะ ไก่แก้ว หรือ ‘ฟรอยด์’ นักกิจกรรมเพื่อประชาธิปไตย เป็นต้น
สำหรับรูปแบบกิจกรรมเป็นไปในลักษณะเดียวกับกิจกรรมของกลุ่มพลเมืองโต้กลับซึ่งจัดหน้าศาลฎีกา โดยเป็นการยืนสงบนิ่ง ถือและชูป้ายภาพบุคคลต่างๆ อาทิ นายภาณุพงศ์ จาดนอก หรือไมค์ ระยอง, ป้าอัญชัน, นางสาวปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือรุ้ง, นายอานนท์ นำภา, นายสมยศ พฤกษาเกษมสุข, นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน เป็นต้น นอกจากนี้ยังข้อความต่างๆ อาทิ ปล่อยเพื่อนเรา และ free our friends เป็นต้น
ทั้งนี้ กิจกรรมดังกล่าวมีประชาชนทั่วไปเข้าร่วม 1 ราย เป็นชายวัยกลางคน ทราบต่อมาว่าเป็นอดีตอาจารย์มหาวิทยาลัยเอกชนแห่งหนึ่ง
