ทูตรัศมิ์ ชี้ ประชุมเรื่องพม่า โลกจับตา ไทยควรโชว์บทบาท แต่ผู้นำไทยกลับไม่เข้าร่วม ชี้ ไม่ใช่หน้าที่ของ กต. ที่จะออกมาบอก ว่า ผู้นำรัฐประหารพม่าจะไปประชุมที่ไหน หนุน ประยุทธ์ ไปประชุม เพื่อประกาศจุดยืนไทย อยู่ข้างชาวพม่าที่ถูกกระทำ
เมื่อวันที่ 23 เมษายน นายรัศม์ ชาลีจันทร์ อดีตเอกอัครราชทูตไทยหลายประเทศ เจ้าของเพจ ‘ทูตนอกแถว’ โพสต์ข้อความ แสดงความเห็นเรื่อง การประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน…ที่ไม่มีผู้นำไทย วิจารณ์ท่าทีของรัฐบาลไทยต่อการกลับ ระบุว่า
แม้ขณะนี้ความสนใจของพวกเราจะอยู่ที่ปัญหาการแพร่ระบาดของโรคโควิด แต่ผมอยากมาเรียนว่าวันที่ 24 เม.ย. พรุ่งนี้ จะมีการเหตุการณ์สำคัญที่ไม่เคยเกิดมาก่อนในภูมิภาคนี้ ที่กรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเชีย ซึ่งก็คือประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนวาระพิเศษ
ที่บอกว่าไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนนั้นคือการที่บรรดาผู้นำประเทศสมาชิกอาเซียนมาประชุมหารือร่วมกันเกี่ยวกับสถานการณ์ทางการเมืองของอีกประเทศสมาชิกหนึ่งเป็นการเฉพาะ ซึ่งที่ผ่านมาตั้งแต่แรกเริ่มก่อตั้งเมื่อห้าสิบกว่าปีที่แล้ว การหลีกเลี่ยงการแทรกแซงการเมืองภายของกันและกัน ถือเป็นกฎเหล็กที่ทุกประเทศต้องยึดถือ สิ่งนี้จึงถือเป็นความท้าทายอย่างยิ่งและนับได้ว่าเป็นศักราชใหม่ของสมาคมนี้ทีเดียว
และการประชุมสุดยอดครั้งนี้ ซึ่งมีความสำคัญยิ่งเพราะนอกจากจะสามารถช่วยหาทางแก้ไขวิกฤติการณ์ในภูมิภาคแล้ว ยังจะมีส่วนกำหนดทิศทางความร่วมมือต่อไปในอนาคต รวมทั้งความอยู่รอดของตัวสมาคมเองด้วย
แต่หากเป็นไปตามข่าวที่ปรากฏ นี่จะเป็นการประสุดยอดผู้นำอาเซียนครั้งแรกที่ไม่มีผู้นำไทยเข้าร่วม
ขณะนี้ทุกฝ่าย ไม่ว่ามหาอำนาจใดในโลก ต่างก็ล้วนอยากเห็นทางออกของวิกฤติการณ์ในพม่า เพราะถ้ายิ่งยืดเยื้อออกไปก็คงไม่เป็นผลดีกับฝ่ายใดทั้งสิ้น โดยเฉพาะไม่สามารถคาดการณ์ได้แน่นอนว่าจะลงเอยเช่นใด ชาวโลกจึงฝากความหวังว่าสมาคมอาเซียนจะสามารถพูดคุยกันเองเพื่อช่วยหาทางออกให้กับวิกฤตการณ์นี้ และจึงเป็นที่แน่นอนว่าในวันพรุ่งนี้สายตาของชาวโลกจะจับอยู่ที่การประชุมสุดยอดดังกล่าว
ที่จะไม่มีผู้นำไทยร่วมอยู่ด้วย…
ใครจะว่าอย่างไร ในความเห็นของผม นี่คือตัวชี้วัด บทพิสูจน์ ที่ชี้ให้ถึงความตกต่ำอย่างที่สุด ไม่เคยปรากฏมาก่อนของการต่างประเทศไทยในทุกวันนี้
ไม่เหลือศักดิ์ศรี บทบาทความเป็นผู้นำ วิสัยทัศน์ใดๆ ทั้งๆที่แทบจะกล่าวได้ว่าประเทศไทยคือตัวจักรสำคัญที่ก่อตั้งสมาคมนี้ขึ้นมากับมือ และมีบทบาทสำคัญตลอดมา
ที่สำคัญนี่คือช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อขององค์กรนี้ ที่ต้องการได้รับการร่วมแรงร่วมใจในการแก้ไขวิกฤตปัญหาในหมู่ประเทศสมาชิกด้วยกัน สิ่งนี้มันคือพันธะต่อส่วนรวม การที่ผู้นำไม่ยอมเข้าร่วมการประชุมนี้จึงไม่ต่างอะไรกับการละทิ้งความรับผิดชอบที่บรรดาประเทศสมาชิกพึงมีร่วมกันต่อสมาคมอย่างน่าละอายยิ่ง
ก็ไม่ทราบว่าคิดอะไร คิดได้อย่างไร ใครแนะนำให้ไม่เข้าร่วมประชุมที่สำคัญเช่นนี้ สำหรับข้ออ้างที่ว่าต้องดูแลสถานการณ์โรคโควิดในประเทศนั้น ผมจะไม่ขอพูดอะไรเพราะจากการดำเนินการของรัฐบาลที่ผ่านมา เชื่อว่าทุกท่านคงทราบดีกันอยู่แล้วว่าข้ออ้างนี้มันสมเหตุผลเพียงใด การไปประชุมที่สำคัญยิ่งต่อภูมิภาคส่วนรวมเพียงหนึ่งวันจะต่างอะไรกับท่านจะอยู่หรือไม่อยู่ในประเทศ? ส่วนการส่งผู้แทนไปนั้นมันก็แค่แก้เกี้ยว ซึ่งในแง่น้ำหนัก ความน่าเชื่อถือและสัญลักษณ์ของความร่วมมือ มีก็เหมือนไม่มี ไปก็เหมือนไม่ไป นั่นแหละ
และข้ออ้างที่ว่ามานั้น ประเทศสมาชิกเขาฟังแล้วจะเชื่อหรือหัวเราะด้วยความสมเพช? แล้วเหตุผลจริงๆมันคืออะไร ? กลัวจะเข้าเนื้อ? กลัวเป็นวัวสันหลังหวะ? ซึ่งถ้าเป็นเช่นนั้น การไม่ไปเข้าร่วมประชุมมันก็มองได้เช่นกันว่า ผู้นำไทยยอมรับโดยปริยายว่าสิ่งที่ตนทำกับประเทศชาตินั้น มันไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้อง จึงไม่กล้าสู้หน้า สบตาคนอื่นในยามเผชิญปัญหาของภูมิภาค ที่จะมากจะน้อย ก็ไทยนั่นแหละที่เป็นต้นแบบ เป็นส่วนหนึ่งของต้นตอปัญหาที่ทำให้เกิดการเลียนแบบจนกลายมาเป็นวิกฤตการณ์ครั้งนี้
และมันก็น่าขำแบบเฝื่อนๆที่ตอนนี้เวลามีประชุมสำคัญๆที่มหาอำนาจเขาจัดกัน เช่นที่สหรัฐฯเขาจัดเร็วๆนี้ เขาก็เชิญประเทศอาเซียนอื่น แต่ไม่เชิญไทย หรือแม้แต่การประชุมโป๋อ่าวฟอรั่ม (ที่เมื่อก่อนมีพี่โทนี่ฯ ไปเข้าร่วมเป็นพระเอกโชว์วิสัยทัศน์เป็นประจำ) จีนเองยังไม่ยอมเชิญไทยเลย แล้วนี่การประชุมสุดยอดอาเซียนที่ไทยควรเข้าไปมีบทบาท กลับไม่ยอมไป การต่างประเทศไทยว่าไปก็แทบไม่เหลืออะไรแล้ว
ลงท้ายกันด้วยเห็นข่าวกระทรวงต่างประเทศออกมาให้ข่าวว่าพลเอกมิน อ่อง ลาย จะเข้าร่วมการประชุมสุดยอดครั้งนี้ ซึ่งผมก็งงๆว่ามันเป็นหน้าที่อะไรของกระทรวงต่างประเทศไทย ที่ต้องมาบอกว่าผู้นำทหารพม่าจะไปประชุมที่ไหนอะไร แถมไทยก็ไม่ได้เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมด้วย หรือว่าทุกวันนี้ไม่เหลืออะไรทำแล้ว เลยต้องมาทำหน้าที่เป็นโฆษกให้ทหารพม่าที่ทั่วโลกเขารังเกียจ?
(ปล.กลับตัวไปร่วมประชุมยังทันนะครับ เราสามารถเป็นพระเอกแบบอย่างที่ดีให้กับสมาคมอาเซียนและโลกได้เลย โดยแสดงจุดยืนอยู่เคียงข้างประชาชนชาวพม่า และแถมด้วยการประกาศให้ประเทศไทยมีการเลือกตั้ง มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญใหม่ที่เป็นธรรมและประชาธิปไตยแท้จริง เชื่อผมสิ หล่อเลยล่ะ)