แนะ อดอาหาร ต้องทำในชาติ ที่ผู้ปกครอง สนใจ ปชช. – ชี้ คือการบันทึก ปวศ. ‘ทำแบบนี้ในไทย ไม่เกิดผล’
เมื่อเวลา 17.30 น. วันที่ 21 เมษายน ที่ หน้าศาลฎีกา ถนนราชดำเนินใน กรุงเทพฯ กลุ่มพลเมืองโต้กลับ นัดหมายทำกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ “ยืนหยุดขัง” 1.12 ชั่วโมง วันที่ 29 เพื่อเรียกร้องให้ปล่อยตัวผู้ต้องขังจากการทำกิจกรรมเรียกร้องประชาธิปไตย ซึ่งระบุว่าจะจัดขึ้นทุกวันจนกว่าเพื่อนจะได้รับอิสรภาพ
โดยในวันนี้มีผู้เข้าร่วมกว่า 100 คน รวมถึง ชาว “หมู่บ้านทะลุฟ้า” ประมาณ 10 ราย ได้เดินทางมาร่วม ยืน หยุด ขัง ที่หน้าศาลฎีกา ภายหลังจากสิ้นสุดกิจกรรม ยืน 112 นาที บริเวณสกายวอล์ก MBK สี่แยกปทุมวัน โดยห้อยป้ายข้อความ ปล่อยเพื่อนเรา เขียนรัฐธรรมนูญใหม่ ยกเลิก 112 และตั้งร้านค้าจำหน่ายเสื้อยืด ในบริเวณใกล้กัน, รวมถึงผู้พิการทางขา 1 นั่งราย นั่งวีลแชร์ มาพร้อมตัวแทนผู้แสดงละครใบ้ ทาใบหน้าและแขน ด้วยสีเทา เพื่อร่วมแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ ไปจนถึง นพ.ทศพร เสรีรักษ์ อดีตผู้สมัคร ส.ส.พรรคไทยรักษาชาติ มาบริการเจลแอลกอฮอล์แก่ผู้ร่วมกิจกรรม พร้อมเป่าเม้าท์ออร์แกน เพลงเพื่อมวลชน กล่อมนักกิจกรรม อีกด้วย
ตัวแทนผู้แสดงละครเงียบ ซึ่งทาใบหน้าด้วยสีเทา เปิดเผยว่า เรารู้สึกว่าเป็นเรื่องที่น่าเศร้า ที่เราไม่สามารถเชื่อมั่นในกระบวนการได้ จากการแสดงที่เราสื่อออกมา คือเรารู้สึกหมดหวัง สิ้นหวัง การแสดงของเราจะเป็นละครเงียบ มันเป็นศิลปะอย่างหนึ่ง เเล้วเเต่ผู้ชมจะตีความออกมาได้
ด้าน ผู้พิการทางขา กล่าวว่า เราอยากเรียกร้องความยุติธรรมให้เพื่อนของเราที่อยู่ข้างใน
“ส่วนตัวผม เป็นผู้พิการ การเดินทางมาร่วมในครั้งนี้ก็ค่อนข้างลำบาก เรารู้สึกว่าคุณภาพชีวิตของพลเมืองทุกคน รวมถึงคนพิการ คือสิ่งที่เราควรจะได้รับ และควรจะเป็นสิทธิพื้นฐานที่เราควรจะได้รับ และเราก็คาดหวังอยากให้มีความเจริญไปถึงต่างจังหวัดด้วย เเต่ก็ไม่คาดหวังกับรัฐบาลนี้ เพราะคงคาดหวังอะไรด้วยไม่ได้” ผู้พิการทางขา กล่าว
ด้าน นายพันธ์ศักดิ์ ศรีเทพ หรือ พ่อน้องเฌอ กล่าวว่าขอบคุณ ที่มาช่วยสร้างสีสันในกิจกรรมวันที่ 29 นี้ ที่น่าชื่นชมคือ พี่น้องเราแยกกันไปจัดกิจกรรมตามจุดต่างๆ เราไม่ได้เน้นจำนวนคน เราเน้นการแสดงออก เป็นการกระจายกันไปหลายๆ จุด
คุยกับทางแม่ๆ ส่วนใหญ่ก็เคารพการตัดสินใจของลูกๆในการอดอาหาร น่าเสียใจที่ลูกๆ ออกมาต่อสู้เพื่อเปลี่ยนสังคมให้ดีกว่าเดิม จากรุ่นพ่อรุ่นแม่ ที่ทำไม่สำเร็จ และถูกโดนลงโทษ ทั้งที่ยังไม่ได้ถูกตัดสิน พูดกันว่าศาลเป็นที่พึ่งสุดท้าย แล้วถ้าพึ่งศาลไม่ได้ ก็คงต้องพึ่งตนเอง
สุดท้ายแล้ว กรณีการใช้กฎหมายอย่างไม่เป็นธรรม มีมากขึ้นเรื่อยๆ มีการข่มขู่ต่างๆ เป็นเรื่องที่น่าเสียใจ ที่ผู้ปกครองไม่รับฟังเสียงของผู้ถูกปกครอง ถ้าไม่มีผู้ถูกปกครอง แล้วคุณจะปกครองใคร
ยืนยันที่จะจัดกิจกรรมไปเรื่อยๆ จนกว่าเพื่อนเราทุกคนจะถูกปล่อยตัว และมีหลายคดี ที่คนไม่ค่อยรู้จัก เช่น เพื่อน 5 คน ที่ไปล้อมรถผู้ต้องขัง ซึ่งบางคนไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ แต่ถูกจับไปด้วยและไม่ได้รับสิทธิในการประกันตัว”
ขณะที่ผู้เข้าร่วมกิจกรรม เปิดเผยว่า วันนี้มาเป็นวันที่ 9 แล้ว เชื่อว่าคนที่อยากมาร่วม สามารถยืนที่ไหนก็ได้ ไม่จำเป็นต้องมาเข้าร่วม วิธีนี้เป็นวิธีที่ง่ายที่สุด ถ้าไปหน้าศาล ก็อาจจะถูกคดีละเมิดอีก การยืนแบบนี้เป็นสิทธิของเรา ที่ทุกคนมายืนคือ บอกให้ผู้พิพากษาทำตามกฎหมาย ให้สิทธิในการประกันตัวกับเพื่อนเรา
อยากฝากไปถึงทุกคน เรื่องโควิด อย่าให้โควิดมาเป็นข้องอ้าง ทุกท่านมาแสดงออกได้ ทุกคนใส่หน้ากาก เรามายืนเว้นระยะห่าง ไม่ใช่มายืนกอดกัน อยากให้มาแสดงออก ที่ไหนที่ท่านสะดวก
“ถ้าท่านรักความยุติธรรม อยากให้ท่านออกมาแสดงออก ผมอยากให้พวกเขาที่อดอาหาร ออกมาใช้ชีวิตต่อ การที่อดอาหารประท้วงต้องทำในประเทศที่ผู้ปกครองเขาสนใจประชาชน เราจะมาใช้วิธีนี้ในประเทศแบบนี้ มันใช้ไม่ได้ แต่ก็สนับสนุนที่เขาทำ มันเป็นการบันทึกในประวัติศาสตร์ไทย ว่าทำแบบนี้ในประเทศไทยแล้วไม่เกิดผล” ผู้เข้าร่วมกิจกรรมกล่าว
